สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในตลาดเครื่องสำอางและความงาม ที่ส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัท โดยรายได้รวมไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 110.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรสุทธิกลับติดลบอยู่ที่ (13.81) ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 23.81% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ รายได้รวมอยู่ที่ 326.67 ล้านบาท ลดลง 4.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิติดลบอยู่ที่ (45.55) ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทได้ประกาศแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2567 ที่ 450 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่ท้าทาย เนื่องจากตลาดเครื่องสำอางและความงามในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง และผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้น บริษัทจะต้องพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเพื่อรักษาฐานลูกค้าและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ

การวิเคราะห์ผลประกอบการของ BEAUTY ในไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของธุรกิจ โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลง แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นก็ตาม แสดงให้เห็นถึงต้นทุนที่สูงขึ้น หรือการลดราคาขายเพื่อดึงดูดลูกค้า อัตราส่วน D/E ที่ 0.27 แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในอนาคต อย่างไรก็ตาม P/E ติดลบ และ P/BV เท่ากับ 2.05 บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการในอนาคต ในขณะที่ราคาหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 0.46 บาท แสดงถึงการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา วงจรเงินสดของ BEAUTY อยู่ที่ 124.65 วัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการเงินสดที่ต่ำ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการลงทุนและเติบโตในอนาคต เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานและการลงทุนของบริษัทอยู่ที่ 26.30 ล้านบาท และ (9.59) ล้านบาท ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงการลดลงของเงินสดที่ใช้ในการดำเนินงานและการลงทุน

ด้วยผลประกอบการที่ผันผวนและอัตราส่วนทางการเงินที่ไม่น่าดึงดูด BEAUTY อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลหรือถือหุ้นยาว แต่สำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น อาจพิจารณาลงทุนเพื่อทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาหุ้น

**โอกาส**
* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* บริษัทมีแผนการขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศ
* บริษัทมีแผนพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

**ความเสี่ยง**
* ตลาดเครื่องสำอางและความงามมีการแข่งขันสูง
* ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้น
* ผลประกอบการของบริษัทมีการผันผวน
* ความสามารถในการบริหารจัดการเงินสดต่ำ