HMPRO ยังมี Upside! PST เคาะราคาพื้นฐาน 9.15 บาท แนะ "ซื้อ"

P/E 13.53 YIELD 6.81 ราคา 6.40 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: PST มอง HMPRO ยังมีโอกาสเติบโต

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) หรือ PST ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น HMPRO โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 9.15 บาท มองว่ายังมี upside จากราคาปิดล่าสุดที่ 7.90 บาท แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของ HMPRO จะช่วยรักษาส่วนแบ่งการตลาดและพลิกฟื้นอย่างมีนัยสำคัญหากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว

รายละเอียดการวิเคราะห์: แผนการขยายสาขาและการเติบโต

PST คาดการณ์ว่า HMPRO จะยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 มีแผนขยายสาขารวม 12 สาขา แบ่งเป็น HomePro 7 สาขา และ MegaHome 5 สาขา แม้ว่า Same Store Sales Growth (SSSG) ในปี 2567 จะติดลบ แต่การขยายสาขาจะช่วยเพิ่มยอดขายรวมของบริษัทได้ นอกจากนี้ PST มองว่าหากเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว การเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิมจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งการฟื้นตัวของยอดขายโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยที่ต้องพิจารณา: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและต้นทุน

PST ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และราคาสินค้าเฟอร์นิเจอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจทำให้ต้นทุนการผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม PST มองว่า HMPRO มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้

วิธีประเมินมูลค่า: DCF (DDM)

PST ใช้วิธี DCF-Dividend Discount Model (DDM) ในการประเมินราคาพื้นฐานของ HMPRO โดยกำหนดค่า Beta ที่ 1.62 สำหรับปี 2568-2571 และใช้ Adjusted Beta ที่ 1.41 ในปี 2572 เป็นต้นไป โดยมี WACC ที่ 8.8% สำหรับปี 2568-2571 และ 8.2% สำหรับปี 2572 เป็นต้นไป และมี Sustainable growth rate ที่ 3.2% PST มองว่ายอดขายปี 2568 จะยังอ่อนตัวจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค อย่างไรก็ดี บริษัทมีการจ่ายปันผลในอัตราที่สูง จึงปรับราคาพื้นฐานลงจาก 9.85 บาท เป็น 9.15 บาท แต่ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากยังมี upside

ESG Rating: HMPRO ได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืน

HMPRO ได้รับการจัดอันดับ SET ESG Rating ที่ระดับ AA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2566 อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับ ESG Risk Rating อยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกเป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ในกลุ่ม Emerging Market ต่อเนื่องเป็นปีที่เจ็ดในปี 2566 และอยู่ในดัชนี FTSE4Good ที่จัดทำโดย FTSE Russell รวมถึงได้รับการจัดอันดับเป็น “AA” จาก MSCI ESG Rating และได้อันดับด้านธรรมาภิบาลที่ระดับ “Excellence: 5 stars” จาก Thai Institute of Directors Association (IOD)

โพสต์ล่าสุด