บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

หยวนต้าชี้ BPP หุ้นฟื้นตัว! อุปสงค์ไฟฟ้าเท็กซัสโตกระฉูด หนุนกำไร
P/E 12.30 YIELD 8.51 ราคา 7.05 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: BPP มีโอกาสเข้าสู่รอบการฟื้นตัว
บบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า หุ้นของ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) มีโอกาสเข้าสู่รอบการฟื้นตัว โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของอุปสงค์ไฟฟ้าในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และมีเงินปันผลช่วยจำกัดความเสี่ยง (Downside) จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" จากเดิม "TRADING" พร้อมราคาเป้าหมาย 9.20 บาท
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในเท็กซัสเติบโตหนุนกำไร
หยวนต้าคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าในตลาด ERCOT (ตลาดขายไฟฟ้าหลักในรัฐเท็กซัส) จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 9.5% ระหว่างปี 2024-2030 โดยได้แรงหนุนหลักจากอุตสาหกรรม Data Center ที่เติบโตตามกระแส AI และการลงทุนโครงการ Stargate นอกจากนี้ การที่กำลังผลิตไฟฟ้าเติบโตไม่ทันความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนกำไรของโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติของ BPP
หากอิงข้อมูลจาก ERCOT พบว่าในปี 2026 มีโอกาสที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อน (ช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดของปีในรัฐเท็กซัส) จะสูงกว่ากาลังผลิตไฟฟ้าของระบบราว 6% ทำให้ค่าไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น (ERCOT ระบุว่า ราคาค่าไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปเป็น US$60/MWh จาก US$32/MWh ในปี 2024) โดยจากการประเมินเบื้องต้นคาดหากค่าไฟฟ้าปรับขึ้นไปอยู่ในระดับดังกล่าวจริงจะส่งผลให้กำไรของโรงไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นได้ราว 15-30% (บริษัทฯ มีการทำสัญญาซื้อขายไฟล่วงหน้า ราว 50% และตลาด ERCOT ไม่มีการกำหนดราคาค่าความพร้อมจ่าย) (ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ)
แนวโน้มกำไร Q1/25 ฟื้นตัว - เงินปันผลช่วยจำกัด Downside
หยวนต้าคาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ระดับ 600-700 ล้านบาท กลับมาเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และปีก่อนหน้า (YoY) จากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้า CHP ในจีน และจำนวนวันการปิดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ และโรงไฟฟ้าหงสาที่ลดลง นอกจากนี้ หุ้น BPP ยังมีเงินปันผลในระดับ 0.60 บาท/หุ้น/ปี (Dividend Yield 8.2%) ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลง
คำแนะนำการลงทุน
หยวนต้าปรับคำแนะนำจาก "TRADING" ขึ้นเป็น "ซื้อ" สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยให้ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และมีโอกาสฟื้นตัวได้จากการได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม Data Center ในสหรัฐฯ และมีเงินปันผลช่วยจำกัดความเสี่ยง