AMATAV
บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

Amata VN Oppday สรุปผลประกอบการปี 2024 และทิศทางอนาคต: โอกาสและความท้าทายในตลาดเวียดนาม

สวัสดีค่ะทุกท่าน อมตะ VN มาอีกรอบหนึ่งแล้ว วันนี้ดิฉันสมหทัย พานิชชีวะ CEO ค่ะ และก็มาพร้อมกับคุณสุขุม CFO ของอมตะ VN ค่ะ

ครับสวัสดีครับ ท่านนักลงทุนนะครับแล้วก็ผู้ถือหุ้นทุกท่านนะครับ วันนี้ผมจะมาพรีเซนต์ตัว ผลประกอบการสำหรับงวดปี 2024 นะครับของอมตะ VN นะครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในปี 2024, GDP ของเวียดนามโต 7.09% โดย Consumer Price Index อยู่ที่ 3.63% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.71% GDP เติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2023 แต่ยังไม่สูงเท่าปี 2022

  • GDP Growth หลัก ๆ มาจาก:
    1. ภาคบริการ: โต 8.2%
    2. ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง: โต 8.4%
    3. ภาคเกษตรกรรมและประมง: โต 3%

การส่งออกหลักของเวียดนามคือสหรัฐอเมริกา (120 พันล้านเหรียญสหรัฐ) รองลงมาคือจีนและกลุ่มประเทศยุโรป การนำเข้าส่วนใหญ่มาจากจีน เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน มูลค่าการนำเข้าส่งออกรวมในปี 2024 โตขึ้นจากปี 2023

  • สินค้าส่งออกหลัก:
    1. Electronics: 27%
    2. เครื่องจักร: 11%
    3. รองเท้า: 13%
    4. สิ่งทอ: 11.2%

FDI ที่ reported อยู่ที่ 38.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเล็กน้อย 3% แต่ implemented FDI เพิ่มขึ้น 9% โครงการใหม่เพิ่มขึ้น 1.8% ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดคือสิงคโปร์ รองลงมาคือเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน

  • จังหวัดที่ FDI เข้าไปลงทุนมากที่สุด:
    1. Bac Ninh: 5.12 พันล้านเหรียญสหรัฐ
    2. Hai Phong: 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
    3. Ho Chi Minh
    4. Quang Ninh (Amata City Halong)
    5. Dong Nai (Bien Hoa, Amata City Long Thanh)

โครงการ FDI ใหญ่สุดคือ residential (0.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จาก Capital Land, chemical (0.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากเกาหลี, electronics (1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากไต้หวัน, semiconductor จากสิงคโปร์, และ electronics จากจีนและเกาหลี

Key factors ที่ทำให้เวียดนามโตขึ้น: การส่งออก, เงินลงทุนจากต่างชาติ, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การส่งออกเพิ่มขึ้น โดยมีตลาดหลักคือฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในปี 2024 การส่งออกโต 14.3%

Central Bank ของเวียดนามพยายาม support ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติโดยการลด/คงอัตราดอกเบี้ย ภาคการผลิตขยายตัว 6.98% จาก domestic consumption และการลงทุนจากต่างชาติ

การใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน: เวียดนาม allocate งบประมาณ 26.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย focus ที่ transportation

Key Milestone ของปี 2025: Amata VN ฉลองครบรอบ 30 ปีในการลงทุนในเวียดนาม

ผลประกอบการปี 2024: รายได้จากการขายที่ดินเพิ่ม 6%, Utility service เพิ่มขึ้น แต่รายได้ค่าเช่าลดลง Gross profit ลดลง 21% เนื่องจากค่าพัฒนาที่ดินเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 38% EBIT อยู่ที่ 318 ล้านบาท, Net profit อยู่ที่ 133 ล้านบาท (ลดลง 69%)

  • Total revenue: 5,326 ล้านบาท แบ่งเป็น Real estate, Rental, และ Utility service
    1. Real Estate margin ลดลงจาก 34% เหลือ 22%
    2. Rental: เหลือ Amata Service Center
    3. Utility Service: ประกอบด้วยน้ำ, ไฟฟ้า, และค่าส่วนกลาง

สินทรัพย์รวม: 14,794 ล้านบาท (Working capital asset, สิทธิการเช่าที่ดิน, ต้นทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, และสินทรัพย์อื่น ๆ) หนี้สินส่วนใหญ่มาจาก Working capital liability และหนี้สินกับสถาบันการเงิน สภาพคล่องลดลงเล็กน้อยจาก 1.4 เป็น 1.3

กระแสเงินสด: ต้นปีมี 937 ล้านบาท, รับจากการดำเนินงาน 930 ล้านบาท, จ่ายจากการลงทุน 1,746 ล้านบาท, รับจากสถาบันการเงิน 506 ล้านบาท, สิ้นปีมีเงินสดในมือ 528 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

การปรับตัวภายในประเทศ: รัฐบาลเวียดนามปรับนโยบายและโครงสร้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การรวมกระทรวงการคลังและ MPI จะช่วยให้การขอใบอนุญาตรวดเร็วขึ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: เวียดนามใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนเพื่อดึงดูดการลงทุน สหรัฐอเมริกาไม่ต้องการให้เวียดนามเข้าใกล้จีนมากเกินไป และจีนก็ไม่ต้องการให้เวียดนามเข้าใกล้สหรัฐอเมริกามากเกินไป

FTA: ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่เวียดนามมีกับหลายประเทศเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่ต้องการส่งออก

ต้นทุนการผลิต: ต้นทุนแรงงานและค่าสาธารณูปโภคในเวียดนามยังคงอยู่ในระดับที่แข่งขันได้

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

นโยบายของสหรัฐอเมริกา: การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของเวียดนาม แต่เวียดนามมีการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาอย่างดี

ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก: เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ดิน โดยเฉพาะลูกค้าจากจีน

การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ: การโยกย้ายเจ้าหน้าที่รัฐอาจทำให้กระบวนการอนุมัติโครงการล่าช้า

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

การบริหารความสัมพันธ์: เวียดนามรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายของแต่ละประเทศ

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: รัฐบาลเวียดนามลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การปรับตัวภายใน: รัฐบาลเวียดนามปรับปรุงกระบวนการทางราชการเพื่อให้การอนุมัติโครงการรวดเร็วขึ้น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

การย้ายฐานการผลิต: บริษัทต่างชาติมีแนวโน้มที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์

เป้าหมายยอดขายที่ดิน: บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2568 ที่ 100-110 เฮกเตอร์ โดยมี Long Thanh เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

การขยายธุรกิจ: บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังนิคมอุตสาหกรรมใหม่ โดยเน้นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42:44]

  1. หัวข้อ: ปัจจัยบวกในครึ่งปีแรก
    • คำถาม: ปัจจัยบวกในช่วงครึ่งปีแรกมีอะไรบ้าง?
    • คำตอบ:

      ปัจจัยบวกภายในประเทศคือการปรับตัวของนโยบายและโครงสร้างราชการ ส่วนปัจจัยภายนอกคือการที่เวียดนามเป็นจุดถ่วงดุลระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน นอกจากนี้ FTA ที่เวียดนามมีกับหลายประเทศก็เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน

  2. หัวข้อ: เป้ายอดขายที่ดินปี 2568
    • คำถาม: ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินเท่าไหร่ และจะมาจาก Halong หรือ Long Thanh เป็นหลัก?
    • คำตอบ:

      เป้าหมายคือ 100-110 เฮกเตอร์ โดย Halong ยังคงเป็นดาวรุ่งเนื่องจากลูกค้าไซส์ใหญ่ แต่ Long Thanh จะมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างรายได้รวม

  3. หัวข้อ: ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว
    • คำถาม: ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลต่อยอดขายที่ดินหรือไม่ โดยเฉพาะลูกค้าจากจีน?
    • คำตอบ:

      ผลกระทบจากนโยบายของสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดเฉพาะกับนักลงทุนจีน แต่เกิดกับทุกชาติที่ผลิตในจีน นักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มที่จะย้ายออกจากจีน และเวียดนามยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

  4. หัวข้อ: การย้ายฐานการผลิต
    • คำถาม: การย้ายฐานการผลิตในปัจจุบันจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใดที่ย้ายมาเวียดนามมากที่สุด?
    • คำตอบ:

      เดิมทีเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเยอะ แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์มีแนวโน้มที่จะย้ายมามากขึ้น และมักจะอยู่ในโซน 1 และ 2

  5. หัวข้อ: หุ้นกู้ Amata VN
    • คำถาม: เห็นมีสอบถามเรื่องหุ้นกู้?
    • คำตอบ:

      ทางกลุ่มอมตะ VN ไม่ได้มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ แต่การออกหุ้นกู้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน

  6. หัวข้อ: Backlog และ Q1/67
    • คำถาม: เรื่อง Backlog เป็นอย่างไรบ้าง?
    • คำตอบ:

      Backlog ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้ และคาดว่าจะสามารถโอนได้ใน Q1 หรือ Q2 ปีหน้า

  7. หัวข้อ: ลงทุนเพิ่มปี 2568
    • คำถาม: บริษัทมีการลงทุนเพิ่มเติมอะไรบ้างในปี 2568?
    • คำตอบ:

      มีการลงทุนในโครงการเดิม เช่น การซื้อที่ดินเพิ่มและการปรับปรุงสาธารณูปโภค ส่วนโครงการใหม่ๆ อาจจะยังไม่สามารถลงทุนได้ภายในปีนี้ แต่ถ้าได้ก็อาจจะลงทุนไม่เกิน 15-20 ล้านเหรียญ

  8. หัวข้อ: อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ลองทัน
    • คำถาม: อัตรากำไรขั้นต้นของลองทันเท่าไหร่?
    • คำตอบ:

      อัตรากำไรขั้นต้นของ Long Thanh อยู่ที่ 40-50%

โดยสรุป, Amata VN ยังคงมีโอกาสในการเติบโตในตลาดเวียดนาม แม้จะมีความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและปัจจัยภายในประเทศ การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต