บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

MENA พลิกโฉมธุรกิจขนส่ง ปี 2568 รายได้โต 8% กำไรสุทธิพุ่ง 53%

MENA พลิกโฉมธุรกิจขนส่ง ปี 2568 รายได้โต 8% กำไรสุทธิพุ่ง 53%

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและท่านผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้ชมผู้ฟังทุกท่าน วันนี้เป็นโอกาสของบริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด มหาชน ที่จะมาพบกับนักลงทุนในวัน Opportunity Day นำเสนอผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2568

ขอแนะนำตัวดิฉัน สุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และขวามือดิฉัน คุณกอบชัย จิตรเชื้่อสกุลชน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน (CFO) ซ้ายมือ คุณพัชรีรัตน์ ขจรวุฒิเดช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Agenda ในวันนี้มี 4 หัวข้อ:

1. Key Highlight: สรุปภาพรวมธุรกิจที่ผ่านมา
2. Financial Performance: ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ซึ่งมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีสัญญาณบวกบางอย่าง
3. Business Outlook: แผนการขยายงานขนส่งต่างๆ และการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจ
4. Q&A: ช่วงถาม-ตอบ

บริษัท มีนาทรานสปอร์ต ให้บริการรถขนส่งด้วยคอนกรีตผสมเสร็จ มีรถจำนวนมาก กว่า 500 คัน เป็นเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นปูนซีเมนต์ชั้นนำในประเทศ เช่น ปูนนครหลวง, ตรานก, ปูนเอเชีย, เอเซีย ตราบัว และ CPAC นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ให้บริการในเรื่องของอาหารสัตว์และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีนาได้เริ่มขยายการลงทุนในขนส่งนอกภาคอุตสาหกรรมไปสู่เรื่องของภาค สินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น โดยร่วมทุนกับบริษัท ตะวันแดน โลจิสติกส์ ในเครือของคาราบาว และเป็นผู้ขนส่งให้สาขาของร้านสะดวกซื้อ CJ ในเครือของคาราบาว

ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งมั่นสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโต และนำจุดแข็งในเรื่องการให้บริการขนส่งที่ชำนาญต่อยอดในอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีอยู่

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

อ้างอิงสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 การลงทุนของภาครัฐยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน ภาคการบริโภคภาครัฐบวกขึ้นถึง 3.4% ในขณะที่ภาคเอกชนอาจจะบวกแค่ 2.6% ส่วนเรื่องการลงทุนภาครัฐมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 26.3% ในขณะที่เอกชนยังติดลบอยู่ที่ 0.9%

การคาดการณ์ GDP ในปี 2568 มีแนวโน้มที่ยังสูงขึ้นถึง 2.3% ซึ่งก่อนหน้านี้ประเมินไว้ที่ 3.3% การลงทุนของภาครัฐยังมีการปรับตัวขึ้นเมื่อต้นปี จะมีผลดีต่อธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจการขนส่งคอนกรีตของบริษัท

สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2568 รายได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 เมื่อปี 2567 สูงขึ้นถึง 8% มีรายได้ 212 ล้านบาท ในขณะที่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 13% อยู่ที่ 32 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากการกำไรขั้นต้นของมิกเซอร์ที่เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท และในระหว่างไตรมาสที่ 1 มีรถมิกเซอร์ที่คิดค่าเสื่อมราคาหมดไปจำนวน 24 คัน

กำไรสุทธิเติบโตขึ้นถึง 53% มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากกำไรสุทธิของมีนาเองที่เพิ่มขึ้น 4.2 ล้านบาท ตาม GP ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีขาดทุนจากการขายยานพาหนะขนส่ง 2.3 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ไม่มีการขาดทุนดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งกำไรจาก TDM ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1.5 ล้านบาท

รายได้ทั้งปี 211 ล้านบาท มาจากรายได้ในส่วนของมิกเซอร์ 141 ล้านบาท, รายได้ในส่วนเทรลเลอร์ 60 ล้านบาท และเรื่องของการขายคอนกรีตอีกประมาณ 9.6 ล้านบาท มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปีที่แล้ว GP มี 32.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% และมีรายได้อื่น ๆ อีก 2.4 ล้านบาท และมีกำไรจาก TDM อีก 6.2 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 53% มีกำไรสุทธิ 16.5 ล้านบาท

แนวโน้มอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์และอัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นมีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 สาเหตุมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก TDM ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% โดยจะทำรายได้รวมแบบ Organic ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 83% ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้คาดการณ์ตรงนี้เพิ่มขึ้นมาจากการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณรัฐที่เข้ามาในภาคปกติแล้ว และเรื่องการใช้จ่ายภาคเอกชน รวมถึงการขยายงานในส่วนของ TDM ที่ทางด้านลูกค้า CJ Express หรือ CJ จะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น และรวมถึงการเพิ่ม Own Fleet ในส่วนของ TDM ซึ่งจะสามารถทำให้เกิดกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจาก Own Fleet มีอัตรากำไรที่สูงกว่าการจ้าง Sub Contact

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 รถทั้งหมด 707 ยูนิต (รวมหาง 822) แยกเป็น รถ Mixer ใหญ่ 10 ล้อ 451 ยูนิต, 6 ล้อ 148 ยูนิต, เทรลเลอร์หัวลาก 66 ยูนิต, หางก้างปลา/หางดั้ม 102 ยูนิต, หางพ่วงบรรทุกอาหารสัตว์ 26 ยูนิต และตู้เย็น Cold Chain อีก 16 ยูนิต

ปีนี้ มีนาได้ขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะมุ่งสู่เป้าหมายเรื่องของการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทจะมีการตั้งเป้าในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อลดเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มีความเสถียรภาพมากขึ้น

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

สำหรับแผนการลงทุนรถใหม่ในปีนี้ มีแผนการลงทุนรถใหม่ในกลุ่มเทรลเลอร์และฟูลเทรลเลอร์อย่างละ 10 คัน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเสนองาน รถเทรลเลอร์มีการเพิ่มรถแล้ว 2 คัน และกำลังจะทยอยครบ 10 คันภายในเดือนกรกฎาคม ส่วนฟูลเทรลเลอร์อยู่ในระหว่างรอสัญญาลูกค้า นอกจากนี้ จะมีการ Modify รถ 2 โครงการ คือ NGV to Diesel และ Chill to Frozen ซึ่ง NGV to Diesel เป็นโครงการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 15 คัน จากทั้งหมด 22 คัน ส่วน Chill to Frozen อยู่ระหว่างดำเนินการสัญญากับลูกค้า

ภาพรวมของกองยานที่ทางมีนาและ TDM บริหารดูแลทั้งหมด รถที่เป็นของมีนามีทั้งหมด 712 ยูนิต คือ Mixer 599 คัน, Semi Trailer (หัวลาก) 68 ยูนิต, 10 ล้อ Cold Chain 16 ยูนิต, Full Trailer 26 ยูนิต และหางอีก 102 ยูนิต ในส่วนของ TDM รถ 10 ล้อมี 178 ยูนิต, 6 ล้อ 77 ยูนิต, 4 ล้อห้องเย็น/จัมโบ้ 16 และ 78 ยูนิต ตามลำดับ รถหัวลาก 26 ยูนิต และ Full Trailer 2 ยูนิต รวมถึง Sub Contact ที่ร่วมวิ่งงาน 600 ยูนิต รวมแล้ว 377 ยูนิต ถ้ารวมกับทางมีนาแล้วจะบริหารจัดการรถบรรทุกอยู่ประมาณ 1,600 คัน ซึ่ง TDM มีแผนการลงทุนเพิ่มรถและดำเนินการส่งมอบรถตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามแผน

ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ มีทิศทางที่คิดว่าน่าจะดีกว่าช่วงปี 2566 และ 2567 เพราะมีข่าวดีในเรื่องของเม็ดเงินที่จะถูกผลักมาใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และน่าจะทำให้เกิดการจ้างงานและการแข่งขันเชิงโครงสร้างที่จำเป็น และจะขับเคลื่อนในภาคของการก่อสร้างด้วยโครงการต่างๆ ธุรกิจในกลุ่มของการก่อสร้าง ทางมีนามองว่าน่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายของภาครัฐ และจะมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ระหว่างที่งานภาครัฐเงียบ ๆ ไป กลุ่มนี้ก็ยังดำเนินการอยู่ โดยจะเน้นในส่วนของพื้นที่ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ในส่วนของ Commercial และ Residential อาจจะยังทรงตัวหรืออาจจะเป็นเรื่องของการ Renovate มากกว่า เพราะว่าโครงการใหม่ ๆ ก็มีขึ้นบ้าง แต่ว่าอาจจะไม่ได้เยอะมาก รวมถึง Stock บ้านเก่าที่มีการสร้างไว้ก็ยังปล่อยไม่หมด การสร้างใหม่อาจจะเป็นไปอย่างละมุนละม่อม ยกเว้นงาน โครงการที่มีการเริ่มแล้วก็จะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนโครงการใหม่ ๆ คิดว่าน่าจะมีการชะลอ ภาคก่อสร้างจะโฟกัสที่งานภาครัฐและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/กลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ในส่วนของ Consumer ไม่ว่าจะเป็นรถ ไซค์เคอร์เทน ตู้เย็น หรือรถอาหารสัตว์ ที่สามารถขนสินค้าได้หลากหลายตลอดทั้งปี ทางมีนายังมองว่ามี Growth ที่เป็น Organic Growth ได้อยู่ ด้วยความที่มีการขยายกองยาน มีการขยายการให้บริการลูกค้าในส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้มีโอกาสเสนองานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้ก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถทำยอดขายได้ตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของการขาย Ready Mix คอนกรีต หรือโครงการ New Project ต่างๆ ที่เป็นงาน Consumer ปัจจุบันก็มีการดำเนินการตามแผนงาน ในกลุ่มขาย Ready Mix อาจจะค่อนข้างมีปัจจัยผันแปรเกี่ยวกับเรื่องตัวราคาซีเมนต์ที่มีการขึ้นราคา ทำให้ตัว Ready Mix อาจจะมีการปรับราคาขึ้น ต้องขอดูตลาดอีกสักพักว่าจะสามารถยอมรับราคาใหม่เมื่อมีการปรับขึ้นทั้งอุตสาหกรรมได้อย่างไรบ้าง ส่วนงาน Consumer และ M&A ยังมีการดำเนินการอยู่ ความคืบหน้าจะรายงานในครั้งหน้า

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความกังวลในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าคือ สภาพเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ต้องระมัดระวังในการลงทุนต่างๆ พยายามหาแผนป้องกันต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องของระบบบริหารจัดการภายใน ระบบต่างๆ ที่ต้องมาดูแลใส่ใจตรงนี้เพื่อรองรับกับสภาพงานต่างๆ

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ถ้ามีการป้องกันหรือเตรียมการเอาไว้ ปัญหาต่างๆ ที่มากระทบ คิดว่าทางมีนาน่าจะมีวิธีการที่จะจัดการต่างๆ ตรงนี้ได้ดี

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า การดูแลคนขับให้มีส่วนร่วมในการเติบโตของบริษัท การรักษาคนขับที่ดีเอาไว้ การบริหารจัดการ และการพัฒนาระบบ ซึ่งงานขนส่งอาจจะเป็นงานที่มีขั้นตอน หรือการบริการลูกค้าแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน ต้องมีการวางระบบตรงนี้ให้ปลอดภัย

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 48:40

บริษัทมีความกังวลใดบ้างในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าและมีแผนรับมืออย่างไร?

สิ่งที่กังวลคือสภาพเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ต้องระมัดระวังในการลงทุนต่างๆ พยายามหาแผนป้องกันต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องของระบบบริหารจัดการภายใน ระบบต่างๆ ที่ต้องมาดูแลใส่ใจตรงนี้เพื่อรองรับกับสภาพงานต่างๆ ถ้ามีการป้องกันหรือเตรียมการเอาไว้ ปัญหาต่างๆ ที่มากระทบ คิดว่าทางมีนาน่าจะมีวิธีการที่จะจัดการต่างๆ ตรงนี้ได้ดี

บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ?

การบริการลูกค้า การดูแลคนขับให้มีส่วนร่วมในการเติบโตของบริษัท การรักษาคนขับที่ดีเอาไว้ การบริหารจัดการ และการพัฒนาระบบ ซึ่งงานขนส่งอาจจะเป็นงานที่มีขั้นตอน หรือการบริการลูกค้าแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน ต้องมีการวางระบบตรงนี้ให้ปลอดภัย

สอบถามตัวเลข ROIC และ WACC อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์?

ROIC อยู่ที่ประมาณ 5-6% โดยที่ WACC ของทางมีนาอยู่ที่ประมาณ 8% ซึ่งก็ยังใกล้เคียงกันอยู่ ก็ยังมี Room ให้เราในการพัฒนาขึ้นอยู่ ถ้า Achieve ตัว Budget จะเข้าใจว่าตัวของ ROIC ตรงนี้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ไตรมาส 1 ปี 2568 ภาพรวมก่อสร้างเติบโต 16.2% เหตุใดมีนารายได้เติบโตน้อยกว่า?

การเติบโตของการก่อสร้างน่าจะอ้างอิงมาจากสไลด์แรกๆ ที่เป็นเรื่องของสภาพัฒน์ การก่อสร้างเติบโต 16.2% แต่เนื่องจากการก่อสร้างเป็นการก่อสร้างหลายประเภท ในส่วนของมีนาถ้าจะดูว่าเติบโตเทียบกับอุตสาหกรรมแล้วเป็นอย่างไร แนะนำให้ดูในส่วนของปริมาณการใช้คอนกรีตในของทั้งประเทศ ซึ่งจะตอบโจทย์มากกว่า อย่างที่ผมนำเรียนไปเมื่อสักครู่ว่าของทั้งประเทศถ้าเทียบ Q4 มา Q1 ลดลงประมาณสัก 1-2% แต่ในขณะที่มีนาเราการให้บริการขนส่งก็ยังเท่าเดิมอยู่จึงทำให้ตัว Market Share มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ไตรมาส 2 มีซ่อม Break Down หรือไม่?

มีค่ะ Break Down เป็นการซ่อมที่เหมือนกับว่าอาจจะรถเสียพังกระทันหัน หรืออะไรแบบนี้ ยังมีอยู่บ้าง

ฝนมาเร็วกว่าปกติจะกระทบกับเรามากน้อยขนาดไหน?

จะทำให้ปริมาณงานในวันที่ฝนตกหนักไม่สามารถเทได้ และจะถูกเลื่อนออกไป แต่สุดท้ายแล้วถ้ามีการทำแบบแล้วยังไงก็จะต้องมีการเท ก็เป็นการแค่เลื่อนออกไป

ขอทราบแผนการเพิ่มรถของแต่ละไตรมาสในปีนี้?

แผนเพิ่มรถปีนี้อาจจะมีอยู่ประมาณ 20 คันโดยประมาณ อาจจะไม่ใช่จังหวะที่จะลงทุนรถเยอะเท่าไหร่ แต่เป็นจังหวะเรื่องของการเอารถที่เราลงทุนไปแล้วมายูทิไลท์เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด

รถที่หมดค่าเสื่อม 24 คัน จะทำให้กำไรเราเพิ่มขึ้นไตรมาสละเท่าไหร่?

รถที่จะหมดค่าเสื่อมในปีนี้ทั้งหมดมีแค่ 24 คัน ซึ่งหมดไปแล้วในช่วงประมาณเดือนมีนาคม ใน 24 คันนี้ก็จะทำให้ค่าเสื่อมลดลงประมาณ 500,000 บาท 500,000 นี้คือต่อเดือน ถ้าเทียบกับไตรมาสที่อย่างเทียบไตรมาสที่ 1 ค่าเสื่อมปีก่อนกับค่าเสื่อมปีนี้ก็ค่าเสื่อมประมาณลดลงประมาณ 1.5 ล้านบาท

จะมีโอกาสซื้อหุ้นคืนหรือไม่?

เรื่องการซื้อหุ้นคืนยังไม่ได้มีการพูดคุยครับ ในอนาคตถ้ามีก็จะนำมาอัพเดทต่อไป

มีนาเองมีขนส่งให้ CJ บ้างหรือไม่ ถ้าไม่เกี่ยวกับบริษัทร่วม TDM?

โดยภาพแล้ว TDM จะเป็นเมนหลัก ทางมีนายังมีการเอารถไปวิ่งร่วมในบางประเภทที่เรามี แต่ก็วิ่งผ่าน TDM

ไตรมาสนี้มีค่าใช้จ่ายพิเศษอะไรไหม?

ไม่มีค่ะ

GPM Mixer ลดลงจาก Q4 พอสมควรทั้งที่รายได้ใกล้เคียง ไม่ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรที่บันทึกเข้ามาเป็นพิเศษ?

GPM ลดลงจากไตรมาส 4 มี 2 ปัจจัย ปัจจัยแรกคือเรื่องของรายได้ที่มีการปรับตัวลดลงประมาณ 1 ล้านบาทของ Mixer กับปัจจัยที่ 2 คือในเรื่องของค่าซ่อม เพราะว่าค่าซ่อมปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ว่าค่าซ่อมจะไม่ใช่เป็นเชิง Break Down จะเป็นในเรื่องของการ Rebranding ตัวรถ เพื่อให้มีเค้าเรียกว่า มีชัชลักษณ์แล้วก็มีสภาพที่ดูดี

ต้นทุนในการซื้อรถเราถูกลงบ้างไหม จากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีรวมถึงต้นทุนทางการเงินลดลงจากดอกเบี้ยเงินกู้?

ด้วยความที่ภาพรวมในปีที่แล้วเปลี่ยนโฉมจาก Euro 3 เป็น Euro 5 ซึ่ง Euro 5 จะมีเรื่องของต้นทุนรถที่ซื้อแพงขึ้น แต่ต้องบอกว่า ณ ปัจจุบันบริษัทก็ยังไม่ได้มีนโยบายในการซื้อรถที่เป็น Euro 5 ยังซื้อเป็น Euro 3 เท่าที่มี Stock อยู่ ดังนั้นถ้าถามว่าต้นทุนถูกลงบ้างไหม อาจจะตอบว่าต้นทุนตัวราคารถเนี่ยน่าจะไม่ได้ถูกลง สำหรับต้นทุนทางการเงินแน่นอนว่าเรื่องดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง ถ้าเทียบกับรถที่เราออกไปก่อนหน้านี้ รถใหม่ที่กำลังจะออกเนี่ยก็ต้นทุนทางการเงินก็จะต่ำกว่า

ขาดสัดส่วนรายได้ Non คอนกรีต ปี 2568 มองไว้ที่กี่เปอร์เซ็นต์และเป้า 3 ปีข้างหน้าสัดส่วน FMCG จะเพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ของรายได้รวม?

เราอาจจะไม่ได้ปักหมุดว่าเราจะให้ Construction เป็น Non คอนกรีต เป็นเท่านี้ เราดูตามสภาพโอกาสและเวลา หลายปีที่ผ่านมามีการเพิ่มงานในส่วนของ FMCG ไปค่อนข้างเยอะ แต่จะเห็นว่าสัดส่วนไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะเพราะอะไร เพราะว่าฝั่งคอนกรีตเองก็มีการเติบโตมีการเพิ่มด้วยเหมือนกัน เราโฟกัสที่โอกาสทางธุรกิจเป็นสำคัญ โดยสัดส่วนก็เป็นเรื่องของตัวเลขที่เอามาเทียบเคียงดู คงไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มอันนี้โดยไม่เพิ่มอันนั้น ถ้าจุดไหนมีโอกาสมีความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เราก็เพิ่มในจุดนั้นทั้งหมด

แนวโน้มในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 มีทิศทางเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี และไตรมาสก่อนหรือไม่เนื่องมาจากปัจจัยอะไรบ้าง?

ไตรมาส 2 ปีนี้มองว่าทิศทางอาจจะดีกว่าปีก่อน เพราะว่างานของภาครัฐก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ว่ามีปัญหาในในเรื่องของงานในส่วนนี้

ค่าซ่อมรถปกติควรเป็นค่าใช้จ่ายประจำ หรือ เพราะเสื่อมสภาพตามการใช้งานทำไมถึงแปรค่าใช้จ่ายพิเศษ?

ค่าซ่อมรถปกติโอนเป็นค่าใช้จ่ายประจำ ยกเว้นปีที่แล้วที่มีเรื่องของรถอุบัติเหตุถึงจะมีค่าซ่อมที่เป็นก้อนโตเข้ามาเป็น One Time เข้ามา แต่ถ้าไม่มีเรื่องของอุบัติเหตุอะไรต่างๆ มันก็เป็นการซ่อมรถปกต

การที่ GP ของเทรลเลอร์ลดลงจาก Q4 มากเป็นเพราะอะไรมีค่าใช้จ่ายอะไรเป็นพิเศษไหม?

หลักๆ ก็จะมาจากรายได้ที่ลดลงกับค่าซ่อม ซึ่งค่าซ่อมเนี่ยก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อยไม่ได้ Significant หลักๆ ก็จะมาจากรายได้ที่ลดลงมาก มีงานบางอันที่มันชะงักไปรวมถึงเป็นช่วง Low Season หลังปีใหม่ด้วย แต่ว่าตอนนี้ปัญหาก็มีการแก้ไขหมดแล้ว ก็คิดว่าเดี๋ยวก็จะกลับมาเหมือนเดิม

การเทคอนกรีตในช่วงที่ต้องชะลอการเทเพราะฝนตกพอฝนเริ่มหยุดตกแล้วจะกลับมาเทต่อใช่ไหมไม่ได้ว่ายกเลิกไป?

ถูกต้องค่ะ

มองภาพในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังไงบ้าง มีโครงการไหนที่น่าสนใจแล้วเราจะได้เข้าไปทำบ้างครับ?

ขอเก็บไว้ก่อนได้ไหมคะ ถ้าเกิดก่อนเดี๋ยวเอามาบอกนะคะ

จากการที่รถตัดค่าเสื่อมหมดไปในไตรมาส 1 คิดว่าโดยรวมแล้วไตรมาส 2 ค่าเสื่อมจะน้อยกว่าไตรมาส 1 กี่ล้านคะ?

ถ้าเรามองในภาพของเมื่อกี้ที่ผมบอกว่าค่าเสื่อมน่าจะเริ่มหมดเดือนมีนาคม อย่างน้อยคือ 2 เดือน 2 เดือนก็ประมาณสัก 1 ล้านบาท แต่ว่าอยู่บนพื้นฐานว่าเราอาจจะไม่ได้มองเรื่องการออกรถใหม่ แต่ว่าที่ผ่านมาอย่าง 2 เดือน 5 5 เดือนแรกเราก็มีการออกรถมาเพิ่มแล้ว

งานเทคอนกรีตในภาคอุตสาหกรรมถ้าไปโรงงานจีนได้เทด้วยไหม หรือว่าใช้บริษัทจีนด้วยกัน?

ได้เทอยู่ค่ะ

ทำไมรายได้ Q1 TDM พลาดเป้าแล้ว Q2 มีแนวโน้มกลับมาตามเป้าไหม?

มีค่ะ ก็ที่พลาดเป้าอย่างที่แจ้งไปว่าเป็นเรื่องของ Low Season หลัง หลัง หลังปีใหม่ด้วย แล้วก็อาจจะมีการปรับภายในอะไรกันต่างๆ นะคะ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาเรียกว่าผิด ผิดปกตินิสัยค่ะ เดี๋ยวงานก็กลับมา เอ่อจริงๆ งานกลับมาแล้วค่ะ

ฝนตกที่มาเร็วในปีนี้จะกระทบผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 หรือไม่?

ก็อาจจะกระทบในเชิงของการเลื่อนนะคะ แต่ก็แค่ว่าจะไปเทลงตรงวันไหน แล้วก็จะได้ไปที่ผู้ว่าจ้างรายไหน

ปกติหลังน้ำท่วมบริษัทจะมีงานมากขึ้นเป็นพิเศษจากช่วงปกติไหมครับ?

ถ้าดูจากงบของเรานะ พีค พีคสุดน่าจะเป็น Q4 Q4 จะเป็นช่วงที่เริ่มเก็บงาน เริ่ม Stock งานอะไรต่างๆ ก่อนที่จะสิ้นปี ก็จะเป็นช่วงพีคที่สุด

คำว่า Renovate ของ Residential หมายถึงยังไง ก็ไปมีส่วนได้งานไหม?

Renovate ก็คือเหมือนซ่อมแซมปรับปรุงเทพื้น หรือบางคนอาจจะเป็นการซื้อบ้านแล้วก็มาตกแต่งหลังบ้าน เท เทพื้นลานซักล้าง หรืออะไรแบบนี้ลานจอดเพิ่มเติม อาจจะไม่ใช่งานโครงสร้างรากฐานที่เทฟุตติ้งเทฐานรากหรืออะไร แต่เป็นงานเทบนผิ

ก็อาจจะมีเข้าไปมีส่วนได้บ้าง แต่ว่า Renovate อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของการตกแต่งซ่อมแซม ซึ่งส่วนนี้ก็อาจจะมีส่วนได้ค่ะ ที่จะได้เข้าไปแจม

สรุปได้ว่า MENA มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างน่าสนใจในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการปรับตัวและขยายธุรกิจไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากการก่อสร้าง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งจะต้องมีการวางแผนและปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาการเติบโตในระยะยาว

[จบการสรุป]