https://aio.panphol.com/assets/images/community/9423_8BD654.png

SPRC: KGI ปรับลดประมาณการกำไร แต่ยังคงคำแนะนำ "Outperform"

P/E 15.45 YIELD 6.84 ราคา 5.85 (0.00%)

KGI ปรับลดประมาณการกำไรของ SPRC แต่ยังคงคำแนะนำ "Outperform" ด้วยเหตุผลจากกำไรที่คาดว่าจะฟื้นตัวใน 2H25F และมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำ

ประเด็นสำคัญ

KGI Securities ได้ปรับลดประมาณการกำไรของ SPRC (Star Petroleum Refining) ลง 9% สำหรับปี 2568 และ 16% สำหรับปี 2569 เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานผลิตทั้งหมดใน 1Q26F อย่างไรก็ตาม KGI ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ SPRC โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.50 บาท

รายละเอียดการวิเคราะห์

การปรับลดประมาณการกำไรมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ (major turnaround) ซึ่ง SPRC คาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 120-150 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 70% จะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และอีก 30% เป็นค่าใช้จ่ายลงทุน (CAPEX) KGI ได้ปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่าย SG&A ขึ้น 21% เป็น 4.1 พันล้านบาทในปี 2568 และ 61% เป็น 5.5 พันล้านบาทในปี 2569 นอกจากนี้ KGI ยังได้ปรับลดค่าเสื่อมราคาลง 10% เป็น 3.0 พันล้านบาทในปี 2568 และ 23% เป็น 2.6 พันล้านบาทในปี 2569

KGI คาดการณ์ว่ากำไรหลักของ SPRC จะฟื้นตัว QoQ ใน 3Q25F เนื่องจากอัตราการกลั่นน้ำมันดิบที่สูงขึ้นและค่าการกลั่น (refinery margin) ที่ดีขึ้น โดยคาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นตามส่วนต่างราคา (spread) ของน้ำมันเครื่องบิน (jet oil) และน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินจะลดลงก็ตาม นอกจากนี้ KGI ไม่คาดว่าจะเกิดผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (stock loss) จำนวนมากเหมือนใน 2Q25 หลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวสูงขึ้น

ข้อสังเกต

KGI ปรับลดราคาเป้าหมายสำหรับ 1H26F ลงเหลือ 6.50 บาท จากเดิม 7.00 บาท โดยอิงจาก 5.0x EV/EBITDA เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร อย่างไรก็ตาม KGI ยังคงคำแนะนำ Outperform เนื่องจากคาดว่าค่าการกลั่นจะสูงขึ้น HoH ใน 2H25F จากการปิดโรงกลั่นทั่วโลกประมาณ 840 KBD ภายในสิ้นปี นอกจากนี้ อัตราส่วน PB ปัจจุบันที่ 0.54x ใกล้เคียงกับ -2.0 S.D. (0.55x) ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก

สรุป

KGI Securities ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ SPRC แม้จะมีการปรับลดประมาณการกำไรในระยะสั้น โดยมองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2568 และราคาหุ้นในปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่น รวมถึงคดีความมูลค่า 7.7 พันล้านบาทจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของ SPM

โพสต์ล่าสุด