สรุป OPPDAY

24CS เปิดวิสัยทัศน์ปี 2568 มุ่งสู่ผู้นำเทคโนโลยีและความงาม พร้อมขยายฐานลูกค้าและเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีครับ ท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชนทุกท่าน ผมสันติ มณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท 24 คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด มหาชน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Oppday ของบริษัท

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 363.75 ล้านบาท และมีทุนที่ชำระแล้ว 215 ล้านบาท ณ วันที่ 10 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ บริษัทมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วอยู่ที่ 242.5 ล้านบาท

บริษัทได้ออก Warrant ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ประกอบด้วย 24CS-W1 มีอายุการใช้สิทธิ 2 ปี จำนวน 194 ล้านหน่วย และ 24CS-W2 มีอายุการใช้สิทธิ 3 ปี จำนวน 48.5 ล้านหน่วย

ธุรกิจหลักของ 24CS ประกอบด้วย

1. การจำหน่ายอุปกรณ์ระบบปรับอากาศ ระบายอากาศ และการรับเหมาก่อสร้างในงาน M&E สำหรับอาคารต่างๆ
2. การขายพลังงานไอน้ำ
3. รายได้จากบริษัทในเครือที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางในกลุ่มของ Dr.Jel
4. การขาย ให้บริการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ Server และ Network ต่างๆ

หมวดของธุรกิจของ 24CS คืออสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หรือป๊อปคอร์น ซึ่งอยู่ในตลาด MAI นโยบายในการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีนิติบุคคล

Mission ของบริษัทคือการส่งมอบงานที่มีคุณภาพในงานวิศวกรรมและการก่อสร้างต่างๆ สร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรและพนักงาน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า และสร้างความมั่นใจและความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้น

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

สินทรัพย์รวมลดลงประมาณ 434 ล้านบาท เนื่องจากสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นจากสัญญาลดลงในโครงการ GCC, CMI และ JLK ประมาณ 411 ล้านบาท

หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ล้านบาท เกิดจากเงินรับล่วงหน้าจากงานโครงสร้างสำหรับงาน Iconcoco กับ Le Meridien

ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงประมาณ 439 ล้านบาท เกิดจากประมาณการผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 411 ล้านบาท และขาดทุนสำหรับปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 28 ล้านบาท

รายได้รวมของบริษัทลดลงประมาณ 228 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการก่อสร้างลดลงประมาณ 151 ล้านบาท และรายได้จากงานขายเกี่ยวกับงานก่อสร้างลดลงประมาณ 108 ล้านบาท เนื่องจากโครงการหลายๆ โครงการอยู่ในช่วงที่กำลังแล้วเสร็จและส่งมอบงาน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าในการที่จะรับงานใหม่ บริษัทพยายามที่จะคัดสรรโครงการที่มีกำไรและมีการรับชำระเงินที่ดี ทำให้ยอดขายในงานก่อสร้างลดลง แต่การที่ยอดขายลดลงเพื่อที่จะทำให้ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากขาดทุนจากโครงการต่างๆ เนื่องจากความไม่แน่นอนหากมีกำไรที่ต่ำ หรือไม่สามารถรับชำระเงินจากลูกค้าได้

รายได้จากการขายพลังงานไอน้ำมีการขายเกิดขึ้นในปี 2567 เพิ่มขึ้นมาประมาณ 14 ล้านบาท และในส่วนของบริษัทลูก 24Home มีรายได้เกิดขึ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 17 ล้านบาท

สัดส่วนของรายได้ของบริษัทใน 24Home และ 24 Con & Supply ประกอบไปด้วย งานก่อสร้าง งานขายพลังงานไอน้ำ และของบริษัทลูก 24Home โดยมีสัดส่วนอยู่ที่งานก่อสร้างประมาณ 63% และงานเกี่ยวกับการขายสินค้าอยู่ที่ 37%

กำไรขั้นต้นสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 1.5% เป็น 7.3% หรือกำไรขั้นต้นรวมเพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านบาท เป็น 33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 439 ล้านบาท เกิดจากประมาณการผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ที่ประมาณ 411 ล้านบาท รายการนี้หากมีการออกวางบิลหรือแจ้งหนี้ก็จะมีการกลับรายการเป็นรายได้

จะเห็นว่าในปี 2567 บริษัทพยายามที่จะทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มมากขึ้น พยายามที่จะคัดสรรงานที่มีคุณภาพและมีกำไร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินจากลูกค้า และลดความเสี่ยงจากผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นได้หากโครงการมีความไม่แน่นอน

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 Backlog รวมอยู่ที่ประมาณ 623 ล้านบาท ซึ่งเกิดจาก Backlog จากงานก่อสร้างอยู่ที่ 321 ล้านบาท (CMI 217 ล้านบาท, Marriott 61 ล้านบาท, Sakura 17 ล้านบาท, GPO 16 ล้านบาท)

โครงสร้างของกลุ่มบริษัท 24CS ประกอบด้วย BU งานก่อสร้าง BU การขายพลังงานไอน้ำ (Energy) และบริษัทลูก 24Home ที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศต่างๆ สำหรับครัวเรือน

นอกจากนี้ยังมี 4 บริษัทที่ได้ทำการซื้อกิจการและควบรวมเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ได้แก่ TI, Organic Green Farm, Organic Innovation และ Dr.Jel โดย 3 บริษัทหลังอยู่ในกลุ่ม Dr.Jel Group

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ในปี 2568 บริษัทได้มีการเข้าซื้อกิจการใน 2 กลุ่มธุรกิจ คือ เทคโนโลยีดิจิทัล และเครื่องสำอางและอาหารเสริม ซึ่งมองว่าจะสามารถยกระดับในการดำเนินงานของธุรกิจไปสู่ผู้นำในด้านเทคโนโลยีและเครื่องสำอางและอาหารเสริม รวมทั้งยังคงการทำงานในงานก่อสร้างไว้

ในปีนี้บริษัทจะมีธุรกิจที่หลากหลาย มีการเพิ่มแหล่งรายได้ของบริษัทมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่พึ่งพาจากธุรกิจเดียวในงานก่อสร้าง

ในการขยายตัวทางด้านธุรกิจในครั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทมองว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างมั่นคงและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

ผลจากการที่เข้าซื้อกิจการสำหรับในธุรกิจเทคโนโลยีและเครื่องสำอางและอาหารเสริม ทำให้เราสามารถที่จะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งมากขึ้น และเพิ่มช่องทางรายได้ของเราได้หลากหลายมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการพึ่งพาในธุรกิจเดิม และขยายฐานลูกค้าไม่ว่าทางในด้านของภาครัฐหรือภาคเอกชน

ในส่วนของธุรกิจที่ซื้อมา ซึ่งได้มีการเปิดเผยไปแล้วว่าประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยี Intelligence ที่ให้บริการเกี่ยวกับการติดตั้ง ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ Server และ Network ต่างๆ เป็นที่ปรึกษาดูแลทางด้าน IT รวมทั้งประกอบกิจการเกี่ยวกับซื้อขายอุปกรณ์ IT ทุกชนิด ลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นภาครัฐประมาณ 95% และภาคเอกชนประมาณ 5%

ธุรกิจเทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวและเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะในการติดตั้งและการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ Server หรือ Network ต่างๆ จะส่งผลให้ความต้องการในตลาดมีมากขึ้น ทำให้ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เรามองว่าน่าจะมีอนาคตที่ดี และเพื่อรองรับประโยชน์ที่ประเทศไทยที่จะต้องเข้าสู่ใน Digital 4.0 ธุรกิจเกี่ยวกับ IT เกี่ยวกับการวางระบบการติดตั้งดูแลระบบต่างๆ จะมาเสริมความแกร่งให้กับกลุ่มบริษัท 24CS ได้มากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทได้กล่าวถึงการทำ Projection ต่างๆ ที่จะทำให้เกิดรายได้และกำไร ก่อนที่จะทำการซื้อกิจการก็จะมีการเข้าไปศึกษาดูผลประกอบการต่างๆ ที่ผ่านมาและทำการ Due Diligence ธุรกิจเพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจที่จะลงทุนมีความพร้อมและสามารถมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัท 24CS

ธุรกิจอีกกลุ่มหนึ่งคือธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางและธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัท Organic Green Farm ที่ทำการซื้อ ขายคัดสรรเกี่ยวกับวัตถุดิบในการผลิตเกี่ยวกับอาหารเสริม เครื่องสำอางต่างๆ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัท Organic Innovation จำกัด จะเป็นบริษัทที่ทำวิจัยและพัฒนาและเป็นโรงงานในการผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของกลุ่ม Organic ภายในใต้แบรนด์ของกลุ่มของบริษัท แล้วบริษัท Organic Innovation ก็เป็นบริษัทที่ทำ OEM รับจ้างผลิตให้กับบริษัทต่างๆ ที่มาให้บริษัทผลิตเกี่ยวกับอาหารเสริมและเครื่องสำอาง

สำหรับบริษัท Dr.Jel จำกัด ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ Dr.Jel Group จะเป็นบริษัทที่ขายปลีกและขายส่งภายใต้แบรนด์ของ Dr.Jel ซึ่งจะมีทั้งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเกี่ยวกับอาหารเสริม โดยจะขายในหลายๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ การขายทาง Telesales

ในส่วนของธุรกิจสุขภาพและความงาม ทางบริษัทเล็งเห็นการเติบโตของธุรกิจนี้และมีแนวโน้มที่ดีในทุกๆ ปี และการขายออนไลน์ที่บริษัทเล็งเห็นว่าจะเป็นช่องทางที่ทำให้รายได้สำหรับบริษัทเพิ่มมากขึ้น

ในการทำแบรนด์ของสินค้าในกลุ่มสุขภาพและความงาม เราได้มีการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นโดยการเปิดช่องทางในการขาย ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Shopee หรือ Lazada นอกจากนี้เรายังมีการขายในระบบตัวแทน รวมถึงการขาย Telesales ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้บริโภคของเราโดยตรง

ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทเล็งเห็นความสำคัญในการที่จะต้องวิจัยและพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของบริษัทอยู่ตลอดเวลา เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสริมความต้องการของลูกค้าให้ได้หลากหลายและมากขึ้น

ในส่วนของแบรนด์เครื่องสำอางรวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เรามีการผลิตและขยายผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปและความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเจาะลูกค้าที่มีความต้องการที่มากขึ้นและเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ในบริษัทให้มีความหลากหลายมากขึ้น ในการขยายตลาดเรามีทั้งของตลาด OEM และก็เป็น Private Label ของเราเอง ก็คือจะมีแบรนด์ที่เราผลิตให้ลูกค้า แล้วก็จะมีแบรนด์ที่เราผลิตเองแล้วก็จะใหม่ตรงกับผู้บริโภคโดยตรง

การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เราก็เล็งเห็นความสำคัญ พยายามที่จะศึกษาและนำนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาผลิตและเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ของเราให้แข็งแกร่งแล้วก็มีคุณภาพ เพื่อจำหน่ายหรือว่า สามารถที่จะทำสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้าของเราจำหน่ายให้แก่ลูกค้าของเขาได้ต่อไป ในการ ในโอกาสในการที่เราจะขยายตลาดต่างๆ เราก็มองทั้งลูกค้าที่อยู่ในประเทศ และลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งหลักๆ ตอนนี้ก็คือเรามองลูกค้าที่ในประเทศ ซึ่งเรามีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าในต่างประเทศเราก็จะมีแนวโน้มที่จะขยายเพื่อจะทำให้ลูกค้าและฐานลูกค้าของเราขยายและเติบโตมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ Dr.Jel มีหลากหลายทั้งผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวหน้า ผิวกาย เส้นผม หรือว่าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนัก ก็จะมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่จะให้ลูกค้าได้เลือกสรร ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เราได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้า หลักๆ ก็จะมี Dr.Jel L.A.F. ก็เป็นสารสกัดหลักที่ทำเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนัก และก็จะมี ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ แล้วก็ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ Hair Tonic เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลเกี่ยวกับเส้นผม แล้วก็ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมต่างๆ ไม่ว่า ผมที่บางหรือว่าการที่เสริมสร้างทำให้ผมดกดำมากขึ้น และก็ Product ที่เรากำลังที่จะ Launch ออกมาใหม่เพิ่มมากขึ้นเพื่อขยายผลิตภัณฑ์ของ ตัวบริษัทก็จะประกอบไปด้วย Dr.Jel TF เกี่ยว ผลิตภัณฑ์นี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารสุขภาพที่จะทำให้ สุขภาพของลูกค้าเราดีขึ้น แล้วก็ทำให้ ควบคุม น้ำตาลใน ในเลือดของลูกค้าด้วย อะไรอย่างนี้ครับ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากชา ผสมกับ พีช นะครับผม

ในการเติบโตของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท ก็ในทุกๆ ปีเราก็จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น บริษัทก็จะมีการวิจัยและพัฒนา แล้วก็เสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดและลูกค้าที่อยู่ในตลาดให้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าในแต่ละเดือนในแต่ละไตรมาสเราก็จะมีแผนที่จะต้องออกสินค้า Product ใหม่ ๆ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักอยู่ที่การบริหารจัดการการเข้าซื้อกิจการหลายแห่งพร้อมกัน วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สอดคล้องกัน และการแข่งขันที่สูงในตลาดสุขภาพและความงาม

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ในการแก้ไขปัญหาและการลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ บริษัทได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าในเรื่องของ HR Finance Accounting ให้กับบริษัทลูกต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานปกติของบริษัทลูกยังดำเนินต่อไปตามปกติ

ส่วนในส่วนของในทางด้านการบัญชีการเงิน หรือว่าการบริหาร ทรัพยากรบุคคล บริษัทก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการ ควบรวมดูแล แล้วก็ส่งเสริมให้บริษัทลูกมีระบบ แล้วก็ ตามตาม ขั้นตอนหรือว่ากฎข้อบังคับต่างๆ ตามบริษัทแม่ ให้ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งเราเล็งเห็นความสำคัญนี้ มาก เพราะ ก่อนที่เราจะเข้าไป ซื้อ กิจการ เราก็จะมีการเข้าไปศึกษา ร่วมปี นะครับผม เกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ เหล่านี้ แล้วหลังจากนั้น เราก็ส่งทีมเข้าไปเพื่อ จะช่วยบริษัท ย่อย ต่างๆ ในการที่จะเซ็ต ระบบ ต่างๆ เซ็ต ระบบ IT ซอฟต์แวร์ หรือว่า บัญชี การเงิน เพื่อให้มีความแข็งแกร่ง แล้วก็ในการที่จะรายงาน ข้อมูล ทางการเงินต่างๆ ให้ถูกต้องและครบถ้วน ตาม กฎ ข้อบังคับต่างๆ ของ กลต ด้วยครับ

ซึ่งเรามองว่า ในส่วนนี้คือเรามองเห็นความสำคัญแล้วก็ มองเห็น ความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วเราพยายามที่จะลดความเสี่ยงต่างๆ ก่อนที่จะดำเนิน การ อ่า ในการรวมกิจการนะครับ

สำหรับการเข้าซื้อกิจการ แห่ง การพัฒนา ธุรกิจ ของ ตน เอง ทาง บริษัท มี มุม มอง อย่าง ไร บ้าง อย่าง ที่ แจ้ง ไป นะ ครับ ผม บริษัท มอง ว่า การ ที่ เรา ได้ อ่า เนอร์ ที่ ดี ซึ่ง มี ประสบการณ์ แล้ว ก็ มี อ่า ตลาด ที่ พร้อม เรา ใน บริษัท แม่ ที่ เข้า ไป ลง ทุน เรา จะ เป็น ตัว ที่ ช่วย เสริม ให้ เขา มี ความ แข็ง แกร่ง มาก ขึ้น ธุรกิจ ที่ เขา ทํา อยู่ เขา ก็ สามารถ ดําเนิน งาน ได้ ตาม ปกติ ความ แข็ง แกร่ง ที่ เรา มี เรา ก็ จะ ไป เสริม ศักยภาพ ของ บริษัท ย่อย ที่ เรา เข้า ไป เข้า ซื้อ ให้ มี ความ แข็ง แกร่ง มาก ขึ้น ไม่ ว่า ความ แข็ง แกร่ง ใน ทาง ด้าน ระบบ ต่างๆ งาน อ่า Back Office รวม ทั้ง Operation ใน การ อ่า ที่ จะ ทํา การ ขาย การ หา ลูก ค้า ใหม่ ๆ ที่ จะ เกิด ขึ้น และ การ พัฒนา อ่า ผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ซึ่ง เรา มอง ว่า การ ที่ เรา เข้า ไป ร่วม และ ได้ มี พาร์ทเนอร์ ที่ มี อ่า ประสบการณ์ และ อยู่ ใน ธุรกิจ ต่างๆ ไม่ ว่า จะ เป็น ไอที หรือ ว่า ธุรกิจ ความ งาม หรือ ว่า อาหาร สังหาง เสริม มัน จะ เป็น การ สนี่ ที่ ดี ใน ทาง ด้าน ธุรกิจ และ เสริม สร้าง ความ แข็ง แกร่ง ดี กว่า ที่ เรา จะ ต้อง อ่า เริ่ม ต้น ใน การ อ่า ผลิตภัณฑ์ ใหม่ หรือ ว่า ออก อ่า จัด ตั้ง บริษัท ใหม่ เพื่อ ทํา งาน ใน ธุรกิจ ที่ เรา ยัง ไม่ อ่า มี ความ รู้ หรือ ความ สามารถ มาก พอ แต่ ใน การ เข้า ไป ซื้อ กิจการ ทํา ให้ เรา มี ซินนี่ มี พาร์ทเนอร์ ที่ แข็ง แกร่ง มี ฐาน ลูก ค้า ที่ พร้อม ที่ เรา จะ ก้าว ต่อ ไป ได้ เรา มอง ว่า วิธี การ นี้ ก็ คือ สามารถ ทํา ให้ อ่า ลด ความ เสี่ยง แล้ว ก็ เพิ่ม การ เติบ โต ได้ อย่าง ยั่ง ยืน ได้ ครับ

ในการแข่งขันในตลาดสุขภาพและความงาม บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง การขยายฐานลูกค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

ในส่วนของ ธุรกิจ อ่า เครื่อง สำอาง และ หัน เสริม จะ จาก ที่ เรียน แจ้ง ผู้ ถือ หุ้น หรือ ว่า นัก ลง ทุน ไป นะ ครับ ผม ว่า ธุรกิจ นี้ ก็ คือ อ่า ใน กลุ่ม ของ ดร. เจล เขา มี ความ รู้ ความ สามารถ แล้ว ก็ เค้า มี ฐาน ลูก ค้า ที่ อยู่ ใน มือ อยู่ แล้ว แล้ว ก็ ใน ส่วน ของ แบรนด์ ใหญ่ ๆ เค้า ก็ จะ มี ตลาด ของ เค้า ธุรกิจ ของ กลุ่ม ดร. เจล เค้า ก็ จะ มี อ่า ฐาน ลูก ค้า เฉพาะ ของ เค้า ซึ่ง ใน ฐาน ลูก ค้า ที่ เฉพาะ กลุ่ม แล้ว ก็ เข้า ตรง ถึง ผู้ บริโภค โดย ตรง เป็น จุด แข็ง ของ กลุ่ม บริษัท ดร. เจล ที่ สามารถ ทํา ได้ ดี แล้ว เรา มอง ว่า เค้า สามารถ ที่ จะ ขยาย ทาง ลูก ค้า ได้ มาก ขึ้น และ มอง ว่า ผลิตภัณฑ์ ที่ อ่า จําหน่าย ให้ กับ ลูก ค้า ต่างๆ ใน ตอน นี้ มี ความ แข็ง แกร่ง แล้ว ก็ เป็น ที่ อ่า ชื่น ชอบ ของ ลูก ค้า และ ลูก ค้า ต่าง ๆ มี ผล ตอบ รับ ที่ ดี จาก ลูก ค้า นะ ครับ ผม ซึ่ง เรา มอง ว่า ใน แบรนด์ ต่างๆ มี ความ แข็ง แกร่ง แล้ว ก็ มี จุด แข่ง ที่ แตก ต่าง กัน ใน กลุ่ม ของ ดร. เจล หรือ ว่า ผลิตภัณฑ์ เรา ที่ เรา อ่า จําหน่าย ให้ กับ ลูก ค้า เรา ก็ มอง ว่า เรา มี ฐาน ลูก ค้า ที่ มั่น คง แล้ว ก็ สามารถ ที่ จะ ขยาย ฐาน ลูก ค้า และ สร้าง อ่า แบรนด์ หรือ ว่า ตรา ของ สินค้า ของ เรา ให้ แข็ง แกร่ง แล้ว ก็ มี จํานวน ที่ หลาก หลาย ที่ จะ ตอบ สนอง ความ ต้องการ ของ ผู้ บริโภค มาก ขึ้น นะ ครับ ผม

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ในส่วนของผู้บริหารและบริษัทมองว่าโครงสร้างใหม่ของกลุ่มบริษัท 24CS จะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และทางผู้บริหารพยายามที่จะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัทที่จะมีกำไรและมีรายได้ที่มากขึ้น สร้างความมั่นคงให้บริษัท ผู้ถือหุ้น และพนักงานของบริษัทอย่างเต็มที่ และเรามองว่าในธุรกิจต่างๆ ที่เราทำ เราได้ลดความเสี่ยงพยายามที่จะบริหารความเสี่ยงต่างๆ ให้ลดน้อยลง ไม่ว่าเราจะต้อง ผู้บริหารต่างๆ จะเข้าไปศึกษาก่อนที่จะลงทุนในธุรกิจต่างๆ รวมถึงการเข้าไปในส่วนของ เกี่ยวกับ การเงิน และ บัญชี ของ ธุรกิจ ที่ เรา อ่า ต้องการ ไป ลง ทุน และ ส่วน ธุรกิจ ต่างๆ ที่ เรา เข้า ไป ลง ทุน นะ ครับ ผม ผู้ บริหาร เดิม ก็ เค้า ก็ จะ มี ฐาน ลูก ค้า แล้ว ก็ มี ประสบการณ์ อยู่ แล้ว เค้า ก็ จะ เป็น อ่า ตัว ที่ ดู แล ใน ธุรกิจ ที่ เรา เข้า ไป ซื้อ นอก จาก นี้ อ่า ผู้ บริหาร ของ 24 CS ก็ เข้า ไป อ่า ช่วย ใน การ บริหาร งาน แล้ว ก็ พัฒนา ระบบ ต่าง ๆ เพื่อ ให้ บริษัท ใน กลุ่ม มี ความ แข็ง แกร่ง มี บัญชี ที่ ถูก ต้อง ครบ ถ้วน แล้ว ก็ การ เงิน ที่ แข็ง แกร่ง มาก ขึ้น นะ ครับ

ดังนั้นในภาพรวม เราอยากจะให้ท่านนักลงทุนและผู้บริหารนักลงทุนและผู้ถือหุ้นทุกท่านมั่นใจและเชื่อมั่นว่าโครงสร้างที่เราจะเดินต่อไปของ 24CS จะเป็นโครงสร้างที่มีความมั่นคงแล้วก็เดินไปด้วยความระมัดระวัง และสามารถที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นนักลงทุนมั่นใจในผลตอบแทนที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้และก็ปีต่อๆ ไป

ดังนั้นโดยสรุป ในปี 2568 24CS มุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและสุขภาพและความงาม พร้อมขยายฐานลูกค้าและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

Q&A Session เริ่มต้นนาทีที่ 42.50

คำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงในการบริหารจัดการการเข้าซื้อกิจการหลายแห่งพร้อมกันและวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สอดคล้องกัน

คำตอบ: ทางบริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงนี้และได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลในเรื่องต่างๆ ทั้ง HR, Finance และ Accounting เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทลูกเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังเข้าไปมีส่วนร่วมในการควบรวมดูแลและส่งเสริมให้บริษัทลูกมีระบบและการดำเนินงานที่เป็นไปตามกฎข้อบังคับของบริษัทแม่

คำถามเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการกับการพัฒนาธุรกิจของตนเอง

คำตอบ: บริษัทมองว่าการได้ Partner ที่ดีที่มีประสบการณ์และมีตลาดที่พร้อมจะช่วยเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ธุรกิจที่ทำอยู่ก็จะสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ โดยบริษัทแม่จะเข้าไปเสริมศักยภาพของบริษัทลูกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านระบบต่างๆ งาน Back Office รวมถึง Operation และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ

คำถามเกี่ยวกับจำนวนคู่แข่งที่มากและแบรนด์ใหญ่ๆ ในธุรกิจสุขภาพและความงาม

คำตอบ: กลุ่ม Dr.Jel มีความรู้ความสามารถและมีฐานลูกค้าที่อยู่ในมืออยู่แล้ว และแบรนด์ใหญ่ๆ ก็มีตลาดของเขา ในขณะที่กลุ่ม Dr.Jel ก็จะมีฐานลูกค้าเฉพาะของเขาเอง โดยมีจุดแข็งอยู่ที่การเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง และบริษัทมองว่าสามารถที่จะขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายก็มีความแข็งแกร่งและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า

หัวข้อคำถามและคำตอบ:

1. ความเสี่ยงในการเข้าซื้อกิจการ: การมีทีมเฉพาะกิจดูแล, การใส่ใจเรื่องบัญชีและการเงินของกิจการ
2. เป้าหมายการเข้าซื้อกิจการ: เพิ่มความแข็งแกร่งกิจการเดิม, ใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย
3. การแข่งขันในตลาดความงาม: โฟกัสลูกค้าเฉพาะกลุ่ม, พัฒนาสินค้าให้หลากหลายตอบโจทย์