บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TIDLOR: บัวหลวงชี้เป้า 16 บาท แนะถือรอขายทำกำไรที่ 19 บาท
P/E 10.36 YIELD 0.00 ราคา 18.60 (0.00%)
โบรกเกอร์ BLS ปรับคำแนะนำ TIDLOR เป็น "ถือ" มองราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยพื้นฐานแล้ว แต่ยังมีอัพไซด์ให้ขายทำกำไรได้อีกเล็กน้อย
ไฮไลท์สำคัญ:
- BLS ปรับคำแนะนำ TIDLOR จาก "ซื้อ" เป็น "ถือ"
- ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16.00 บาท
- แนะถือรอขายทำกำไรที่ราคา 19.00 บาท
- มองราคาหุ้นปัจจุบัน สะท้อนปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว
BLS มอง TIDLOR อย่างไร:
ราคาหุ้น TIDLOR ปรับตัวขึ้น 32% ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2568 ทำให้ PER ปี 2568 อยู่ที่ 11.4 เท่า ขณะที่คาด EPS เติบโตเฉลี่ย 10% (CAGR ปี 2568–2570) ส่งผลให้ PEG ratio อยู่ที่ 1.15 เท่า PBV ณ สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 1.5 เท่า และ ROE ปี 2568 คาดอยู่ที่ 14.3%
BLS มองว่าราคาหุ้น TIDLOR ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานไปในราคาแล้ว จึงปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำให้ถือต่อเพื่อรอขายทำกำไร
BLS คาดว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps เหลือ 1.50% ก่อนสิ้นปี 2568 จากสถิติในอดีต ราคาหุ้น TIDLOR ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกราว 6% ก่อนการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวช้ากว่า SET หลังการลดดอกเบี้ย ดังนั้นหากราคาหุ้น TIDLOR ปรับตัวขึ้นถึง 19 บาท จะเป็นจังหวะที่ดีในการขายทำกำไร
ข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์:
BLS ยังไม่คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR จะปรับตัวดีขึ้นมากนักในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า GDP ของไทยในปี 2568 จะเติบโตเพียง 1.4% YoY ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจจะเติบโตช้าลงในครึ่งหลังของปี 2568
นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของ TISCO ปรับขึ้นจาก 5.14% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2568 มาอยู่ที่ 5.28% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. และอัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อของ AutoX (ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของ SCB) ปรับขึ้นจาก 2.4% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2568 มาเป็น 2.9% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังคงอ่อนแอ
ดังนั้น BLS จึงไม่คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2568
สรุปผลการดำเนินงานและประมาณการ:
BLS คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ของ TIDLOR จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 1% QoQ ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อที่ 4% YoY และ 2% QoQ หนุนโดยธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
NIM ไตรมาสนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 15.54% ลดลง 11 bps YoY (จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น) แต่เพิ่มขึ้น 10 bps QoQ (จากอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของสินเชื่อที่สูงขึ้น) อัตราการตั้งสำรองในไตรมาส 2/68 คาดที่ 2.90% ลดลงจาก 3.57% ในไตรมาส 2/67 และ 2.96% ในไตรมาส 1/68
อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.78% ณ สิ้นเดือน มี.ค. มาอยู่ที่ 1.80% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้เสียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 255.7% ณ สิ้นเดือน มี.ค. มาอยู่ที่ 258.2% ณ สิ้นเดือน มิ.ย.
เมื่อมองไปยังไตรมาส 3/68 BLS คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY (หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อและการตั้งสำรองที่ลดลง) แต่ลดลง 5% QoQ (ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ)
นักวิเคราะห์: เอนกพงศ์ พุทธาภิบาล