BAM
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

BAM โชว์ผลงาน Q3/66 ก้าวกระโดด! กำไรพุ่ง 57% พร้อมลุยขยายจักรวาลธุรกิจ

Oppday บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมคือ ดร. รัฐ วรกิจโภคาทร (CEO), คุณชาญวิทย์ กวีสุนทรเสนาะ (CFO) และคุณวรรณัชชา ศรีโพธิ์ทองนาค (นักลงทุนสัมพันธ์)

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  1. ผลการดำเนินงานเด่น:
    • ผลเรียกเก็บไตรมาส 3: 3,649 ล้านบาท

    • กำไรก่อนหักภาษีและสำรอง: 817 ล้านบาท

    • กำไรสุทธิไตรมาส 3: 184 ล้านบาท

    • ผลเรียกเก็บ 9 เดือน: 13,803 ล้านบาท

    • กำไรก่อนหักภาษีและ ECL (Expected Credit Loss) 9 เดือน: 3,521 ล้านบาท

    • กำไรสุทธิ 9 เดือน: 1,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

  2. ปัจจัยบวก: การขยายความร่วมมือกับพันธมิตร เช่น MCOT (ซื้อบ้านสวัสดิการ) และ NPA Partnership (Indigo, First Builder, อรสิริน)

  3. เน้นการปรับหนี้ (Hair Cut) มากกว่าการขายทิ้ง ทำให้สัดส่วนหนี้ดี (Re-Performing Loan) เพิ่มขึ้นถึง 70%

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  1. การสร้าง TDR (Troubled Debt Restructuring) Platform ใหม่ หรือ รหัสลูกหนี้ใหม่ (Re-Performing Loan)

  2. การสร้าง FA Center เพื่อสนับสนุน New Source of Lending ให้กับลูกหนี้

  3. การทำ Partnership กับโครงการพิเศษต่างๆ เพื่อผลักดัน NPA ออกจากพอร์ต โดยให้ส่วนลดลูกค้าปลายทาง 15%

  4. การขาย Big Lot หรือ Whole Sale ให้กับ AMC ขนาดเล็ก และ Flippers

  5. กระสุน 3 นัด:

    • JVA MC กับสถาบันการเงิน (ออมสิน, กสิกรไทย): สร้างผลกำไรที่น่าชื่นชม

    • Profit Sharing Management สำหรับธนาคารที่ยังไม่สร้าง JV: ให้ BAM บริหารพอร์ต และแบ่ง Share Gain Share Loss ในระยะ 7-11 ปี

    • การรับจ้างบริหารหนี้ให้กับสถาบันการเงิน: BAM เข้าไปเสนอตัวในการรับจ้างบริหารและสร้างความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  1. ความเสี่ยง: การฟื้นตัวของการขายทรัพย์ NPA ยังไม่เต็มที่

  2. ความท้าทาย: การรอความชัดเจนจากภาครัฐในมาตรการแก้หนี้ โดยเฉพาะหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท

  3. ความเสี่ยง: ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองเต็ม 100% สำหรับ NPA ที่รับซื้อมาจากกรมบังคับคดี

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  1. การผ่อนปรนเงื่อนไขและเชิญชวนลูกหนี้เข้ามาร่วมปรับปรุงโครงสร้างหนี้

  2. การใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้น Target Segment และนำเสนอทรัพย์ NPA เป็น Investment of Choice

  3. การลด SLA (Service Level Agreement) ในการปรับโครงสร้างหนี้จาก 6 เดือน เหลือไม่เกิน 6 สัปดาห์

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  1. Target ผลเรียกเก็บปี 2566: 17,800 ล้านบาท

  2. คาดว่าจะปิดจ๊อบ Deal ทรัพย์ชิ้นใหญ่ได้ภายในไตรมาส 4 มูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านบาท

  3. คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 2,000 ล้านบาทในปี 2566

  4. BAM จะเน้น Asset Light และให้ JVA MC ขยายพอร์ตตัวเอง

  5. คาดว่าภาระหนี้ภายใต้การดูแลของจักรวาล BAM จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 597,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้

  6. CEO BAM กล่าวว่า BAM จะเติบโต 2 เท่าของ GDP, เน้น Selective NPL ที่ Customize ได้, สร้าง Return และแบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้น

  7. BAM Choice App โฉมใหม่ ที่จะสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 32:34]

  1. คำถาม: BAM Select เห็นผลเมื่อไหร่?

    คำตอบ: เห็นผลแล้ว เสนอซื้อเกิน 30 ล้านแล้ว

  2. คำถาม: Branded Property ปีนี้?

    คำตอบ: ปีนี้เห็นผลแน่นอน เกิน 130 ล้าน

  3. คำถาม: Product Program บ้านมหาชน?

    คำตอบ: สร้างผลเรียกเก็บไปแล้ว 302 ล้าน, High Network ขายไปเกิน 450 ล้าน

  4. คำถาม: การตั้งสำรอง?

    คำตอบ CFO : เป็นไปตาม Accounting Standard ใน Q4 ตัวเลขคงไม่ใหญ่เท่า 2 Q ที่ผ่านมา ปีนี้ตั้งเพียงพอแล้ว

  5. คำถาม: กลยุทธ์ประมูลซื้อหนี้?

    คำตอบ CFO :เน้นเข้าประมูลเอง แต่ก็มีการตั้ง JV เพื่อขยายโอกาส

  6. คำถาม: ใน Q4 big ticket backlog แนวโน้มเป็นอย่างไร BAM มีแนวโน้มในการขายทรัพย์ NPA หรือการ deal กับลูกหนี้ NPL ขนาดใหญ่เพิ่มเติมขึ้นหรือไม่?

    คำตอบ:

    • BAM สามารถเลือกได้ว่าจะสร้าง success story ของทรัพย์ชิ้นใหญ่ใน Q4 เลย หรือ defer ไป Q1 ปีหน้า

    • BAM ยังมี big ticket ให้ทำอีกหลายชิ้น

    • BAM ยังไม่หยุดซื้อทรัพย์ชิ้นใหญ่

  7. คำถาม: NPL มีการปรับตัวสูงขึ้นตลอดเวลา จะมีการแข็งขันรุนเเรงขึ้นมากหรือไม่?

    คำตอบ: นี่คือ Golden Period ของ AMC ที่พร้อม

  8. คำถาม: อยากทราบมุมมองของทางผู้บริหารว่าทาง JV ทั้งสองแห่งเรามีมุมมองว่าจะเติบโตเป็นอย่างไร แนวโน้มกำไรจะเป็นอย่างไร?

    คำตอบ: ลูกคนโต (อารีย์) น่าจะปังมาก ได้รับหนี้ในราคาที่พลิกกลับมาเป็นผลเรียกเก็บได้ (Yield ต่ำกว่า Principle 50%) ลูกคนเล็ก (อรุณ) เติบโตอย่างมั่นคง (Return 7-8%)

  9. คำถาม: อยากขอให้อธิบาย model เกี่ยวกับ NPA partnership เรามีการให้ term กับ partner อย่างไรบ้าง แล้วจะเริ่มทยอยรับรู้เป็นกำไรในช่วงไตรมาสไหน?

    คำตอบ:

    • ทรัพย์สิน < 3 ล้าน: 6+6 (6 เดือนแรกมีแค่ BG, 6 เดือนหลังคิดดอกเบี้ย 4-4.5%)

    • ทรัพย์สิน > 3 ล้าน: ได้แฮนดิแคปเพิ่มไปอีก 6 เดือน

    • ทรัพย์สิน > 50 ล้าน: แปรผันตรงกับ EIA

    • ทรัพย์มหาชน: ขายสด/ผ่อน (3 ปีแรกไม่มีดอกเบี้ย)

    • BAM Select: ขายไปแล้วกว่า 450 ล้าน

  10. คำถาม: บริษัทมองแนวโน้มการลงทุนในปีหน้าเป็นอย่างไร และถ้ามีแนวโน้มในการลงทุนที่ลดลง บริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้นหรือไม่?

    คำตอบ: ในปีหน้า พยายามลดภาระดอกเบี้ย, เน้นผลการดำเนินงาน ถ้าเป็นไปตามเป้า และไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเยอะ ก็มีโอกาสเพิ่มปันผลให้ผู้ถือหุ้น

โดยสรุป BAM โชว์ผลงานที่โดดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2566 และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายและยืดหยุ่น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและสังคม