บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ITEL รายได้พุ่ง แต่กำไรหด! ขยายสู่ธุรกิจการแพทย์ยังไม่เปรี้ยง
P/E 13.94 YIELD 0.00 ราคา 1.19 (0.00%)
ITEL โชว์ผลงาน Q2/68 รายได้รวมโต 16.41% แต่กำไรสุทธิกลับลดลง 43.87% แม้ได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การขยายสู่ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ยังไม่สร้างผลกำไรเด่นชัด
รายได้ทะยาน ต้นทุนพุ่งฉุดกำไร
ITEL หรือ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวม 662.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของผู้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3.29 ล้านบาท สำหรับบริษัทฯ มีรายได้ 562.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.43% แต่กำไรสุทธิลดลง 43.87% เหลือ 21.36 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของรายได้มาจากการขยายตัวของบริการติดตั้งโครงข่าย
ปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐ ขยายสู่ธุรกิจใหม่
บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและประเทศไทย 4.0 ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ซื้อกิจการของบริษัท โกลบอลลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซสจำกัด (เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เฮลธ์ เทคโนโลยี จำกัด) เพื่อขยายฐานธุรกิจไปสู่การจัดจำหน่ายและให้บริการเช่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
เจาะลึกรายได้และกำไร
รายได้หลักมาจาก การให้บริการโครงข่าย (336.26 ล้านบาท), การให้บริการติดตั้งโครงข่าย (271.92 ล้านบาท), การให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (25.41 ล้านบาท) และการให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์ (18.18 ล้านบาท) ต้นทุนจากการให้บริการเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยเฉพาะต้นทุนงานบริการโครงข่ายและต้นทุนการให้บริการติดตั้งโครงข่าย อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลง สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้น และลักษณะงานโครงการที่แตกต่างกัน กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลงเนื่องจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง, รายได้เงินปันผลรับจากบริษัทย่อยที่ลดลง และการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
สินทรัพย์มั่นคง หนี้สินลดลง
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,508.81 ล้านบาท สินทรัพย์ที่สำคัญคือ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น, รายได้ค้างรับ, สินทรัพย์ถาวรและอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคม หนี้สินรวมของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 4,282.69 ล้านบาท หนี้สินส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงิน, เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น, หนี้สินตามสัญญาเช่าภายใต้สัญญากับทรัสต์ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 1.03 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เป็น 0.96 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 แสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินที่ดีขึ้น
สรุปประเด็นสำคัญ
แม้ ITEL จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น บริษัทฯ ได้รับผลดีจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การขยายธุรกิจไปยังบริการเครื่องมือทางการแพทย์ยังไม่สร้างรายได้มากนักในไตรมาสนี้ ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีหนี้สินจำนวนมาก