BAM
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

BAM โชว์ผลงานปี 67 โตต่อเนื่อง เดินหน้าลงทุนเพิ่ม สร้างผลตอบแทนยั่งยืน

สวัสดีค่ะ พบกับการรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดยคุณนสุ จันทร์สม (Chief Business Development) และคุณณัชชา ศรีโพธิ์ทองนาค

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในไตรมาสที่ 4 บริษัทมีผลเรียกเก็บ 4,251 ล้านบาท ทำให้ผลเรียกเก็บรวมทั้งปีอยู่ที่ 15,161 ล้านบาท กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน และรวมกำไรของปีอยู่ที่ 1,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน การลงทุนซื้อหนี้ในไตรมาสที่ 4 รวมประมาณ 1,700 ล้านบาท ทำให้ยอดซื้อหนี้รวมทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 28,000 ล้านบาท ราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35% เมื่อเทียบกับราคาประเมิน

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ 2.18 เท่า และต้นทุนทางการเงิน (Cost of Fund) เฉลี่ยอยู่ที่ 3.52% บริษัทจะนำเสนอ AGM ในวันที่ 18 เมษายนนี้ เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผล 35 สตางค์ต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน และจ่ายปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้

ในช่วงปลายปี บริษัทจัดตั้ง JV AMC 2 แห่ง ได้แก่ อารีย์ AMC (บริษัทร่วมทุนกับออมสิน) และอรุณ AMC (บริษัทร่วมทุนกับ K Vision ในเครือของ K Bank)

ผลเรียกเก็บในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อน และ 8% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็น NPL 2,326 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน และ 0.3% จากปีก่อน) และ NPA 1,925 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาสก่อน และ 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน) การขายทรัพย์เร่งตัวขึ้นชัดเจนจากไตรมาสที่ 3 ที่อ่อนตัวลง ทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ขายได้ยังเป็นทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย (52%) ผลเรียกเก็บของทั้งปีอยู่ที่ 15,161 ล้านบาท แบ่งเป็น NPL 8,630 ล้านบาท และ NPA 6,531 ล้านบาท สัดส่วนผลเรียกเก็บ NPL อยู่ที่ 57% และ NPA 43%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทเชื่อว่าเงื่อนไขที่ยังยืดหยุ่นและโปรโมชั่นต่างๆ จะช่วยให้ลูกหนี้เข้ามาเจรจาหาข้อยุติได้ สำหรับลูกหนี้ NPL ที่ผ่อนชำระรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2,500 ราย (เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบจากปีก่อน) มีการเร่งยึดทรัพย์ของลูกหนี้มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และมีการเร่งขายทอดตลาดทรัพย์ประมาณ 3,500 ชิ้น มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท มีการติดตามเงินจากกรมบังคับคดีกว่า 3,000 ล้านบาท

บริษัทมียอดขายทรัพย์ NPA ในไตรมาสที่ 4 จำนวน 850 รายการ ทำให้ยอดของทั้งปีอยู่ที่ 2,971 รายการ ราคาซื้อขายในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 84% ทำให้ของทั้งปีราคาเฉลี่ยเมื่อเทียบกับราคาประเมินอยู่ที่ 86% จากกลยุทธ์ราคาพิเศษ บริษัทมียอดขาย NPA 1,440 รายการ มูลค่า 1,531 ล้านบาท ทรัพย์ที่ได้มีการ renovate แล้วมียอดขาย 369 รายการ มูลค่า 800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์ renovate ที่พร้อมขายประมาณ 2,000 กว่ารายการ ลูกค้าผ่อนชำระในปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้น โดยมีทั้งหมด 519 ราย (เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน)

บริษัทเข้าร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้า 2 แห่ง คือ อารีย์ AMC และอรุณ AMC ใน balance sheet จะมีแสดงเป็นเงินลงทุนในการร่วมค้า และในส่วนงบกำไรขาดทุนจะมีรายการแสดงส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากการร่วมค้า

บสส. อารีย์ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วอยู่ที่ 275 ล้านบาท เริ่มบริหารจัดการหนี้ทั้งหนี้มีหลักประกันและหนี้ไม่มีหลักประกันเรียบร้อยแล้ว ในไตรมาสที่ 4 มีผลเรียกเก็บเบื้องต้นประมาณ 160 ล้านบาท โดย BAM ได้รับส่วนแบ่งกำไร 29 ล้านบาท แผนการดำเนินงานของอารีย์ในปี 2568-2569 จะรับซื้อเพิ่มอีกประมาณ 400,000 บัญชี ทำให้บริษัทมีทรัพย์ประมาณ 500,000 account ในการดำเนินงาน บสส. อรุณ ได้รับอนุมัติจดทะเบียนประกอบธุรกิจของ บสส. ในเดือนธันวาคม และรับโอนหนี้กองแรกเข้ามาแล้ว คาดว่าจะเริ่มมีการรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 1

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ปริมาณหนี้ NPL ในระบบยังทรงตัวที่ประมาณ 500,000 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 2.7% เมื่อเทียบกับปริมาณหนี้ทั้งหมด ตัวเลข Special Mention Loan หรือหนี้ที่ค้างชำระ 1-3 เดือน ซึ่งบริษัทจับตามองเป็นพิเศษ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านล้านบาท

ภาพรวมการซื้อขายเห็นว่าธนาคารนำหนี้ออกมาเสนอขายมากถึง 2.8 แสนล้านบาท ซึ่ง BAM ไม่ได้เข้าร่วมทั้งหมด ส่วนที่เข้าร่วมมีการยกเลิกการขายไปประมาณ 24,591 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 BAM ซื้อภาระหนี้รวม 1,693 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีภาระหนี้รวมอยู่ที่ 27,861 ล้านบาท (53% เป็นหนี้ Housing Loan) เนื่องจากมีส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมประมูลด้วย ทำให้ไม่ทราบผลแพ้ชนะ ราคาซื้อขายเฉลี่ย 35% ของราคาประเมินยังมองว่าค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ

ฝั่ง Demand หรือ AMC ส่วนใหญ่ยังค่อนข้างระมัดระวังในการลงทุนจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง ทำให้การซื้อขายในปี 2567 อาจจะไม่คึกคักเท่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงแรก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทจะมีการดูแลลูกหนี้ NPL โดยเชื่อว่าเงื่อนไขที่ยังยืดหยุ่นและโปรโมชั่นต่างๆ จะช่วยให้ลูกหนี้เข้ามาเจรจาหาข้อยุติได้

ในขณะเดียวกัน ในช่วงของไตรมาสที่ 1 มีสถาบันการเงินนำหนี้ออกมาเสนอขาย แต่ยังอยู่ในปริมาณที่ไม่มากนัก ส่วนที่ BAM ได้รับหนังสือเชิญและเข้าร่วมในการทำ Due Diligence มีอยู่ประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท

รายได้ของไตรมาสที่ 4 ส่วนใหญ่ดีขึ้นจาก NPA ซึ่งเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน และ 29% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากยอดของไตรมาส 3 ที่ค่อนข้าง slow ไปด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายาม boost ในเรื่องของยอดขายต่างๆ ด้วยแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้รายได้ของทั้งปี 2567 ปรับดีขึ้น มุมมองของบริษัทสำหรับ NPL เห็นว่ารายได้เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน อาจจะยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการฟื้นตัว แต่สัญญาณในไตรมาส 4 เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากทั้งลูกหนี้กลุ่มที่เป็นรายย่อยและ SME ที่สามารถชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจาก Interest Expense บริษัทพยายามคุมค่าใช้จ่ายรวมอย่างเคร่งครัดเพื่อลดผลกระทบในส่วนนี้ การบันทึก ECL ซึ่งทั้งปีส่วนใหญ่เพิ่มจากการซื้อทรัพย์หนี้ หรือการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ ในไตรมาสที่ 4 มีการปรับรายการเนื่องจากมีการตั้งเกินไปในงวดก่อนหน้า สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 คือ 523 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีมีกำไรสุทธิที่ 1,602 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

ต้นทุนทางการเงิน (Cost of Fund) ปัจจุบันค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.52% ใน Outlook ของปี 2568 เนื่องจากเทรนด์ดอกเบี้ยอาจมีการปรับตัวลง บริษัทคาดว่าอัตราดอกเบี้ยตรงนี้มีแนวโน้มที่จะลดลงหรือยังอยู่ในสภาพที่คงที่

ปัจจุบัน บริษัทมีลูกหนี้ที่อยู่ในการบริหารจัดการรวมถึง NPA รวมกับทางพอร์ตที่รับมาของอารีย์และอรุณด้วย ปัจจุบันก็อยู่ประมาณที่ 598,000 ล้านบาท

เป้าหมายของปี 2568 บริษัทตั้งเป้าที่จะมีผลเรียกเก็บทั้งหมด 17,800 ล้านบาท แบ่งเป็น NPL 10,800 ล้านบาท และ NPA 7,000 ล้านบาท Outlook ของ Q1 มี Big Ticket ที่อยู่ระหว่างการเรียกเก็บประมาณ 900 ล้านบาท บริษัทอัดแคมเปญและโปรโมชั่นตั้งแต่ต้นปีเลย ทั้งแคมเปญบ้านสุข บ้าน BAM สุขคูณ 4 ซึ่งคัดทรัพย์จำนวน 2,300 รายการ และมีดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นพันธมิตร และมีแคมเปญ BAM Pro ผ่อนแรงที่สุด ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 แล้ว และยังจะทำต่อเนื่องไปทั้งปีของปี 2568 นี้ โดยสามารถให้ลูกค้าเข้ามาผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% ใน 2 ปี โดยปีที่ 3 จะมีการคิดดอกเบี้ย MRR -2.5% ซึ่งถ้าลูกค้าชำระหนี้ปิดบัญชีภายใน 3 ปี ก็จะมีการลดให้ด้วย 10% จากราคาตั้งขาย ปัจจุบันมียอดเสนอซื้อเข้ามาทุกช่องทาง มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ทำให้บริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าใน Q1 จะเป็นไปตาม Target

กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้มี Strategy 3S เน้นการ Speed Up เพื่อที่จะเร่งผลเรียกเก็บ โดยเฉพาะโครงการจูงใจลูกหนี้ แต่บางส่วนถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ ก็คงต้องเร่งสภาพบังคับ กำหนด Legal Line ชัดเจน เพื่อที่จะเพิ่มให้ทางลูกค้าเข้ามาเจรจา หรือถ้าไม่เรียบร้อยก็อาจจะนำไปสู่การขายทอดตลาด ในส่วนของ NPA จะมีการเร่งขายทรัพย์ โดยเฉพาะการระบายทรัพย์ที่ renovate เอาไว้แล้วจำนวนกว่า 2,000 รายการ แคมเปญต่างๆ ที่จะเตรียมนำเสนอคงไม่ได้มีเฉพาะแคมเปญที่บอกไปก่อนหน้านี้ แต่คงจะมีโปรโมชั่นและแคมเปญมาอย่างต่อเนื่องทั้งปี

การลงทุนซื้อหนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มขนาดสินทรัพย์ โดยใช้หลักการเดิม จะมีการดูจำนวนทุนที่ลดลงไป แล้วก็เติมทุนเข้ามา แล้วก็อาจจะมี Extra ขึ้นอยู่กับปริมาณของหนี้ที่ทางแบงค์เสนอขายมาด้วย กำหนดเป้าไว้ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่การลงทุนจะต้องดูในเรื่องของ segment ต้องเป็นของที่ต้องการจริงๆ เพื่อที่จะเอามาเติมพอร์ตให้เหมาะสม ราคาเป็นจุดแข็งของบริษัท ซึ่งจะเลือกซื้อให้มี effective ให้มากที่สุด

ในส่วนของ Efficiency เนื่องจากเห็นแล้วว่าโครงสร้างของหนี้ที่บริหารอยู่ ปัจจุบันมีหนี้รายย่อยเพิ่มเข้ามา เพราะฉะนั้นการปรับปรุงกระบวนการภายในเพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารหนี้รายย่อยก็จะเพิ่มเข้ามาในจุดนี้ด้วย

NPA Project ที่จะดำเนินการในปีนี้ อย่างแรกคือ BAM Smart Garden Home ใช้แนวคิดของคำว่า Smart คือเน้นความพึ่งพาตัวเอง และเป็นส่วนหนึ่งของ ESG ในการสนับสนุนพลังงานสะอาดและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จะนำที่ดินพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่จังหวัดนครนายก มาออกแบบเป็นตัวอย่างให้กับลูกค้า และสามารถเข้าไปดูตัวอย่างบ้านได้ ซึ่งกำหนดจะ launch ในเดือนพฤษภาคมนี้ และอาจจะขยายต่อไปต่อเนื่องในภูมิภาคต่างๆ

แนวคิดในการ renovate ของทรัพย์ปีนี้ จะพัฒนาให้มีคุณภาพในระดับ 5 ดาว โดยตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาความกังวลของผู้ซื้อทรัพย์ โดยเฉพาะทรัพย์ของ BAM ที่เป็นทรัพย์มือสอง จะรับประกันโครงสร้างและวัสดุเพื่อให้มีความพร้อมอยู่ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า แคมเปญผ่อนซื้อ อย่างที่เรียนไว้เบื้องต้นว่าปีนี้มีแคมเปญสำหรับลูกค้าผ่อนชำระ 0% 2 ปีแรก โดยตั้งใจที่จะเพิ่มลูกหนี้ผ่อนชำระให้อยู่ที่ 3,000 รายในปีนี้

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [49:48]

  1. เป้าหมายการซื้อหนี้ปี 2568:
    • *คำถาม:* ปี 2568 วางเป้าซื้อหนี้มาบริหารเท่าไหร่
    • *คำตอบ:* วางเป้าไว้ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่จำนวนอาจไม่ fixed มากนัก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จำนวน NPL ที่แบงก์ออกมาขาย และ Focus Group ที่ต้องการ
  2. เป้าหมายยอดเรียกเก็บปี 2568:
    • *คำถาม:* เป้าหมายยอดเรียกเก็บปีนี้
    • *คำตอบ:* คาดอยู่ที่ 17,800 ล้านบาท เป็น NPL 10,700 ล้านบาท และ NPA 7,000 ล้านบาท
  3. ความคืบหน้าในการดำเนินงานอารีย์และอรุณ AMC:
    • *คำถาม:* ความคืบหน้าในการดำเนินงานอารีย์และอรุณ
    • *คำตอบ:* อารีย์ AMC มีการซื้อหนี้เข้ามาเรียบร้อยแล้ว และปีนี้น่าจะมีครั้งที่สอง บัญชีน่าจะมองไว้ที่ 500,000 account และคงต้องเพิ่มทุน เรื่องการเติบโตน่าจะเป็นไปในทิศทางที่คาดหวัง ผลเรียกเก็บออกมาน่าพอใจ ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในงบปลายปีของ BAM อรุณ AMC ทำกับ K Vision มีการซื้อหนี้เข้ามาแล้ว operate ไปประมาณ 2 เดือน เริ่มเห็นสัญญาณลูกหนี้อยากเจรจา และเริ่มเห็นผลเรียกเก็บที่ Positive ปีนี้จะมีการซื้ออีกครั้งในเดือนมิถุนายน เป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างถูกต้อง และหวังว่าจะเป็นตัวช่วยเสริมให้ BAM สามารถซื้อ Asset เข้ามาบริหารได้มากขึ้น และช่วยส่งผลในเรื่องส่วนแบ่งกำไร
  4. ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจต่อ BAM:
    • *คำถาม:* สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและสิ่งที่จะมีผลกับบริษัท
    • *คำตอบ:* มองว่ามีแนวโน้มที่จะ Pick Up ขึ้นในดีขึ้นในปีนี้ มีผลต่อมาตรการของ ธปท. และธนาคารต่างๆ ที่ช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งรายย่อยและ SME รัฐบาลตั้งใจช่วยเหลือลูกหนี้ ต้องรอติดตามดูความชัดเจน และอัปเดตอีกทีว่าจะมีผลกระทบต่อสภาพรวมของหนี้ครัวเรือนมากน้อยเพียงใด คาดว่าไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการเหล่านี้มากนัก
  5. โครงการคุณสู้เราช่วย:
    • *คำถาม:* โครงการคุณสู้เราช่วย ส่งผลกระทบอะไรกับ BAM บ้าง
    • *คำตอบ:* เป็นโครงการที่ดีจากภาครัฐ แต่ผลตอบรับอาจไม่มากนัก BAM พร้อมและยินดีตอบรับนโยบายต่างๆ เหล่านี้ มั่นใจว่าลูกหนี้ของ BAM ถ้าเข้ามาเจรจา จะได้ผลประโยชน์ไม่น้อยกว่าโครงการต่างๆ ของรัฐ สรุปคือเศรษฐกิจกระทบ BAM 2 จุด คือ (1) NPL อยากให้ลูกหนี้เข้ามาคุย พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือ (2) NPA Q4 ยอดขาย NPA ปรับตัวขึ้น โปรโมชั่นธนาคาร ปล่อยสินเชื่อมากขึ้น มองเห็น Style ที่ดีขึ้น ในปีถัดไป