บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

UBIS กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ดิ่งลง 83.3% เหลือ 3.7 ล้านบาท จาก 22.3 ล้านบาทในปีก่อนหน้า รายได้รวมลดลง 13.8% อยู่ที่ 192.1 ล้านบาท สาเหตุหลักจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์โลหะชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lacquer ในตลาดต่างประเทศ

ผลกระทบจากเศรษฐกิจและรายได้ที่เปลี่ยนแปลง

บริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดชะลอตัว โดยเฉพาะความต้องการผลิตภัณฑ์ Lacquer ในตลาดต่างประเทศที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ Compound ยังคงเติบโตได้ดีในตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ UBIS เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจบริหารสินทรัพย์เป็นครั้งแรก 0.9 ล้านบาท

รายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์โลหะลดลง 13.8% โดยเฉพาะ Lacquer ที่ลดลงถึง 25.6% ในขณะที่ Compound เพิ่มขึ้น 7.2% กำไรขั้นต้นลดลงจาก 66.6 ล้านบาท เหลือ 56.9 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงสูงที่ 29.6% ต้นทุนในการจัดจำหน่ายลดลง 17.2% ตามยอดขายและค่าขนส่งที่ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 13.1% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 71.1%

สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ในบางกลุ่มผลิตภัณฑ์และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะในประเทศจีน

สินทรัพย์และหนี้สิน

สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 7.6% เป็น 1,156.9 ล้านบาท หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 18.4% เป็น 505.9 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 651.0 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้น

การเพิ่มขึ้นของหนี้สินมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและการลงทุน

ข้อสังเกตุและแนวโน้ม

รายได้จากตลาดในประเทศลดลง 16.5% ตลาดต่างประเทศ (ไม่รวมจีน) ลดลง 8.9% และประเทศจีนลดลง 20.3% กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ 39.3 ล้านบาท เนื่องจากการซื้อเงินลงทุนในการให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ

บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศ การจัดการต้นทุน การพัฒนาสินค้าใหม่ และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ