สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA): บทวิเคราะห์ผลประกอบการ ไตรมาส 2 ปี 2567

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 โดยรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 712.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 เป็นผลมาจากรายได้รวมที่เติบโตขึ้น 16.8% จากราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมทำสัญญา Code Share Agreement กับสายการบินระดับโลกอย่าง ลุฟท์ฮันซ่า และ สวิสอินเตอร์แนชนัลแอร์ไลน์ ส่งผลให้จำนวนสายการบินที่เข้าร่วม Code Share Agreement เพิ่มขึ้นเป็น 74 สายการบิน รวมถึงการร่วมมือกับ ปตท. นำร่องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แผนธุรกิจในอนาคตของ BA เน้นไปที่การขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการแบบพรีเมี่ยม และพัฒนาเครือข่ายเที่ยวบินให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการขยายธุรกิจสนามบิน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และยกระดับความปลอดภัย ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดหลักของ BA ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรในอนาคต

ผลประกอบการของ BA ในไตรมาส 2 ปี 2567 ถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในการฟื้นตัวจากผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยอัตราส่วนทางการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า BA มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง D/E ที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งบ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน รวมถึง P/E ล่าสุดอยู่ที่ 10.02 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม P/BV ที่สูงถึง 2.14 อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับสูง BA มีอัตราเงินปันผล (YIELD) อยู่ที่ 5.1% ซึ่งถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2566 ที่อยู่ในระดับบวก แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ดี พร้อมกับเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนที่อยู่ในระดับติดลบ บ่งบอกถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง วงจรเงินสดที่ติดลบ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินทุน โดย BA สามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้อย่างรวดเร็ว

**โอกาสการลงทุน**

* BA มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะ D/E ที่ต่ำกว่า 1 และอัตราเงินปันผลที่น่าสนใจ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว
* อุตสาหกรรมการบินคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรของ BA
* BA มีแผนการขยายธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายเครือข่ายเที่ยวบิน และการขยายธุรกิจสนามบิน

**ความเสี่ยง**

* ราคาเชื้อเพลิงที่ผันผวน อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของ BA
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินที่รุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของ BA
* การแพร่ระบาดของโรคติดต่อในอนาคต อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน

**ข้อมูลเพิ่มเติม**

* ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 22.3% จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าจ้างที่ปรึกษา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการขยายธุรกิจและเพิ่มกำลังคน
* ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 5.0% จากการชำระคืนเงินต้นแก่สถาบันการเงิน ซึ่งบ่งบอกถึงการลดภาระหนี้สิน
* สินทรัพย์รวมลดลง 286.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จากการนำเงินไปลงทุนในเงินฝากประจำ และชำระคืนเงินกู้ แต่ BA มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในระดับสูง
* สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนลดลง 865.7 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของสินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียน จากการปรับมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายตามมูลค่าตลาด และการลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัทลูก อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์สิทธิการใช้ลดลงเล็กน้อย จากค่าเสื่อมราคา แต่มีรายการเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาเช่าเครื่องบินบางลำ
* หนี้สินรวมลดลง 936.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาว และหนี้สินตามสัญญาเช่า ซึ่งบ่งบอกถึงการบริหารจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ
* ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 650.0 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้น แสดงถึงผลประกอบการที่ดี
* กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ในระดับสูง แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด และการนำเงินไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดยสรุป BA ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพ และน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบินอย่างใกล้ชิด และพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน