สรุปงบล่าสุด B
บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 117.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 42.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.02% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการมีรายได้จากการขายทรัพย์สินถาวร 17.95 ล้านบาท และกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม 14.02 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3/2566 ไม่มีรายได้ดังกล่าว บริษัทมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยได้ขายหุ้นสามัญในบริษัท เอนเนอร์จี อินโนเวชัน พาวเวอร์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จํากัด ไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 โดยบริษัทได้ศึกษาและเตรียมความพร้อมในการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม และระบบบริหารจัดการแบตเตอรีสำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
แผนธุรกิจของบริษัท บี จิสติกส์ ในอนาคตเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม และระบบบริหารจัดการแบตเตอรีสำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย บริษัทมีแผนการลงทุนในโครงการศึกษาพัฒนาเรื่องน้ำและพลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มคาร์บอนเครดิต โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากการขายใบรับรองคาร์บอนเครดิต อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยที่ผันผวน เช่น อัตราค่าน้ำมัน สภาวะอากาศ และอัตราแลกเปลี่ยน
ในแง่ของโอกาสการลงทุน บริษัท บี จิสติกส์ มีความน่าสนใจในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการมีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/2567 โดย P/E ล่าสุด อยู่ที่ -100 ซึ่งบ่งบอกว่านักลงทุนมีความคาดหวังต่อการเติบโตในอนาคต แต่ D/E ของบริษัทอยู่ที่ 0.57 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่สูง ซึ่งเป็นข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน ทั้งนี้ บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ สะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าสนใจ แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ แสดงถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวในธุรกิจพลังงานทางเลือก บริษัท บี จิสติกส์ อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทสามารถควบคุมความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราค่าน้ำมัน สภาวะอากาศ และอัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลดังกล่าวอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
(3.78%)
(20.12%)
(9.47%)
(19.11%)
(12.75%)
(0.83%)
(13.53%)
(772.02%)
(131.73%)
(55.28%)
(1,239.56%)
(96.84%)