บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป Oppday TRT : ธีระไทย โชว์ผลงาน Q1/2568 เดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียวและขยายตลาดโลก

สรุป Oppday TRT : ธีระไทย โชว์ผลงาน Q1/2568 เดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียวและขยายตลาดโลก

บริษัท ธีระไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าชั้นนำของประเทศ ได้จัดงาน Opportunity Day เพื่อนำเสนอผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2568 และแนวโน้มธุรกิจในอนาคต โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณสัมพันธ์ วงศ์ปาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ และคุณกานต์ วงศ์ปาน เลขานุการและผู้จัดการฝ่ายบัญชีและเทคโนโลยีสารสนเทศ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

   TRT มีรายได้รวมประมาณ 620 ล้านบาท เกินเป้า 600 ล้านบาทที่ตั้งไว้ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 800 ล้านบาท รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 611 ล้านบาท ลดลงประมาณ 190 ล้านบาทจากปีก่อน กำไรขั้นต้น (Gross Profit) อยู่ที่ 165.35 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 245 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 27.06% ลดลงเล็กน้อยจาก 30.71% ในปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 46 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.43% ลดลงจาก 12% ในปีก่อนหน้า สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,791 ล้านบาท ลดลงประมาณ 200 ล้านบาท หนี้สินรวมอยู่ที่ 1,508 ล้านบาท ลดลงจาก 1,779 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1,282.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

   บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นธุรกิจสีเขียว (Green Business) โดยมุ่งเน้นการลดคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Neutralization) และ Zero Carbon Footprint ภายในปี 2565 สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐและแนวโน้มของธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา ซึ่งเริ่มเห็นผลสำเร็จบ้างแล้ว

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

   ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ เช่น ทองแดงและเหล็กซิลิกอน ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตา บริษัทฯ จึงใช้ระบบ Cost Sheet ในการบริหารต้นทุนอย่างใกล้ชิด และพยายามรักษาสมดุลระหว่างการจัดซื้อจากผู้ผลิตในจีนและนอกจีน เพื่อควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

   บริษัทฯ มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในองค์กร ปรับปรุงวิธีการจัดซื้อ และกระจายการรับรู้รายได้ให้ใกล้เคียงกันในแต่ละไตรมาส นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะช่างฝีมือ เพื่อให้สามารถปรับตัวได้เร็วตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

   บริษัทฯ คาดการณ์ว่าปี 2568 จะเป็นปีที่ธุรกิจทรงตัว แต่จะเริ่มขยายตัวในปี 2569 โดยมีเป้าหมายรายได้รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นรายได้จากหม้อแปลง 2,715 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง 285 ล้านบาท บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น หม้อแปลงสำหรับพลังงานทดแทนและ Smart Grid เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 45:24]
   1. ความกังวลและแผนรับมือใน 1-3 ปีข้างหน้า

      ความกังวลลดลงจากสถานการณ์โลกที่มีสัญญาณบวกมากขึ้น บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ

   2. ตัวเลข ROIC และ WACC
      • ROIC ปีที่แล้ว 9.93% ไตรมาส 1 อยู่ที่ 6.76%
      • WACC สิ้นปีที่แล้ว 6.46% ไตรมาส 1 อยู่ที่ 6.76%
      • WACC มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการมีสัดส่วน Equity สูงขึ้นและหนี้สินลดลง
   3. ความมั่นใจในการสร้างรายได้จากการส่งออก 540 ล้านบาท

      บริษัทมั่นใจ เนื่องจากปีนี้เน้นหม้อแปลงขนาดเล็ก ทำให้ backlog ไม่จำเป็นต้องสูงมาก และงานส่งออกจะเป็นหม้อแปลงขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

   4. แผนธุรกิจใหม่ในปีนี้และ 2-3 ปีข้างหน้า

      ปีนี้และปีหน้าเน้นผลิตภัณฑ์หลัก ลงทุนย่อยเพื่อขยายกำลังผลิตหม้อแปลงขนาดใหญ่ และจะเน้นอีกทีใน 2 ปีข้างหน้า

   5. แผนพัฒนาหม้อแปลงสำหรับพลังงานทดแทนและ Smart Grid

      เป็นทิศทางในอนาคตที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และเก่าควบคู่กันไป

   6. แนวโน้มการสนับสนุนเป้าหมายด้าน ESG

      สนับสนุนเป้าหมายด้านนี้อย่างชัดเจน หม้อแปลงเป็น Green Transformer มีการสูญเสียน้อยลง และ Zero Carbonization ใน 20-30 ปีข้างหน้า

   7. ภาพรวมอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าและระบบส่งจ่ายไฟฟ้าในปี 2568

      ปีนี้ทรงตัว ปีหน้าเริ่มขยายตัว นโยบายยังย่ำเท้าอยู่กับที่ และพระเอกของปีนี้คือหม้อแปลงขนาดเล็ก

   8. ผลกระทบต่อตลาด Solar Rooftop ตามบ้าน

      ใช้เวลาอีกนิด Solar Rooftop ไม่กระทบอุตสาหกรรมหม้อแปลงโดยตรง แต่อาจกระทบ Distribution System และต้องมี Product ใหม่ๆ รองรับ

   9. ผลกระทบจากหม้อแปลงจีน

      มีผลกระทบแน่นอน จีนมี Supply Chain ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผลิตได้ถูกกว่า แต่ Demand Supply ในโลก และนโยบายกีดกันทางการค้า ทำให้สหรัฐฯ ไม่ใช้หม้อแปลงจีน เป็นปัจจัยบวกต่อธีระไทย

โดยสรุปแล้ว TRT ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า พร้อมทั้งปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร การบริหารต้นทุน และการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต