บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
EGCO เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ลงทุน 3 หมื่นล้านบาท เน้นพลังงานสะอาด สร้างการเติบโตยั่งยืน
P/E 12.07 YIELD 5.70 ราคา 114.00 (0.00%)
EGCO เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ลงทุน 3 หมื่นล้านบาท เน้นพลังงานสะอาด สร้างการเติบโตยั่งยืน
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**EGCO Group มีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 2,154 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (Year-on-Year) แต่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% สาเหตุหลักที่กำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่น้อยลง เช่น โรงไฟฟ้าขนอม, KOPL และ SBPL รวมถึงกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,916 ล้านบาท หรือ 115% สาเหตุหลักมาจากการรับรู้กำไรจากการ divest โรงไฟฟ้า เช่น การขายเงินลงทุนของไรเซก และ โบโค ร็อก วินด์ฟาร์ม
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**บริษัทมองเห็นโอกาสในการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ เช่น Great kristy storage project ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกำลังผลิตแบตเตอรี่ 100 เมกะวัตต์ และได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 โครงการนี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในรัฐเท็กซัส นอกจากนี้ KPL สามารถต่อสัญญากับกลุ่มของ Retail Electricity Supply (RES) ได้อีก 15 ปี ซึ่งจะเริ่มสัญญาใหม่ในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใหม่ในสหรัฐอเมริกาผ่านโครงการ Apex Pinnacle 2 โดย EGCO เข้าไปถือหุ้น 49% ภายใต้ Pinnacle 2 มี 2 โครงการคือ ดาว Eastwind กำลังผลิต 126 เมกะวัตต์ และ วิสโบโร โซลาร์ 125 เมกะวัตต์
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**ความเสี่ยงหลักที่บริษัทเผชิญคือการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าที่เป็น Joint Venture บางแห่ง เช่น Linden ที่มีปัญหาสายส่งในนิวยอร์ก และ BLCP กับ น้ำเทิน 2 ในลาว ที่มีการปิดซ่อมตามแผนซึ่งปิดยาวนานกว่าปีที่แล้ว รวมถึงโรงไฟฟ้าพาจูที่เกาหลีที่มีปริมาณการขายไฟปกติ แต่ค่าไฟต่อหน่วยลดลง
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ เช่น โรงไฟฟ้าขนอมที่มีการปิดซ่อมสั้นลง และโรงไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ที่มีการปิดซ่อมลดลง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มทุนใน CDI ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายธุรกิจ
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**EGCO Group ยังคงมุ่งสู่ Net Zero Carbon ในปี 2050 โดยมีเป้าหมาย Carbon neutrality ในปี 2040 และมีสัดส่วน Renewables ใน EGCO อยู่ที่ 30% ในปี 2030 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจ Power Business ซึ่งมีสัดส่วนกำไร 87% และขยายธุรกิจไปทางธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำ
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 53.00]**- **ความกังวลและแผนรับมือใน 1-3 ปีข้างหน้า**
คำถาม: บริษัทมีความกังวลใดบ้างใน 1-3 ปีข้างหน้า และมีแผนรับมืออย่างไร?
คำตอบ: ในประเทศไทยไม่มีอะไรมากนัก ทำตามนโยบายภาครัฐ มีโอกาสลงทุนในพลังงานหมุนเวียน RE Big รอบ 2 ต่างประเทศนโยบาย Donald Trump อาจมีผลกับประเทศที่ส่งออกไปอเมริกา ข้อกังวลคือธุรกิจในการก่อสร้างอาจมีผลกระทบบ้าง แต่ในทางที่ดีคือต้องมี Foreign Direct Investor ซึ่ง EGCO ก็ลงทุนในอเมริกาอยู่แล้ว น่าจะเป็นข้อดีที่ทำให้มีโอกาสมากขึ้น
- **ความสำคัญสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ**
คำถาม: บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ?
คำตอบ: ตามยุทธศาสตร์ Triple P, P ตัวแรกคือ Performance กับ Profitability ต้องมีรายได้และกำไรที่ยั่งยืนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ถือหุ้น
- **ตัวเลข ROIC และ WACC**
คำถาม: สอบถามตัวเลข ROIC และ WACC อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์?
คำตอบ: ทุกธุรกิจต้องดูเพราะเป็นต้นทุนการดำเนินงาน จาก Bloomberg, WACC ของ EGCO อยู่ที่ประมาณ 5.7% แต่ ROIC ของ EGCO เองในภาพรวม เฉลี่ยประมาณ 10 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 5-11%
- **แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568**
คำถาม: แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2568 เป็นอย่างไรบ้าง?
คำตอบ: ความต้องการไฟฟ้าของอเมริกาค่อนข้างสูง จาก Data Center ที่เพิ่มขึ้น มีโครงการ Apex ที่ COD เข้ามาในระบบแล้วประมาณ 800 MW นอกจากนี้จะรับรู้รายได้จากที่ Acquire Compass และความสำเร็จของยุ่นหลิน ปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี ส่วนของ QPL ก็มีสัญญาตัวใหม่แล้ว ซึ่งน่าจะเริ่มสัญญาที่ Q4 ของปีนี้ นอกจากนี้ก็เป็นโครงการที่ Acquire เพิ่มเติม คือ Pinnacle 2 เดือนนี้ก็น่าจะเริ่มลงทุนจ่ายเงินออกไปได้
- **โครงการชดเชยโครงการที่ขายออกไป**
คำถาม: จะมี Project อะไรมาชดเชยโครงการที่ขายออกไปในเร็ว ๆ นี้?
คำตอบ: มี Divest โครงการออกไป 2 โครงการคือ ไรเซ็ก กับ โบโค ร็อก วินด์ฟาร์ม จะนำเงินที่ได้จากการขาย 2 โครงการนี้มาลงทุนใหม่ ก็คือได้ Acquire Pinnacle 2 Portfolio สำหรับโครงการดาว Eastwind และ วิสโบโร โซลาร์ 2 โครงการอยู่ที่ประมาณ 250 MW ที่ถือหุ้น 49% ซึ่งปิดดีลไปได้ประมาณ Q2 นี้ Q3 ส่วนของ COD อย่างที่เรียนก็คือ 8 โครงการที่ว่าเมื่อกี้ ก็คือ 800 เมกะวัตต์
- **เป้าหมายการเติบโตทั้งปี**
คำถาม: วางเป้าทั้งปีเติบโตไว้อย่างไร?
คำตอบ: เอาลูกปี 2568 ตั้งเป้าที่จะลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยเน้นที่ Renewables กับ Combined Cycle หรือแก๊ส ธุรกิจโรงไฟฟ้าแก๊ส
- **แผนขายโครงการโรงไฟฟ้าอื่นเพิ่มเติมในปีนี้**
คำถาม: มีแผนขายโครงการโรงไฟฟ้าอื่นเพิ่มเติมในปีนี้หรือไม่ เงินที่ได้จากการขายโครงการมีแผนนำไปใช้ทำอะไร?
คำตอบ: โครงการปีนี้ อย่างที่เรียนก็คือตามยุทธศาสตร์ของ EGCO ปี 2568-2570 เรามีทิศทางยุทธศาสตร์ในการที่จะทำในเรื่องของ Asset Recycling ในการบริหารสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเราก็มีการศึกษาอยู่นะคะ ว่าเราจะมีการไดเวสโครงการอะไรได้บ้าง ตอนนี้ก็รอความผลการศึกษา ซึ่งหลังจากที่เราทราบแล้วเราก็จะมีการไดเวสโครงการ และก็จะนำเงินที่ได้จากการขายโครงการเนี้ยไปลงทุนใหม่ที่มีผลตอบแทนที่ดี หรือยังไงพี่หน่อยจะให้ความเห็นเพิ่มเติมไหมคะในเรื่องของการแผนไดเวสเม้นต์
- **เพิ่มเติมแผนการ Dive**
คำถาม: แผนการ Dive
คำตอบ: ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนจนต้นปีนี้ นะละครับเราก็จะทำเป็นเหมือนกิจกรรมปกติหนึ่งของบริษัทอ่ะนะครับ ก็จะมีการทำ Ranking Asset ต่าง ๆ ใน Portfolio เรา แล้วเราก็จะหาทางไดเวส ตัวที่ Performance ต่ำ ๆ ออกไปหรือตัวที่มี Opportunity ที่ได้กำไร มากพิเศษนะครับ ก็ดังนั้นเนี่ยก็จะมีกิจกรรมตรงเนี้ยต่อเนื่องนะครับ ส่วนที่ Deal จะปิดทันปีนี้หรือปีหน้าเนี่ย ก็ก็อยู่ที่ฝั่งผู้ซื้อด้วยนะครับ เราก็มีมีการตั้ง KPI ไว้แบบคร่าว ๆ หลวม ๆ อ่ะครับ ก็จะมีเกิดต่อเนื่องนะครับ แล้วก็เงินที่ได้ก็จะไปลง ลงทุนในโครงการใหม่ที่มีผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นนะครับ เป็น Priority แรกแล้วก็ถัด จากนั้นก็อาจจะชำระเงินกู้ที่ต้นทุนสูงบางส่วนนะครับ แล้ว Priority ที่ 3 เนี่ยจะไปดูถึงตัวเงินปันผลครับ
- **โอกาสเงินปันผลปีนี้**
คำถาม: ปีนี้มีโอกาสจะได้เงินปันผลมากกว่าปีที่แล้วไหม?
คำตอบ:คือนโยบายเงินปันผลนะครับ ก็อยู่ที่ 40% ของของผลกำไรครับ ถ้ากำไรน้อยหรือเท่าเดิมก็อาจจะปันผลใกล้เคียงเดิมนะครับ ถ้ากำไรเพิ่มขึ้นเยอะมากเนี่ย มันก็มันก็เป็นไปตาม ตามนโยบายอยู่แล้วครับ ขอบคุณค่ะ
- **โครงการ LNG ที่อลาสก้า**
คำถาม: โครงการ LNG ที่อลาสก้า?
คำตอบ:ตอนนี้จริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่เราเข้าไปใน Early State มาก ๆ นะคะไปพร้อมกับกระทรวงนะคะ ที่ทางภาครัฐเองก็มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ไปลงทุนในอเมริกานะคะ ตามทารีฟ คลของ คุณ ทรัมป์ นะคะ แต่เข้าไปมันเป็น Early State เพราะฉะนั้นเราก็ไปแค่สำรวจเพิ่มเติมนะคะ ว่าเราจะมีโอกาสทางธุรกิจอะไรบ้าง ซึ่งที่เขาเสนอมาก็จะในเรื่องของในเรื่องซื้อขาย LNG นะคะ ซึ่งก็เป็นโอกาสเพราะว่า EGCO Group ของเรามี LNG Shipper License ซึ่งมาขายในประเทศไทยได้สำหรับโรงไฟฟ้าของเราเอง แล้วก็เรามีโครงการที่เดินเครื่อง ที่ใช้ National Gas อยู่ในฟิลิปปินส์ ในอนาคตนะคะ แล้วก็ใน เกาหลีใต้ ซึ่งตรงนี้ก็มั่งมาดูความเหมาะสมนะคะ ซึ่งโอกาสทางธุรกิจที่เราจะนำเข้าเอง นอกจากนี้แล้วใน ที่ อลาสก้าเมืองก็จะในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของท่อแก๊สอะไรพวกนี้ก็สามารถเป็นโอกาสซึ่งเราก็อยู่ระหว่างศึกษานะคะ อีกอันหนึ่งก็จะเป็นในเรื่องของ Exploration กับ Production ของ National Gas ในทะเลเหนืออันนี้ก็คงนอกเหนือจากความชำนาญของเราแล้วก็คงยังไม่ได้ดูนะคะ ก็ทั้งหมดก็อยู่ Early Stage อยู่ระหว่างศึกษาถ้ามีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวก็จะมาเรียนนักลงทุนให้ทราบในรายละเอียดต่อไปค่ะ
โดยสรุป, EGCO Group ยังคงเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ Triple P เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, การลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ, และการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon ในอนาคต