บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

SKY โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 สุดปัง! กวาดรายได้รวม 2,384 ล้านบาท โตกระฉูด 72.4% กำไรสุทธิ 205 ล้านบาท พุ่งขึ้น 86.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากการเติบโตของธุรกิจ SI, บริการความปลอดภัย, บริหารอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ และการฟื้นตัวของท่องเที่ยว

ผลประกอบการสุดฮอต

SKY เผยผลประกอบการไตรมาส 1/68 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการดำเนินโครงการใหม่ในกลุ่มธุรกิจ SI ที่สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ, การขยายตัวของธุรกิจบริการดูแลความปลอดภัยและการบริหารอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ของ PIS ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังช่วยปลดล็อกมูลค่าและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการพอร์ตธุรกิจ

รายได้จากการจำหน่ายและวางระบบแบบเบ็ดเสร็จ (SI) พุ่งขึ้นถึง 513.6% คิดเป็นมูลค่า 675 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 35.2% เป็น 1,704 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงจาก 22.8% เป็น 16.6% เนื่องจากต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 86.2% เป็น 1,983 ล้านบาท

ข้อสังเกตและพัฒนาการที่น่าสนใจ

การ Spin-Off PIS เข้าตลาด mai ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระทางการเงินของบริษัทแม่ และเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ นอกจากนี้ SKY ยังเตรียมซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก Enoch โดยจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระเป็นค่าตอบแทน

แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังเผชิญแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด แต่แนวโน้มความต้องการโซลูชันด้านความปลอดภัยดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในภาคธุรกิจและภาครัฐยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ Smart City และ ITS

สรุปและแนวโน้ม

SKY สามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/68 จากการขยายตัวของธุรกิจ SI และบริการที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังต้องบริหารจัดการต้นทุนและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดย SKY ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี, การจัดการทรัพยากร, การบริหารความเสี่ยง, การพัฒนาทักษะบุคลากร และการขยายธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง

สินทรัพย์รวมของ SKY ณ สิ้นไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 12,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากสิ้นปี 2567 ในขณะที่หนี้สินรวมลดลง 2.0% เป็น 6,807 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลงเหลือ 1.2 เท่า