BGRIM
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday B.Grimm Power ปี 2567: กลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกพลังงานผันผวน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ปี 2567 B.Grimm Power เผชิญกับปัจจัยภายนอกที่ท้าทาย เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงาน, ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง, และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อลูกค้าอุตสาหกรรม รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ (Geopolitics) โดยเฉพาะนโยบายของคุณทรัมป์

ถึงแม้จะเผชิญกับความท้าทาย B.Grimm Power ยังคงเติบโตในด้านกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) และรักษากำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NTP to Owner) ได้ โดยมี EBITDA margin ปรับขึ้นเป็น 26.8% และ NTP to Owner ปรับขึ้นเป็น 2,200 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.8%)

Portfolio ของบริษัทเติบโตขึ้นด้วยพลังงานหมุนเวียน 1,345 เมกะวัตต์ ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในเกาหลี (744 MW), โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาใน UAE, ซาอุดีอาระเบีย และบาห์เรน (33.7 MW), โครงการพลังงานน้ำในสหรัฐอเมริกา (30 MW), และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในฟิลิปปินส์ (65 MW) รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภายใต้โครงการของรัฐบาลไทย (476 MW)

มีการนำเข้า LNG ทั้งสิ้น 3 หลัก (ประมาณ 198,000 ตัน) เข้าสู่ระบบท่อก๊าซเพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม

ยอดขายไฟสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น, ยอดขายไฟให้ลูกค้าอุตสาหกรรมในเวียดนามเพิ่มขึ้น, ยอดขายไอน้ำเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิมที่ขยายโรงงาน, และพลังงานหมุนเวียน (แสงอาทิตย์และพลังงานน้ำ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาแก๊สธรรมชาติมีการปรับตัวลดลง 14% และมีการเชื่อมเข้าระบบขายไฟของลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ 11.2 MW

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาใน 3 ส่วนหลักตามกลยุทธ์ Green Leap: การให้โซลูชั่นแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม, การผลิตไฟฟ้าจ่ายเข้ากริดจากแก๊สธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน, และการพัฒนาเชื้อเพลิงยั่งยืน (Sustainable Fuel) เช่น ไฮโดรเจน

การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ: บริษัทไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่มีธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์), เอเชียเหนือ (เกาหลี, ญี่ปุ่น), สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, และตะวันออกกลาง

Data Center: มองเห็นโอกาสในการขายไฟฟ้าให้กับ Data Center ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ รวมถึงการร่วมลงทุนพัฒนา Data Center ร่วมกับ Partner

นิคมอุตสาหกรรมอมตะ: การขยายพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ (6,000 ไร่) เป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามา

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ปัจจัยภายนอก: การเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงาน, ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง, และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของลูกค้าอุตสาหกรรม

ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ (Geopolitics) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

การบริหารความเสี่ยงด้านราคาแก๊ส: โดยการพูดคุยกับภาครัฐ, ชี้แจงสถานการณ์, และนำเข้า LNG เพื่อลดต้นทุนแก๊สและลดการจ่าย Margin ให้กับ ปตท.

การบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยน: โดยใช้นโยบาย Cash Flow Hedging และการทำ Natural Hedge

การปรับโครงสร้างทางการเงิน: โดย Rebalance เรื่องของ Debt to Equity และ Convert Loan to Related Party เป็นส่วนของ Equity มากขึ้น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทตั้งเป้าหมายกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดยกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)

บริษัทจะพัฒนาเครือข่ายสายส่ง, ทำ Solar Rooftop, และทำธุรกิจที่เกี่ยวกับ REC Trading ต่อไป

บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการต่อไป โดยที่ปี 2030 มี target ที่ 10,000 เมกะวัตต์ โดยกว่าครึ่งหนึ่งใน 10,000 เมกะวัตต์ จะเป็นพลังงานจากพลังงาน Renewable Energy

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่นาที 33:53

  1. การบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าแก๊สและการแทรกแซงราคาค่าไฟจากรัฐ
    • คำถาม: บริษัทมีวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าแก๊สและการแทรกแซงราคาค่าไฟจากรัฐอย่างไร และ Gas Link ดำเนินการไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์?
    • คำตอบ: บริษัทพยายามพูดคุยกับภาครัฐและนำเข้า LNG เพื่อลดต้นทุนค่าแก๊ส มีการพูดคุยกับลูกค้าอุตสาหกรรมเพื่อทำ Gas Link ซึ่งดำเนินการไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตลูกค้า
  2. ความคืบหน้าแผนธุรกิจ Data Center
    • คำถาม: ขอทราบความคืบหน้าเรื่องแผนธุรกิจ Data Center, กำลังการผลิตที่มองไว้, และรายได้ที่จะเข้ามาช่วงไหน?
    • คำตอบ: ธุรกิจ Data Center มี 2 ส่วน คือการขายไฟให้ Data Center (New IU 40-50 MW ในปีนี้) และการร่วมลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเริ่มสร้าง Data Center ใน 1-2 ปี และมีรายได้หลังจากเริ่ม Operate ใน 2-3 ปีข้างหน้า
  3. งบการลงทุนปี 2568
    • คำถาม: ขอทราบงบการลงทุนในปี 2568 และแหล่งเงินทุนที่จะใช้?
    • คำตอบ: งบการลงทุนประมาณ 10,000-12,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการที่ Commit แล้ว (เกาหลี, ฟิลิปปินส์, M&A) ใช้ Debt to Equity ประมาณ 3 เท่า และ EPC Financing ซึ่งใช้ Equity ค่อนข้างน้อย (10-15%)
  4. เป้ารายได้ปีนี้
    • คำถาม: ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเท่าไหร่ และมาจากส่วนไหนเป็นสำคัญ?
    • คำตอบ: คาดว่าจะเติบโต 10-15% มาจาก Solar Farm และ Wind Farm ที่เกาหลี
  5. แผนออกหุ้นกู้และเป้าหมาย Net D/E ปีนี้
    • คำถาม: ปีนี้มีแผนออกหุ้นกู้เท่าไหร่ และเป้าหมาย Net D/E ปีนี้อยู่ที่เท่าไหร่?
    • คำตอบ: อยู่ในขั้นตอนหา Funding โดยใช้ Asset Monetization และ Strategic Partner อาจออกหุ้นกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่จะออกจริงน้อยกว่านั้น (6,000-8,000 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการลงทุน
  6. ดีล M&A
    • คำถาม: คาดว่าปีนี้จะมีดีล M&A เกิดขึ้นกี่ดีล และเป็นโรงไฟฟ้าประเภทไหนบ้าง?
    • คำตอบ: น่าจะมี 1-2 ดีล โฟกัสที่ Renewable Energy ในต่างประเทศ และ Data Center หรือการร่วมลงทุน
  7. ความคืบหน้าโครงการ Thang Long 1 และ Thang Long 2
    • คำถาม: ขอทราบความคืบหน้าโครงการ Thang Long 1 และ Thang Long 2?
    • คำตอบ: Thang Long 1: การผลิตอุปกรณ์หลักคืบหน้าดีกว่าที่คาด ติดตั้งอุปกรณ์ในทะเลเดือนนี้ และ COD ภายในปีนี้ Thang Long 2: อยู่ในขั้นตอน Bidding ของ REC
  8. โครงการ Solar ที่ฟิลิปปินส์
    • คำถาม: ขอทราบความคืบหน้าโครงการ Solar ที่ฟิลิปปินส์ (65 MW), ลักษณะสัญญาซื้อขายไฟ, และผลตอบแทนที่คาดหวัง?
    • คำตอบ: โครงการอยู่ที่เกาะ Negros คาดหวังผลตอบแทน IRR ที่ประมาณ 12% สัญญาซื้อขายไฟมี 3 ทางเลือก (ขายเข้ากริด, Private PPA, Merchant Market) บริษัทจะเน้นขายเข้ากริดและทำ Private PPA
  9. แนวทางการบริหารจัดการผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
    • คำถาม: ขอทราบแนวทางการบริหารจัดการผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน?
    • คำตอบ: ใช้นโยบาย Cash Flow Hedging, Natural Hedge, และ Rebalance Debt to Equity โดย Convert Loan to Related Party เป็น Equity มากขึ้น
  10. การลด Debt to Equity Ratio (DE)
    • คำถาม: การลด DE Ratio จะเห็นเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่?
    • คำตอบ: อยู่ในระหว่าง Process ทำ Strategic Partner และปรับ DE Ratio คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในครึ่งปีแรก

โดยสรุป B.Grimm Power ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ