บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

PTTEP เตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตรอบใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ถึงปี 2569 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกระแสเงินสดในมือที่แข็งแกร่ง และการกลับมาของ CEO ที่มีประสบการณ์ด้านการควบรวมกิจการ (M&A) ในตะวันออกกลาง

ศักยภาพการเติบโตที่กำลังจะมาถึง

โกลเบล็กซ์ (GLOBLEX) ประเมินว่า PTTEP กำลังจะเข้าสู่ช่วงการเติบโตครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ คล้ายกับช่วงปี 2561-2562 ที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อสินทรัพย์หลายรายการ ส่งผลให้ PTTEP กลายเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ปตท. ด้วยปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า หนุนให้ฐานกำไรสุทธิสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท

โกลเบล็กซ์คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 PTTEP จะมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงปี 2561 ที่มีอยู่ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงที่ PTTEP ดำเนินการ M&A หลายครั้ง นอกจากนี้ การต่ออายุสัญญาของ CEO มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน M&A โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง จะช่วยสนับสนุนการเข้าซื้อกิจการที่กำลังดำเนินอยู่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

เป้าหมายใหม่ที่ท้าทาย

โกลเบล็กซ์คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ถึงปี 2569 PTTEP จะสามารถ:

• เพิ่มอายุของปริมาณสำรองปิโตรเลียมขึ้นเป็น 9 ปี จาก 6.4 ปี ในปี 2567
• เพิ่มปริมาณการผลิตเป็น 600,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (kboed) จากปัจจุบัน 500,000 kboed
• เพิ่มกำไรสุทธิเกิน 9 หมื่นล้านบาท หรือแตะระดับ 1 แสนล้านบาท หากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นจากการปิดช่องแคบฮอร์มุซโดยอิหร่าน

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

โกลเบล็กซ์คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PTTEP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 140 บาท เนื่องจากเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของรูปแบบธุรกิจ (ฐานการผลิตสูงและต้นทุนต่ำ) และการเติบโตจาก inorganic growth ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับประมาณการราคาหุ้นใหม่ จากการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งขึ้น