สรุปงบล่าสุด AMATA
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) : ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567
**บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA)** รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 2,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการโอนที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 452 ไร่ ในไตรมาส 3 ปี 2567 จาก 272 ไร่ ในไตรมาส 3 ปี 2566 รวมถึงผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้นถึง 24.95%
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่สนับสนุนเศรษฐกิจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการเป็นเมืองที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 และลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยพื้นที่ที่พัฒนาแล้วลง 30% ภายในปี 2573 เทียบกับปีฐาน 2562 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สำคัญในทุกกิจกรรมการดำเนินงาน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
## วิเคราะห์โอกาสการลงทุน
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ของ AMATA แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจนี้อยู่ที่ 38.29% และอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 26.74% สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีของบริษัทฯ
นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจโดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ในสายตาของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มี D/E อยู่ที่ 1.14 ซึ่งสูงกว่า 1 สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในอนาคต หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
## โอกาสและความเสี่ยง
**โอกาส**
* การเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมในภูมิภาค ส่งผลดีต่อความต้องการพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
* บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร
* บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญต่อนักลงทุน
* โอกาสขยายธุรกิจไปยังประเทศใหม่ ๆ ในภูมิภาค
**ความเสี่ยง**
* ภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดนิคมอุตสาหกรรม
* ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ
* ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
## เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด
โดยรวมแล้ว AMATA เป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากมีโอกาสเติบโตสูง และมีศักยภาพในการสร้างกำไรที่ดี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงด้านภาระหนี้สินอย่างรอบคอบ
AMATA อาจเหมาะกับนักลงทุนที่:
* **ถือยาวรอการเติบโต:** เน้นการลงทุนในระยะยาวเพื่อรอผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทฯ
* **รับเงินปันผล:** บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล
* **เก็งกำไรระยะสั้น:** ในบางกรณี นักลงทุนอาจเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่ผันผวนตามข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจ
## สรุปข้อมูลเพิ่มเติมจากเอกสาร
**ข้อมูลทางการเงิน**
* บริษัทฯ มีทรัพย์สินรวม 63,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.94% จากสิ้นปี 2566
* บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 37,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.23% จากสิ้นปี 2566
* ส่วนของผู้ถือหุ้น 26,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.48% จากสิ้นปี 2566
* อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจหลักใน 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 37.25%
* อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) อยู่ที่ 1.20
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 26.68%
* อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 31.40%
* ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 291 วัน
* ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 210 วัน
* ระยะเวลาชำระหนี้เจ้าหนี้การค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 233 วัน
* อัตราส่วนความสามารถในการชำระภาระผูกพัน (Debt to Equity Ratio) อยู่ที่ 1.40
**ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม**
* บริษัทฯ มีรายได้ทางการเงิน 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจําหน่าย 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.24% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.10% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 87 ล้านบาท
* ต้นทุนทางการเงิน 505 ล้านบาท ลดลง 1.56% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 459 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.74% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า 817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.04% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
* กำไรสุทธิ 1,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.79% จาก 9 เดือนแรกของปี 2566
## ข้อสังเกต
* รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
* การโอนที่ดินเพิ่มขึ้นเป็นผลดีต่อรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
* บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่สูง สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดี
* ภาระหนี้สินที่สูงกว่า 1 อาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในอนาคต หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
* บริษัทฯ มีอัตราส่วนทุนหมุนเวียนที่สูงกว่า 1 สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นได้ดี
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูง แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์
* การมีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยที่น้อย เป็นสัญญาณที่ดี
* อัตราส่วนความสามารถในการชำระภาระผูกพันที่สูงกว่า 1 สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง
## บทสรุป
โดยรวมแล้ว AMATA เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงด้านภาระหนี้สินอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
(33.65%)
(25.63%)
(47.74%)
(27.28%)
(10.55%)
(1.30%)
(7.23%)
(37.44%)
(230.99%)
(93.02%)
(98.96%)
(57.03%)