AMATA
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday AMATA: มองหาโอกาสในความท้าทาย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2568

บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน Oppday เพื่อนำเสนอผลประกอบการสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณโอซามุ ซูโด ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน, คุณเด่นดาว โกมลเมฆ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน, และคุณซูโด ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
  2. บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองให้เป็น Perfect City โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ธุรกิจของบริษัทมีการลงทุนใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, พม่า, และลาว มีพื้นที่รวม 93,000 ไร่ มีโรงงานเกิดขึ้นแล้ว 16,000 โรงงาน และมีประชากรที่เข้ามาทำงานในนิคม 350,000 คน

    ผลประกอบการ 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวม 10,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนอยู่ที่ 690 ล้านบาท ลดลง 16% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีการโอนที่ดินไปแล้ว 1,127 ไร่ และมี Backlog ทั้งหมด 22,307 ล้านบาท

  3. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
  4. บริษัทได้เซ็นสัญญากับเนวัน ดาต้า เซ็นเตอร์ ในการซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อประกอบธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมชลบุรี อมตะ VN ในเวียดนามได้ร่วมลงนามกับบ้านพงเนส ในการทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องโซลาร์ โดยมีเป้าหมายภายใน 5 ปี จะมีกำลังการผลิต 227 เมกะวัตต์พีค และ COD จะเกิดขึ้นในปี 2569

  5. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
  6. การลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนเนื่องจากมีการปิดโรงงานไฟฟ้าบางแห่งเพื่อซ่อมแซม และการปรับตัวลดลงของราคาก๊าซและน้ำมัน รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ

  7. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
  8. บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการเรื่องน้ำและขยะ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่นิคมให้อยู่ภายใต้การรักษาสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Data Center ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

  9. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
  10. บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะลดการใช้ Green House Gas อย่างน้อย 30% ภายในปี 2573 และต้องการให้นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดกลับมาเป็น Carbon Neutral City ในปี 2583 นอกจากนี้ยังมีการมองหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจ High-Tech และการขยาย R&D Facility ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้น นาทีที่ 32.36

  1. แนวโน้มการขายที่ดินในอนาคต
    • คำถาม: บริษัทมีมุมมองต่อแนวโน้มการขายที่ดินในอนาคตอย่างไร และจะยังคงขายที่ดินได้ในระดับ 1,000 ไร่ต่อปีหรือไม่
    • คำตอบ: บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าแนวโน้มการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน จะยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีความล่าช้าบ้างเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ลูกค้าเดิมที่ซื้อที่ดินไปแล้วยังคงเดินหน้าก่อสร้างหรือรอการก่อสร้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังคงได้รับการสอบถามจากลูกค้าที่มีศักยภาพรายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
  2. ความล่าช้าในการขายที่ดินในลาว
    • คำถาม: ความล่าช้าในการขายที่ดินในลาวเกิดจากสาเหตุใด และบริษัทมีวิธีการบริหารจัดการอย่างไร
    • คำตอบ: ความล่าช้าในโครงการที่ลาวเกิดจากการเตรียมงานด้านโยธา เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้ชายแดนจีน ทำให้ต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงอยู่ในแผนงานที่วางไว้ และคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ โดยหวังว่าจะมีลูกค้ากลุ่มแรกเข้ามาในปีหน้า
  3. เป้าหมายการขายที่ดินใน Q4
    • คำถาม: บริษัทขายที่ดินได้แล้วกี่ไร่ใน Q4 และมั่นใจว่าจะขายได้ถึง 2,000 ไร่หรือไม่
    • คำตอบ: บริษัทยังคงมีลูกค้าที่มีศักยภาพ และทีมขายกำลังพยายามสรุปผลภายในปีนี้ บริษัทยังคงมีโอกาสที่จะขายได้ถึง 2,000 ไร่ ขึ้นอยู่กับตารางเวลาและสถานการณ์ของลูกค้า โดยจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดและสรุปตัวเลขที่ชัดเจนได้ในเดือนหน้า
  4. การโอนที่ดินให้ลูกค้าใน Q4
    • คำถาม: บริษัทโอนที่ดินให้ลูกค้าไปแล้วกี่ไร่ใน Q4 และคาดว่าจะโอนได้อีกกี่ไร่
    • คำตอบ: บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะโอนที่ดินให้ได้ 50% ของ Backlog ซึ่งบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานการณ์ของลูกค้าและการอนุมัติใบอนุญาตจากหน่วยงานราชการ
  5. การเติบโตในปีหน้า
    • คำถาม: บริษัทคาดการณ์ว่าธุรกิจในปีหน้าจะเติบโตกว่าปีนี้หรือไม่
    • คำตอบ: ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่แนวโน้มการลงทุนยังคงดำเนินต่อไป และลูกค้าบางรายอาจชะลอการตัดสินใจ แต่จำเป็นต้องดำเนินการในปีหน้า บริษัทคาดหวังว่าผลประกอบการในปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ หรืออาจจะดีกว่า
  6. ผลกระทบของค่าเงินบาท
    • คำถาม: ค่าเงินบาทที่แข็งค่าหรืออ่อนค่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไร
    • คำตอบ: การดำเนินงานส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นเงินบาท ดังนั้นผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจึงมีไม่มากนัก แต่หากมีการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทจะมีการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
  7. ความคืบหน้าในการนำ AMATA REIT เข้าตลาดหลักทรัพย์
    • คำถาม: มีความคืบหน้าอย่างไรบ้างในการนำ AMATA REIT เข้าตลาดหลักทรัพย์
    • คำตอบ: ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ และอาจจะไม่ทันภายในปีนี้ โดยจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง
  8. อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเข้ามาซื้อที่ดิน
    • คำถาม: อุตสาหกรรมใดที่มีแนวโน้มเข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท
    • คำตอบ: นอกจาก Data Center แล้ว ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้าน และอุตสาหกรรม High-Tech อื่นๆ
  9. เป้าหมายการขายที่ดิน
    • คำถาม: บริษัทขายที่ดินได้เท่าไหร่แล้วในเดือนตุลาคม และมีเป้าหมายการขายที่ดินอย่างไร
    • คำตอบ: ขายไปแล้วประมาณ 1,100 ไร่ แต่ตัวเลขนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และคาดว่าจะมีการทำข้อตกลงซื้อขายที่ดินได้อีกมากในช่วงปลายปี

ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป

  • Land Sales Outlook
  • Delay Land sales in Lao
  • Q4 Land Sales target
  • Transfer land to customer in Q4
  • Growth next year
  • Impact of exchange rates
  • Progress of AMATA REIT
  • Industries with a tendency to buy land
  • Land sales targets in Oct
  • Meaningful shift in competition of customer mix national
  • After private PPA is implemented will data center not to decide by the land in industrial estate
  • Still being changes in selling price of Wang and this past year

โดยสรุป อมตะ คอร์ปอเรชั่น ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ และอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ