ACE
บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday Absolute Clean Energy (ACE): ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 และทิศทางปี 2568

สรุปงาน Opportunity Day ของบริษัท Absolute Clean Energy (ACE) ประจำไตรมาส 4 ปี 2567 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ผลการดำเนินงานในภาพรวม:

  • บริษัทได้รับคะแนน CGR ที่ 5 คะแนนเต็ม ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุด
  • โรงไฟฟ้ากระบี่ได้รับรางวัล Excellence จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ในด้าน Smart City Solution
  • ได้รับการจัดอันดับ ESG Rating ที่ 3A ซึ่งเป็นระดับสูงสุดและสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว (2A)
  • สามารถ COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ได้ตามกำหนด 5 โครงการภายในปี 2567
  • มีการซื้อหุ้น APP (โรงไฟฟ้าชีวมวล) เข้ามา
  • เซ็นสัญญากำจัดขยะกับ อบต. 2 จังหวัด (สกลนครและอุบลราชธานี) ซึ่งคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ 9.9 MW และซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า 8 MW ต่อโครงการ
  • อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือจำนวนหุ้นไม่เกิน 400 ล้านหุ้น

ภาพรวมโครงการ:

  • ชีวมวล: เพิ่มขึ้น 1 โครงการ (ซื้อ APP เข้ามา ทำให้มี 11 โครงการใน Pipeline)
  • โซลาร์: COD เพิ่ม 5 โครงการ และ Solar Rooftop เพิ่ม 4 โครงการ รวมเป็น 9 โครงการ

ปัจจุบันมี Total Capacity 726 MW:

  • COD แล้วประมาณ 350 MW
  • อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา (Pipeline) 377 MW
  • จำนวนโครงการทั้งหมด 89 โครงการ

ผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ:

  1. โรงไฟฟ้าชีวมวล (ที่พัฒนาเอง): ชั่วโมงการเดินเครื่อง (AF) ลดลงเล็กน้อยเหลือ 93% เนื่องจากมีการ Shutdown เพื่อปรับปรุง แต่เมื่อเดินเครื่องแล้ว สามารถขายไฟได้เต็มที่ (CF 99%) กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  2. โรงไฟฟ้าชีวมวล (ที่ซื้อมา): AF ลดลงเหลือ 80% แม้ CF จะปรับขึ้นเป็น 98% ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงอย่างมาก
  3. โรงไฟฟ้าขยะ: การเดินเครื่องใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แต่กำไรขั้นต้นลดลงมากเนื่องจาก Adder หมดอายุ
  4. โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (โคเจน): เดินเครื่องได้ดีกว่าปีก่อนหน้า Gross Profit และ Gross Profit Margin ดีขึ้น
  5. โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าร์ฟาร์ม):
    • เพิ่งเริ่ม COD และรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 ทำให้ตัวเลขยังน้อย
    • มีโครงสร้างรายได้และต้นทุนที่แตกต่างจาก Solar Rooftop
    • บริษัทจะเน้นนำเสนอข้อมูล Solar Farm เป็นหลักในไตรมาสถัดไป

ภาพรวมผลประกอบการทางการเงิน (ตัวเลขเปรียบเทียบ):

  • รายได้รวม: 6,451 ล้านบาท
  • กำไรขั้นต้น (Gross Profit): ลดลงจากปีก่อนหน้า
  • Gross Profit Margin: 24.7% (รวมโรงไฟฟ้าที่ซื้อมา) หรือ 27.2% (ไม่รวม)
  • กำไรสุทธิ: 253 ล้านบาท (ไตรมาสล่าสุด)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ:

  • การ Shutdown โรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อปรับปรุง
  • Adder ของโรงไฟฟ้าขยะหมดอายุ
  • ราคาแก๊สที่ต่ำลง
  • ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น (ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาท)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • COD โรงไฟฟ้าโซลาร์เพิ่มเติมอีก 20 โครงการในปี 2568 (10 โครงการจากภาครัฐ และ 10 โครงการจากภาคเอกชน)
  • การเติบโตของรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่ COD แล้ว เนื่องจากรับรู้รายได้เต็มปี
  • โอกาสในการลดต้นทุนทางการเงิน หากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • Adder ของโรงไฟฟ้าขยะหมดอายุ ทำให้รายได้และกำไรลดลง
  • ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและการเบิกเงินกู้มาพัฒนาโครงการ
  • โครงการโรงไฟฟ้าที่ซื้อมา (APP) ยังอยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตและยังไม่เริ่มก่อสร้าง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่
  • การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ (ลด SG&A)
  • การเจรจาต่อรองราคากับทางการไฟฟ้า (สำหรับโครงการที่ Adder หมดอายุ)

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • บริษัทคาดว่าจะมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาเติมใน Pipeline อย่างต่อเนื่อง
  • รายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2569 จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการที่ COD ในปี 2568 และการมีโครงการใหม่ๆ เข้ามา
  • บริษัทให้ความสำคัญกับธุรกิจการปลูกป่าเพื่อกักเก็บคาร์บอน ซึ่งอาจเป็น New S-Curve ในอนาคต

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 45:40]

ทิศทางผลประกอบการปี 2568

  • การมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆ COD เพิ่มขึ้น, เดินเครื่องเกือบจะ 100%, โซล่าฟาร์มรับรู้รายได้เต็มปี, Solar Farm อีก 10 โครงการ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้
  • การปรับปรุงต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่น่าจะลดลง

APP เริ่มก่อสร้างหรือยัง

  • เหมือนโครงการชีวมวลอื่นๆ ยังอยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาต กำหนด COD ภายในสิ้นปี 2569

โครงการโซลาร์ที่เหลือจะ COD ช่วงไหนของปี

  • ครึ่งปีแรกน่าจะมีบางส่วน ครึ่งปีหลังเป็นส่วนที่เหลือ

โรงไฟฟ้าที่เพิ่งชนะประมูล 3 โครงการ จะเซ็น PPA ได้เมื่อไหร่

  • ยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับภาครัฐ ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบจากสำนักอัยการ หากเซ็นแล้วจะแจ้งให้ทราบผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์

บริษัทอยู่ในขอบเขตที่จะได้รับผลกระทบจากการลดค่าไฟของ กกพ. หรือไม่

  • เดาว่าน่าจะหมายถึงสัญญา Adder, โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็น FIT จะมี Adder แค่โรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ขอนแก่น
  • สัญญา Adder จะต่างจาก FIT คือสัญญา Adder จะเป็น 5 ต่อ 5 (ต่ออายุอัตโนมัติทุก 5 ปี) ในขณะที่ FIT จะระบุอายุสัญญาชัดเจน
  • กกพ. มีมติให้ กฟผ. ไปดูเรื่องต่อสัญญาเพื่อซื้อไฟต่อจากคนที่เคยเป็น Adder และถูกตัดเป็น FIT ให้ครบ 20 ปี
  • ค่าไฟของ Adder (ขอนแก่น) เป็นค่าไฟตามการไฟฟ้า (TOU) เฉลี่ยแล้วประมาณ 3 บาทกว่าบาท, มีสัญญาจำกัด 18 ปี, โครงการลงทุนประเมินความคุ้มค่าแค่เท่าอายุสัญญาขยะ
  • จึงสรุปว่าการที่ Adder จะไม่ได้ถูกต่อสัญญา หรือราคาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ จะไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัท

โดยสรุป ACE ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการ COD โครงการใหม่ๆ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกบางประการ