สรุปงบล่าสุด BAM
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ หุ้น BAM ไตรมาส 3/2568
**สรุปสั้น:** บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 จำนวน 184 ล้านบาท ลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานจะเติบโต 17.8% แต่มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นถึง 207.1%
**เศรษฐกิจ:** ในไตรมาส 3/2568 เศรษฐกิจไทยเติบโตลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัว รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบวกในช่วงท้ายไตรมาสจากการเร่งตัวขึ้นของภาคการผลิต การส่งออก และรายได้จากการท่องเที่ยว (หน้า 17)
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:** กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากการซื้อทรัพย์หลักประกันของลูกหนี้จากกรมบังคับคดี และการตั้งสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในการบริหารจัดการสินทรัพย์ (หน้า 3) แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน (หน้า 8) แต่กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายลดลง 32.5% (หน้า 8)
**สินเชื่อและสัดส่วน:**
* เงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิลดลง 9.8% จากสิ้นปีก่อน (หน้า 7)
* บริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 77.3 สัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยลอยตัวร้อยละ 22.7 และต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยร้อยละ 3.41 (หน้า 8)
* บริษัทฯ ซื้อหนี้เสียเป็นภาระหนี้รวม 1,110 ล้านบาท (หน้า 17)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงส่งผลให้ยอดเงินรับจากลูกหนี้ NPLs รายใหม่ชะลอตัว (หน้า 3)
* **โอกาส:** การขายทรัพย์ NPAs เริ่มมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มห้องชุดพักอาศัย (คอนโด) (หน้า 3) โครงการทรัพย์มหาชน และ NPA Partnership คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ (หน้า 3) แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ NPLs ของภาครัฐ และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JV AMCs เพิ่มเติม (หน้า 3)
**สรุปสั้นท้ายสุด:** ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรในไตรมาสนี้คือ การเพิ่มขึ้นของการตั้งสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในการบริหารจัดการสินทรัพย์ แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานจะเติบโต แต่การตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การจัดการความเสี่ยงและการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผลประกอบการของบริษัทฯ
(31.00%)
(2.03%)
(1.63%)
(5.08%)
(42.56%)
(2.99%)
(29.50%)
(11.98%)
(85.80%)
(7.82%)
(72.33%)
(9.73%)