6/12

เดือนนี้ / เดือนก่อน

108/42

ปีนี้ / ปีก่อน

  • hoonsmart

    ก.ล.ต.สั่งปรับ “ปกรณ์ มงคลธาดา” อดีตกกรรมการ 19.34 ลบ. อินไซด์ซื้อหุ้น AQUA 12/12/68

    HoonSmart.com>> ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง “ปกรณ์ มงคลธาดา” อดีตกรรมการ “อควา คอร์เปอเรชั่น” (AQUA) ฐานใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น AQUA สั่งชำระเงินค่าปรับ 19.33 ล้านบาท ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 14 เดือน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ในช่วงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 – 25 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ AQUA จะเปิดเผยข้อมูลภายในเกี่ยวกับกรณีที่ AQUA จะอนุมัติจำหน่ายหุ้นสามัญในบริษัทย่อยของ AQUA ให้กับบริษัท แพลน บี มีเดีย (PLANB) และจะอนุมัติซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PLANB ซึ่งส่งผลด้านบวกต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น AQUA และผู้ลงทุนทั่วไปไม่อาจคาดการณ์ได้ นายปกรณ์ มงคลธาดา ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการของ AQUA ที่ล่วงรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าวได้ซื้อหุ้น AQUA โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าวก่อนที่ AQUA จะเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 07.48 น. การกระทำของนายปกรณ์เป็นความผิดฐานซื้อหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

  • thunhoon

    ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง “ปกรณ์ มงคลธาดา” อดีตกรรมการ AQUA 12/12/68

    ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง “ปกรณ์ มงคลธาดา” อดีตกรรมการ AQUA ฐานใช้ข้อมูลภายใน สั่งปรับและชดใช้รวม 19.34 ล้านบาท พร้อมห้ามเป็นผู้บริหาร 14 เดือน #ทันหุ้น #ยุบสภา #SET ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อหุ้น AQUA โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายปกรณ์ มงคลธาดา ผู้กระทำความผิดกรณีซื้อหุ้นบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AQUA) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม19,339,187 บาทพร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร14 เดือน

  • mitihoon

    ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อหุ้น AQUA โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน 12/12/68

    มิติหุ้น – ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายปกรณ์ มงคลธาดา ผู้กระทำความผิด กรณีซื้อหุ้นบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (AQUA) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 19,339,187 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลา ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 14 เดือน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ในช่วงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 – 25 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ AQUA จะเปิดเผยข้อมูลภายในเกี่ยวกับกรณีที่ AQUA จะอนุมัติจำหน่ายหุ้นสามัญในบริษัทย่อยของ AQUA ให้กับบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PLANB) และจะอนุมัติซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PLANB ซึ่งส่งผลด้านบวกต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น AQUA และผู้ลงทุนทั่วไปไม่อาจคาดการณ์ได้ นายปกรณ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการของ AQUA ที่ล่วงรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าวได้ซื้อหุ้น AQUA โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าวก่อนที่ AQUA จะเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 07.48 น. การกระทำของนายปกรณ์เป็นความผิดฐานซื้อหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

  • set
  • set
  • set
  • set
  • set
  • kaohoon

    “ฉาย บุนนาค” เก็บ AQUA เข้าพอร์ตเพิ่ม 47.50 ล้านหุ้น ดันถือ 21.32% 20/11/68

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า นายฉาย บุนนาค ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เมื่อวันที่ 18 พ.ย.68 โดยทำรายการผ่านตลาดหลักทรัพย์ (Auto Matching) (บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด) จำนวน 2 รายการ สำหรับรายการแรกจำนวน 45,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.15 บาท รวมมูลค่าซื้อขาย 6.75 ล้านบาท โดยก่อนทำรายการมีจำนวน 1,170,836,400 หุ้น คิดเป็น 20.49% ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมดแล้ว และหลังจากทำรายการ ส่งผลให้รวมถือหุ้นหลังวันเข้าทำรายการอยู่ที่ 1,215,836,400 หุ้น หรือคิดเป็น 21.28% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ต่อมารายการที่สอง จำนวน 2,500,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 375,000 บาท โดยก่อนทำรายการมีจำนวน 1,215,836,400 หุ้น คิดเป็น 21.28% ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมดแล้ว และหลังจากทำรายการ ส่งผลให้รวมถือหุ้นหลังวันเข้าทำรายการอยู่ที่ 1,218,336,400 หุ้น หรือคิดเป็น 21.32% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด

  • set