สรุปงบล่าสุด BPP
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บ้านปู เพาเวอร์ (BPP): ผลประกอบการไตรมาส 3/2567
บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ภายใต้แนวทาง "8๑หอทสู่ ไอฮลพลนิร 2๐๐|๐' ภายในปี 2030 โดยขยายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตพลังงาน อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน (ธีก6เฮห !ทกัธรแน๐๒) โครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (0๑๐๐ก Capture Utilization and Storage: CCUS) และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) เพื่อมุ่งสู่การเป็น “บริษัทผู้ผลิตพลังงานยั่งยืน (ธนธไฒ่ทอ๒ว!ธ ฉิทธเยห Generation Company)” ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,134 ล้านบาท ลดลง 965 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและอุณหภูมิที่ร้อนน้อยกว่าที่คาดไว้ และรับรู้กำไรลดลงจากโรงไฟฟ้า 80.6 เนื่องจากมีปริมาณขายไฟลดลงอันเป็นผลจากสภาพอากาศ รวมถึงมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจำนวน 1,093 ล้านบาท อันเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า 81.07 และ 450 อันเป็นผลจากการเดินเครื่องที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาค่าความพร้อมจ่าย (5/" ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
## แผนธุรกิจและกลยุทธ์
บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก 556 ที่คำนึงถึงทั้งการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสังคมและชุมชน รวมถึงการกำกับดูแลกิจการให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ บริษัทฯ มุ่งเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ด้วยทีมงานคุณภาพและมีความเชี่ยวชาญ พร้อมสร้างผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลแก่ผู้ถือหุ้น และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
## โอกาสและความเสี่ยง
ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของธุรกิจพลังงานที่มีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยอาศัยกลยุทธ์การขยายธุรกิจและการปรับปรุงประสิทธิภาพ
**โอกาส**
* การลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงาน
* การขยายธุรกิจไปยังประเทศที่มีศักยภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค
* การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่
**ความเสี่ยง**
* ความผันผวนของราคาพลังงาน
* การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล
* ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
* ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
**วิเคราะห์โอกาสลงทุน:**
จากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง BPP มี **P/E 10.11** **P/BV 0.68** และ **Yield 6.84%** ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี เท่ากับ 14.41 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน (3Q2567) อยู่ที่ 12.39 บาท โดย D/E (4Q2566) อยู่ที่ 0.81 แสดงถึงภาระหนี้สินที่สูง
**แนวโน้ม**
* ราคาหุ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
* P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด แสดงถึงความคาดหวังนักลงทุนในระดับต่ำ
* P/BV ต่ำกว่า 1 แสดงถึงมูลค่าตลาดต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี อาจเป็นไปได้ว่า ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริง
* Yield สูง แสดงถึงโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผล
* วงจรเงินสด (4Q2566) อยู่ที่ 36.8 แสดงถึงการหมุนเวียนเงินสดของบริษัทที่มีประสิทธิภาพ
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน (4Q2566) อยู่ที่ 3753.627 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน (4Q2566) อยู่ที่ -13426.268 ล้านบาท แสดงถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ
**รายละเอียดเพิ่มเติม:**
* **กำไรขั้นต้น**: 619 ล้านบาท ลดลง 7,430 ล้านบาท เกิดจาก
* ลดลงจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา
* เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร**: 524 ล้านบาท ลดลง 68 ล้านบาท
* **ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า**: 1,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 875 ล้านบาท เกิดจาก
* เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า 80.00
* เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า 150 และเหมือง 505๐
* ลดลงจากโรงไฟฟ้า 986.6
* เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมลงทุนโรงไฟฟ้า ]ง๑๐5๐
* ลดลงจากการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงาน
* **กำไร (ขาดทุน) สุทธิจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน**: 2,192 ล้านบาท
* **กำไร (ขาดทุน) สุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยน**: (857) ล้านบาท
* **รายได้อื่น ๆ**: 174 ล้านบาท
* **ดอกเบียจ่ายและต้นทุนทางการเงิน**: 754 ล้านบาท
* **ภาษีเงินได้นิติบุคคล**: 171 ล้านบาท
* **เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน**: 22,900 ล้านบาท ลดลง 2,126 ล้านบาท เกิดจาก
* เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินเพิ่ม
* จัดประเภทจากเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี
* ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว
* ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
* **หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น**: 3,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119 ล้านบาท เกิดจาก
* เพิ่มขึ้นจากหนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
* เพิ่มขึ้นจากหนี้สินสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน
* ลดลงจากเงินกู้ยืมระยะยาวจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น**: 54,652 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาท
* **อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน**: 0.47 เท่า (ณ วันที่ 30 กันยายน 2567)
* **งบกระแสเงินสด**:
* เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน: (334) ล้านบาท
* เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน: (1,183) ล้านบาท
* เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน: (723) ล้านบาท
**ข้อสรุป**
โดยรวม บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ถือเป็นโอกาสลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบการรับเงินปันผลระยะยาว (Value Investor) โดยราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ และมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาพลังงานและอัตราแลกเปลี่ยน
(1.99%)
(57.39%)
(23.37%)
(91.07%)
(21.83%)
(79.05%)
(19.87%)
(11.58%)
(15.52%)
(45.97%)
(173.67%)
(105.38%)