บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

Krungsri Securities (KSS) ออกบทวิเคราะห์หุ้น บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) โดยมีมุมมอง Slightly Negative ต่อประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ 54 ล้านบาท ลดลง 77% เมื่อเทียบกับปีก่อน (y-y) และลดลง 92% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (q-q) หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX loss) ราว 403 ล้านบาท คาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 457 ล้านบาท ลดลง 24% y-y และ 39% q-q

text-primary ปัจจัยกดดันกำไร

กำไรที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการเรียกเก็บค่าก๊าซย้อนหลังของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (PTT) จากช่วงปี 2566 ที่มีการตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย โดย BGRIM มีลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ที่เชื่อมโยงกับค่า Ft ซึ่งไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนได้ ส่งผลให้คาดการณ์ส่วนต่างราคาเชื้อเพลิง (Sparkspread) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 0.78 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ KSS คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2 ปี 2568 จะอยู่ที่ 14,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% y-y และ 6% q-q จากปริมาณการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) และลูกค้า IU ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลพิเศษจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า SPP ในส่วนที่ขายให้ EGAT

text-primary แนวโน้ม Q3/25 และข้อสังเกต

KSS คาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 3 ปี 2568 จะลดลง y-y จากฐานที่สูงในไตรมาส 3 ปี 2567 ที่มีปริมาณการขายไอน้ำโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่จะ เพิ่มขึ้น q-q จาก Effective Sparkspread ที่ปรับตัว เพิ่มขึ้น บนค่า Ft ที่คาดว่าจะตรึงอยู่ที่ 3.98 บาทต่อหน่วย และราคาก๊าซที่เริ่มปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม KSS มองว่า BGRIM ยังอยู่ในช่วงรอการฟื้นตัวในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเลื่อนกำหนดการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ Nakwol 1 บางส่วน, การปรับตัวลงของปริมาณการขายไฟฟ้า IU และประเด็นการปรับลดค่าไฟฟ้าของ EVN ในเวียดนาม

text-primary คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

KSS คงประมาณการและคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ BGRIM โดยให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 11.2 บาท อิงจากวิธี Sum-of-the-parts (SOTP) โดยคาดว่า BGRIM จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ในวันที่ 13 สิงหาคม