บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SAWAD กำไร Q2/68 โต 15.7% แม้สินเชื่อรวมลด แต่จำนำทะเบียนยังแรง
P/E 8.70 YIELD 0.14 ราคา 25.75 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: กำไรโตสวนกระแส
SAWAD โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2568 กำไรสุทธิ 1,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อรวมจะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทยังคงรักษาการเติบโตได้จากสินเชื่อจำนำทะเบียนและอื่น ๆ การบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยหนุนให้รายได้ดอกเบี้ยและกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น
ภาพรวมผลประกอบการ: กำไรเพิ่ม รายได้ดอกเบี้ยลด
ในไตรมาส 2/2568 SAWAD มีกำไรสุทธิ 1,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรกลดลง 5.5% อยู่ที่ 2,455 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 11.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการหดตัวของลูกหนี้สินเชื่อ อย่างไรก็ตาม รายได้อื่น ๆ เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าประกันภัย
บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง นอกจากนี้ ขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขายลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้น ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียน ต้นทุนทางการเงินลดลงจากการลดภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย
ข้อสังเกต: สินเชื่อรวมลด แต่จำนำทะเบียนโต
ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 SAWAD มีสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 93,155 ล้านบาท ลดลง 8.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สินเชื่อจำนำทะเบียนและอื่น ๆ ขยายตัวได้ 1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อส่วนบุคคลลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สรุป: มุ่งบริหารความเสี่ยง ขยายช่องทางดิจิทัล
SAWAD มุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการควบคุมต้นทุนเพื่อรักษาผลกำไร นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ปรับโครงสร้างสาขาที่ไม่เหมาะสม และใช้กลยุทธ์ "สาขาออนไลน์" เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า โครงการ Digital Transformation เช่น e-KYC และ Mobile Lending Platform คาดว่าจะเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ การดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย จะสนับสนุนการสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน