BTS
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 2 ปี 2568

สรุป OPPDAY

โอเคครับ นี่คือสรุปเนื้อหาการประชุม Oppday จากไฟล์เสียงที่ได้รับ โดยรวบรวมใจความสำคัญและประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทอย่างละเอียดและครบถ้วน

BTS Group: สรุปผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 - การเติบโตของ Match หนุนกำไรสุทธิ

สวัสดีและขอต้อนรับนักลงทุนทุกท่าน เข้าสู่งาน Opportunity Day รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2568/69 ของ BTS Group และ BTGIF

ขอแนะนำผู้บริหารและทีมงานที่อยู่กับเราในวันนี้:

  1. คุณชวดี รุ่งเรือง: ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินของ BTS Group
  2. คุณสินัฏฐา เกี่ยวข้อง: ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเพื่อความยั่งยืน BTS Group
  3. คุณสิริเพ็ญ หวังดำรงเวทย์: ผู้จัดการกองทุน BTGIF
  4. คุณสศิชล และคุณกันธร: IR จาก BTS Group

ทีม IR จะรายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้าของแต่ละธุรกิจ และคุณสิริเพ็ญจะรายงานผลการดำเนินงานของกองทุน BTGIF และหลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วง Q&A

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมเหตุการณ์สำคัญในไตรมาสล่าสุด:

  • รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้รับเงินสนับสนุนประจำปีงวดที่ 3 จาก รฟม. จำนวน 2,500 ล้านบาท
  • ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้แก่ BTSC สำหรับฟ้องครั้งที่ 2 รวม 12,800 ล้านบาท
  • ได้รับการชำระหนี้ O&M ครบทั้งหมด โดยครอบคลุมหนี้ค้างชำระตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2568 รวมเงินต้นและดอกเบี้ย 36,400 ล้านบาท
  • VGI ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็น 23.3%
  • Rabbit ได้ขายหุ้นในบริษัท Keystone Estate จำกัด รวมถึง shareholder loan ให้กับบริษัท กิ่งแก้ว Estate จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม BTS มูลค่า 1,265 ล้านบาท
  • ผลการดำเนินงานของ Logtech ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสที่สองมีรายได้ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY

Financial Highlights ในไตรมาสที่สอง:

  • รายได้จากการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขึ้น 48% YoY
  • Recurring EBITDA เพิ่มขึ้น 87% YoY และ 35% QonQ
  • กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 129% YoY และ 145% QonQ

ฐานะการเงินของบริษัทได้รับการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ โดยมีเงินสดและเงินลงทุนสภาพคล่องรวม 36,700 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อส่วนของผู้ถือหุ้นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 1.42 เท่า

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

VGI เริ่มเห็นประโยชน์ของกลยุทธ์ ecosystem ที่ชัดเจนจากการร่วมมือกับ Plan B ส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจโฆษณา VGI ให้ความสำคัญกับการผสานสื่อของรถไฟฟ้าเข้ากับสื่อ Out of Home Media ของ Plan B เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคตลอดเส้นทางการเดินทางในชีวิตประจำวัน และสนับสนุนการเพิ่มอัตราการใช้สื่อ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

VGI ปรับลดประมาณการรายได้ทั้งปีจาก 6,000 ล้านบาท เป็น 5-5.5 พันล้านบาท ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวและสมมติฐานที่ระมัดระวังมากขึ้นทั้งฝั่งโฆษณาและการใช้จ่ายภาคค้าปลีก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทได้นำเงินส่วนหนึ่งจากการชำระหนี้ไปชำระหนี้สินคงค้าง และนำเงินส่วนที่เหลือไปฝากไว้กับธนาคารเพื่อใช้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและเพิ่มรายได้ดอกเบี้ย

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

BTS Group คาดการณ์ CFO หรือกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงานประมาณ 38,000 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ มาจากเงินชำระหนี้ O&M รวมถึงเงินสนับสนุนจากภาครัฐของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่จะได้รับเป็นระยะเวลา 10 ปีหลังการดำเนินงาน

สำหรับปีงบประมาณหน้า BTS Group คาดการณ์ CFO อยู่ที่ประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ O&M และเงินอุดหนุนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 45:46]

คำถาม: Outlook ของปีงบประมาณนี้จะเป็นอย่างไร?

คำตอบ:

ถ้าดูรายได้จากการดำเนินงาน (operating revenue) คาดว่าทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 27,500 ล้านบาท ปรับลดลงจากเป้าที่เคย guidance ไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย เนื่องจากทาง VGI มีการปรับเป้ารายได้ลดลง

  • Rabbit และ Logtech ยังคาดว่าจะเป็นไปตามแผน
  • Rabbit น่าจะได้ประโยชน์จาก high season ของภาคท่องเที่ยวในช่วง Q3-Q4
  • Logtech เองการรับรู้รายได้ก็ยังเป็นไปตามแผน มี backlog ที่ทยอยรับรู้อยู่

Interest income: เนื่องจากได้รับการชำระเงิน O&M จาก กทม. เมื่อสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประมาณ 36,000 ล้านบาท ทำให้ interest income ของเราปรับตัวลดลง เดิมเคย guide ไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 1,000 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท

เงินที่ได้มา 36,000 ล้านบาท นำไปใช้ชำระหนี้ประมาณ 15,000 ล้านบาท อีกประมาณ 21,000 ล้านบาท ฝากธนาคารไว้เพื่อรอใช้จ่ายในอนาคต การลดหนี้หรือฝากธนาคารจะช่วย save ในเรื่องของ finance cost และมี interest income เพิ่มขึ้นมา

Net-net impact จากการได้รับการชำระหนี้ กทม. คาดว่าในปีนี้น่าจะอยู่ที่ Hurt P&L ประมาณ 600 ล้านบาท แต่ก็มองว่าจะมีกำไรจากส่วนอื่นมาชดเชยบางส่วน เพราะฉะนั้นปีนี้ก็ไม่น่าจะมี impact สาระสำคัญจากรายการนี้

EBITDA ยังคง confirm เป้าหมายเดิมที่เคยให้ไว้ อยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า ได้รับแรงสนับสนุนจากการ consolidate งบของ Logtech กับ Rabbit

Cash flow from operation: หลังจากได้รับเงินจาก กทม. 36,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่า cash flow from operation น่าจะเป็นบวก อยู่ที่ประมาณ 38,000 ล้านบาท ส่งผลให้ adjusted net DE ratio น่าจะปรับตัวลง จากปัจจุบันที่งบสิ้นเดือน 9 ประมาณ 1.4 เท่า หลังจาก adjust แล้ว น่าจะเหลือประมาณเกือบๆ 1.1 เท่า

คำถาม: ผลจากการที่ กทม. ชำระหนี้เราเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผลกระทบอย่างไรบ้าง?

คำตอบ:

Impact net-net คือ Hurt P&L น่าจะประมาณ 600 ล้านบาท แต่คาดว่าจะกำไรส่วนอื่นมาชดเชยบางส่วน จึงไม่คาดว่าจะมี significant impact กับ P&L สำหรับปีนี้

เงิน O&M ที่เป็น ongoing ที่เป็นรายเดือน คาดว่าจะมีเงินเข้ามาเป็นรายเดือนหลังจากนี้ O&M fee ต่อเดือน ตกประมาณเดือนละ 700 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท รวมถึงสร้างโอกาสสำหรับบริษัทในการดำเนินธุรกิจอื่นๆ

คำถาม: บริษัทมีแผนจ่ายเงินปันผลหรือไม่?

คำตอบ:

เรื่องของเงินปันผลกำลังพิจารณาอยู่ มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น เรื่องของ liquidity เรื่องคือคือเรื่องของของตัวเงิน นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของกำไรด้วย มีในเรื่องของแผนลงทุนในอนาคตด้วย ตอนนี้กำลังพิจารณากันอยู่

คำถาม: แนวโน้มจำนวนผู้โดยสารในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไรบ้าง?

คำตอบ:

คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว คาดการณ์ไว้ประมาณ 100 ล้านเที่ยว ปัจจัยที่มีผลกระทบคือ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยลงจากปีก่อน มีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบ เรื่องของการปรับราคาเมื่อต้นปี แต่ตรงนี้น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น

คำถาม: แนวโน้ม operating cost และ capex ในครึ่งปีหลังของ BTGIF เป็นอย่างไร?

คำตอบ:

คาดการณ์ว่าจะเป็นในส่วนของยอดรวมประมาณ 1,376 ล้านบาท ตามที่อยู่ในรายงานประเมินล่าสุด ประกอบด้วยค่าซ่อมแซมประมาณ 572 ล้านบาท เป็นค่าพนักงานและ operating expense อื่นๆ 677 ล้านบาท และมี capex อยู่ 127 ล้านบาท รวมกันก็ 1,376 ล้านบาท

คำถาม: การปรับขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียวครั้งถัดไป จะเป็นการปรับขึ้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และผลกระทบของการที่ กทม. ขึ้นค่าโดยสารของสายสีเขียวต่อส่วนต่อขยาย ณ ส่วนนี้ เราได้รับส่วน เราได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง?

คำตอบ:

เรื่องของการปรับค่าโดยสารของสายสีเขียวส่วนหลัก ทาง BTS กับทางกองทุนก็อยู่ระหว่างการพิจารณา และก็จะนำเสนอทาง กทม. ต่อไป

ผลกระทบของการปรับค่าโดยสารสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เนื่องจากว่ามันมีการร่วมกับโครงการคนละครึ่งด้วย 1 พฤศจิกายนมีการปรับค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ส่วนคนการคนละครึ่งเนี่ยก็เริ่มใช้ปลายเดือนตุลาคม ดังนั้นสอนอันมันก็จะมา่วมกัน มันก็เลยทำให้การปรับการปรับ ค่าโดยสารเนี่ยก็ไม่ได้รับผลกระทบมาก

คำถาม: ธุรกิจ Logtech มีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐและเอกชนคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร?

คำตอบ:

ในส่วนของ Logtech รายได้ที่มาจากในส่วนของภาครัฐเมื่อเทียบกับส่วนของเอกชนจะอยู่ที่ประมาณ 60:40 Direction แล้วก็มองว่าจะอยู่ในช่วงในระยะสั้นก็จะอยู่ในช่วง range ประมาณ 60 ต่อ 40 ครับ แต่ต้องขออนุญาต โน๊ตนิดนึงว่าในส่วนของ Logtech Revenue เนี่ย จะมีทั้งรายได้ที่มาจาก ICT ซึ่งเป็น Business ของ ทาง Logtech รวมถึงอีกประมาณสัก 10-15% เนี่ยที่มาจาก Advertising Revenue นะครับ อันนี้เป็นสัดส่วนที่เบลนรวมกันแล้วค่ะ เป็น 60 40 รัฐ แล้วก็เอกชนค่ะ

คำถาม: เมื่อหักส่วนแบ่ง Share of ของบริษัทร่วม อยากทราบว่ายังมีธุรกิจตัวไหนอ่ะค่ะ ที่เป็น challenge ของบริษัทเราอยู่บ้างค่ะ?

คำตอบ:

Challenge หลักๆ ก็ตอนนี้ น่าจะเป็น สายสีชมพู กับ สายสีเหลือง อ่ะนะคะ ที่วันนี้นะคะ ปริมาณผู้โดยสารเนี่ยค่ะก็ยังไม่ได้ Trigger จุดคุ้มทุนของเราอ่ะนะคะ วันนี้ชมพูเหลืองก็ยังขาดทุนอยู่ นะคะ ก็ อย่างคอร์เตอร์ที่ผ่านมาเนี่ยค่ะ ก็ชมพูเหลืองรวมๆ กันเน็ตๆ ก็ขาดทุนประมาณที่ ที่อยู่ใน performance ของเราอ่ะนะคะ ก็ติดลบไปประมาณสัก 400 ล้านบาทค่ะ ค่ะ แต่ว่า อย่างไรก็ตามค่ะตรงนี้เราก็มีพยายามดูในในในส่วนของการทำเรื่องของโปรโมชั่นค่าตั๋ว นะคะ การออก solution package นะคะ เพื่อดึงดูดให้ ให้ ผู้โดยสารค่ะ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วก็มาเดินทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วสายสีเหล็กมากขึ้นอ่ะนะคะ ที่ผ่านมาเนี่ยก็ได้รับการตอบรับ ดีพอสมควรนะคะ ในเรื่องของตัวscription package นะคะ ก็ ก็มีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นค่ะจาก จากตัว ทำ package นี้ค่ะ

โดยสรุปผลการดำเนินงานของ BTS Group ในไตรมาส 2 ปี 2568 มีการเติบโตที่โดดเด่นในส่วนของธุรกิจ Match ซึ่งช่วยผลักดันให้รายได้รวมและกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะมีปัจจัยท้าทายบางประการ เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการปรับลดประมาณการรายได้ของ VGI แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและแสวงหาโอกาสในการเติบโตในอนาคต