สรุปงบล่าสุด AU
บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) : บทวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567
บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มีรายได้จากการขายเท่ากับ 428 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 และ 1,144 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากไตรมาส 3 ปี 2566 และ จากงวด 9 เดือนแรกปี 2566 โดยมีสามสาเหตุหลักมาจากรายได้จากร้านขนมหวานและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและยอดขายต่อบิลที่สูงขึ้น ประกอบกับจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งเริ่มวางขายสินค้าในเดือนกรกฎาคม ปี 2567
บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้านอาฟเตอร์ ยู เพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 1-2 สาขาในไตรมาส 4 ปี 2567 โดยมุ่งเน้นการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว และย่านที่พักอาศัยที่มีกำลังซื้อและมีลูกค้าจำนวนมากเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสเติบโตในต่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากในประเทศเพียงอย่างเดียว รวมถึงเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยในช่วงเดือนตุลาคมปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการร้านขนมหวาน อาฟเตอร์ ยู สาขาแรกในประเทศกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ
**การวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567**
* **รายได้**: บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม ซึ่งได้รับผลดีจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและยอดขายต่อบิลที่สูงขึ้น
* **กำไรขั้นต้น**: กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีมูลค่า 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากไตรมาส 3 ปี 2566 สอดคล้องกับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 65.4 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 66.0 ในไตรมาส 3 ปี 2566 เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่ารายได้จากร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม
* **EBITDA**: EBITDA ของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีมูลค่า 148 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากไตรมาส 3 ปี 2566 EBITDA Margin ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 34.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 32.6 ในไตรมาส 3 ปี 2566
* **กำไรสุทธิ**: บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มูลค่า 83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 จากไตรมาส 3 ปี 2566 สอดคล้องกับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เท่ากับร้อยละ 19.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 15.8 ในไตรมาส 3 ปี 2566
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย**: ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายในไตรมาส 3 ปี 2567 มีมูลค่า 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากไตรมาส 3 ปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่สาขา และค่าขนส่ง
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร**: ค่าใช้จ่ายในการบริหารในไตรมาส 3 ปี 2567 มีมูลค่า 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 3 ปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน
**ฐานะทางการเงิน**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมมูลค่า 1,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมมูลค่า 1,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีหนี้สินรวมมูลค่า 415 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.2 จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
**การวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยง**
**โอกาส**
* **การขยายสาขา**: บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้านอาฟเตอร์ ยู เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายและสร้างการเติบโตในระยะยาว
* **การขยายตลาดต่างประเทศ**: บริษัทฯ กำลังมองหาโอกาสเติบโตในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากในประเทศเพียงอย่างเดียว
* **การเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด**: บริษัทฯ มีความสามารถในการขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน
* **ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง**: บริษัทฯ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกำไรสุทธิและ EBITDA Margin ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน
**ความเสี่ยง**
* **ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ**: ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน อาจส่งผลต่ออำนาจการซื้อของผู้บริโภคและกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ
* **ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน**: อุตสาหกรรมร้านขนมหวานและเครื่องดื่มมีการแข่งขันสูง บริษัทฯ ต้องพยายามรักษาความแตกต่างและสร้างความโดดเด่นเพื่อรักษาฐานลูกค้า
* **ความเสี่ยงด้านต้นทุน**: บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ผันผวน
* **ความเสี่ยงด้านการขยายสาขา**: การขยายสาขาในต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น วัฒนธรรม กฎหมาย และการแข่งขัน
**สรุป**
บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีศักยภาพและน่าลงทุน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวและการรับเงินปันผล แต่ควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วย P/E ล่าสุดอยู่ที่ 39.03 ซึ่งสูงกว่า 35 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับสูง แต่ด้วย D/E ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง Yield ที่ 1.93% และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แสดงถึงความสามารถในการสร้างกำไรและสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(13.78%)
(26.85%)
(12.04%)
(25.54%)
(1.52%)
(1.02%)
(10.47%)
(14.01%)
(14.67%)
(55.03%)
(2.04%)
(6.60%)