สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 711.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.98% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากการส่งมอบหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานภาครัฐและลูกค้าเอกชนหลายราย นอกจากนี้ ยังมีการรับรู้รายได้จากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์หลายโครงการ กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2567 เท่ากับ 81.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สินทรัพย์ของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 เท่ากับ 2,601.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.77% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ รวมถึงงานระหว่างทำ วัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป สำหรับการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่เป็นการเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าในไตรมาส 4/2567 นอกจากนี้ ลูกหนี้การค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งในภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ

บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเน้นการขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ เพื่อรองรับความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการลดต้นทุนการผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2568 ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับผลดีจากการขยายตลาดต่างประเทศ และการเติบโตของตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศ

AKR เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E อยู่ที่ 0.5 แสดงถึงการมีภาระหนี้สินที่ต่ำ ซึ่งทำให้มีความสามารถในการกู้เงินเพื่อขยายกิจการได้สูง P/E ของบริษัทฯ อยู่ที่ 6.07 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับปานกลาง โดย YIELD อยู่ที่ 8.6% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ราคาเฉลี่ยของหุ้น AKR ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 เท่ากับ 0.9 โดยมีแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งเท่ากับ 0.92 นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน เท่ากับ 387.737053 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดที่ดี แม้เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุนจะติดลบที่ -118.792032 ล้านบาท แต่สะท้อนถึงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง วงจรเงินสดของบริษัทฯ เท่ากับ 204.92 แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

โอกาสการลงทุนใน AKR มีทั้งจากการเติบโตของธุรกิจ และการรับเงินปันผล โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า และการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลการลงทุนอย่างละเอียด และพิจารณาความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบ
- ความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงจากการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาค
- ความเสี่ยงจากการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

โดยสรุป AKR เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว เพื่อรับเงินปันผล และรอการเติบโต โดยควรศึกษาข้อมูล และพิจารณาความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน