ถอดรหัสความสำเร็จ TIDLOR! สรุป Oppday ปี 2567 เจาะลึกทุกประเด็นสำคัญ

P/E 10.05 YIELD 3.00 ราคา 14.60 (-4.58%)

ถอดรหัสความสำเร็จ TIDLOR! สรุป Oppday ปี 2567 เจาะลึกทุกประเด็นสำคัญ

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับนักลงทุนทุกท่านเข้าสู่งาน Oppday ของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) สำหรับผลประกอบการปี 2567 นะคะ โดยผู้ที่จะเข้าร่วมให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามในวันนี้ได้แก่ คุณวรุตม์ นามสิริพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และดิฉัน นางสาวบุญสิชา เสียงโชคอยู่ นักลงทุนสัมพันธ์ค่ะ โดยวันนี้สำหรับการนำเสนอในวันนี้ จะมีด้วยกัน 3 หัวข้อด้วยกันนะคะ หัวข้อแรกค่ะ จะเป็นในส่วนของผลการดำเนินงานสำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา หัวข้อที่ 2 จะเป็นในเรื่องของการรวบรวมผลประกอบการของปี 2567 ค่ะ แล้วก็หัวข้อที่ 3 ค่ะ จะเป็นการอัปเดตการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการค่ะ และก็หลังจากจบการเสนอ ก็จะเข้าสู่ช่วงถามตอบตามปกติค่ะ ขอเริ่มต้นการแถลงผลประกอบการประจำปี 2567 ค่ะ

ในส่วนแรกค่ะ อยากพูดถึงในส่วนของธุรกิจของเงินติดล้อก่อนนะคะว่า เงินติดล้อเองอ่ะค่ะเราก็มีธุรกิจหลักค่ะ แบ่งเป็น 2 ธุรกิจด้วยกันนะคะ ธุรกิจแรกค่ะ ก็จะเป็นธุรกิจสินเชื่อค่ะ พอร์ตสินเชื่อหลักของเราอ่ะค่ะ ก็ยังคงเป็นสินเชื่อที่มีประกันนะคะ ก็คือสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันค่ะ เราให้บริการทั้งสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถกระบะ และก็รถบรรทุกค่ะ แล้วก็ส่วนประเภทที่ 2 นะคะ ก็จะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อค่ะ ซึ่งพอร์ตหลักของเราอ่ะค่ะก็เช่นเดียวกันเลยว่ายังเป็นตัวของรถบรรทุกมือสองอยู่นะคะ แล้วก็รวมถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อโฉนดที่ดินด้วยที่เรามีการเปิดตัวมาประมาณปีกว่าๆ

อีกธุรกิจหลักนึงอ่ะค่ะ นอกจากธุรกิจสินเชื่อ ก็คือธุรกิจนายหน้าประกันค่ะ โดยธุรกิจนายหน้าประกันเนี่ยเราให้บริการทั้งในส่วนของประกันวินาศภัย อันเนี้ยค่ะก็จะมีภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ก็คือประกันติดโล่ค่ะ ตัวของ Arigator เอง แล้วก็ตัวของ Heygoody ค่ะ ที่เป็นเว็บไซต์ แล้วก็รวมถึงเราก็มีการให้บริการในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นประกันชีวิตด้วยนะคะ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาค่ะ บริษัทค่ะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องค่ะ โดยรายได้รวมเนี่ยมีประมาณ 22,200 ล้านบาทนะคะ เพิ่มขึ้น 17% ค่ะจากปีก่อนหน้า การเติบโตเนี่ยก็มาจากทั้งส่วนของดอกเบี้ยรับที่เกิดขึ้นจากธุรกิจสินเชื่อนะคะ แล้วก็เป็นรายได้ของค่าธรรมเนียมรับบริการค่ะ ซึ่งโดยหลักเนี่ยก็จะมาจากธุรกิจที่เป็นนายหน้าประกันของเราค่ะ แล้วเมื่อมาดูกราฟด้านขวาบนน่ะค่ะ จะเห็นว่าตัวของอัตราดอกเบี้ยสุทธิ หรือว่าที่เราเรียกว่า NIM อ่ะค่ะ สำหรับปีที่ผ่านมาค่ะ ก็มีการปรับตัวขึ้นนะคะ ประมาณ 50 Basic Point มาอยู่ที่ระดับประมาณ 15.84% นะคะ อันเนี้ยก็เป็นผลมาจากโดยหลักอ่ะค่ะ ก็จะมาจากการที่ดอกเบี้ยรับของเราหรือว่าตัว Yield อ่ะค่ะ มีการปรับตัวขึ้น อันนี้ก็สอดคล้องไปกับการที่เงินติดล้อเองอ่ะค่ะ เราใช้กลยุทธ์การปรับอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยความเสี่ยงค่ะ หรือว่าที่เราได้ยินในการในชื่อของ Risk Base Pricing อีกส่วนนึงก็มาจากการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนประเภทสินเชื่อด้วยค่ะ ทำให้ Yield ของเราอ่ะค่ะ มีการเพิ่มขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ Yield เนี้ย ก็สามารถ Cover การเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินหรือว่า Cost of Fund ได้ค่ะ ซึ่ง Cost of Fund ของเราอ่ะค่ะ ถ้าเห็นก็ยังเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มขึ้นนะคะ อันเนี้ยก็ถือว่าเป็นปกติ เป็นไปตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่ะ ที่ต้นทุนการเงินน่ะค่ะ ของการกู้ยืม รวมถึงการออกหุ้นกู้ด้วยอ่ะค่ะ ก็จะสูงกว่าหุ้นกู้ชุดเดิมค่ะ ที่ครบกำหนด ในส่วนของค่าใช้จ่ายค่ะ เรายังคงบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ ตัวอัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานน่ะค่ะ หรือว่า Cost to Income Ratio อ่ะค่ะ ปีที่ผ่านมาก็อยู่ที่ระดับประมาณ 55.9% นะคะ

การเติบโตของรายได้ การขยายตัวของตัว NIM ค่ะ แล้วก็การบริหารต้นทุนที่ดีอ่ะค่ะ อันเนี้ยก็ส่งผลให้บริษัทอ่ะค่ะ ยังคงความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนะคะ โดยในปี 2567 อ่ะค่ะ ก็สามารถทำกำไรสุทธิ New High ค่ะ ที่ 4,230 ล้านบาท หรือว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นเนี่ย 12% ค่ะจากปีก่อนหน้า มาในส่วนของผลประกอบการธุรกิจสินเชื่อนะคะ ธุรกิจสินเชื่อค่ะ ตัวของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นไตรมาส 4 ของเราอ่ะค่ะ ก็ปิดอยู่ที่ 139,900 ล้านบาทนะคะ มีการขยายตัวค่ะทั้งปีที่ 7% จากปีก่อนหน้า แล้วก็ถ้าดูแค่ไตรมาส 4 อ่ะค่ะ ก็จะขยายตัวประมาณ 1% นะคะจากไตรมาส 3 ซึ่งหากมอง มองแยกออกเป็นพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนน่ะค่ะ จะเห็นว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนของเราอ่ะค่ะ พอร์ตยังคงมีการขยายตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าถ้าดูในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้ออ่ะค่ะ ที่โดยหลักก็เป็นรถบรรทุกมือสองอ่ะค่ะ อันเนี้ยก็ยังมีการปรับตัวลดลงนะคะ ก็เป็นไปตามนโยบายการปล่อยสินเชื่อของบริษัทเราค่ะ แล้วก็เป็น รวมถึงการที่เรามีการปรับลดราคาประเมินน่ะค่ะ ให้เป็นไปตามราคาตลาด ก็ทำให้ Ticket Size หรือว่าวงเงินสินเชื่อที่เราปล่อยให้ลูกค้าอ่ะค่ะ มีการปรับตัวลดลงด้วยค่ะ อันนี้ก็เป็นไปตามทุก Product นะคะ ทุกผลิตภัณฑ์สินเชื่อของเรา

และก็หากมองอีกส่วนนึงค่ะไม่ใช่แค่ยอดคงค้างแล้วแต่ถ้าเราไปมองอีกส่วนคือในส่วนของฐานลูกค้าค่ะจะเห็นว่าจำนวนลูกค้าฐานลูกค้าของเราอ่ะค่ะในปี 2567 อ่ะค่ะ อันเนี้ยยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่นะคะ แล้วก็เป็นการขยายตัวที่สูงกว่าการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อด้วยค่ะ โดยการมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นน่ะค่ะ ประมาณ 11% จากปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกันค่ะ ด้านการบริหารจัดการประสิทธิภาพการดำเนินงานของสาขาค่ะ ก็ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีนะคะ โดยยอดสินเชื่อคงค้างต่อสาขาค่ะ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ ปีที่แล้วก็อยู่ที่ 58.5 ล้านบาทนะคะ ต่อสาขา เราอ่ะค่ะ ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา และก็ยกระดับผลิตภัณฑ์ และก็บริการอย่างต่อเนื่องค่ะ พร้อมนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ทั้งในช่องทางสาขากว่า 1,778 สาขานะคะ ซึ่งในปีที่ผ่านมาค่ะเราก็ได้มีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 100 สาขา นอก จากนี้ค่ะ นอกจากนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับช่องทางสาขาแล้วเนี่ยจริงๆ ในส่วนของช่องทางที่ไม่ใช่สาขา ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขายโทรศัพท์ แอปพลิเคชั่นเงินติดล้อ ตัวของ Agent หรือว่า Dealer เองอ่ะค่ะ อันเนี้ยเราก็มีการปรับใช้เทคโนโลยี แล้วก็การยกระดับผลิตภัณฑ์ แล้วก็บริการอย่างต่อเนื่องเช่นกันค่ะ ทั้งนี้ค่ะ ตัวของบัตรติดล้อเองอ่ะค่ะ แล้วก็การให้บริการโอนเงินสินเชื่อผ่านบัญชี เข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่นเงินติดล้อ หรือที่เราเรียกว่า e-withdraw อ่ะค่ะ ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญนะคะที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งปริมาณผู้ใช้งานของบัตรติดล้อเองอ่ะค่ะ ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ้นปีที่แล้วอ่ะค่ะเราก็ได้มีการส่งมอบบัตรติดล้อเนี่ย ให้แก่ลูกค้ากว่า 735,000 ใบนะคะ แล้วก็อีกส่วนนึงค่ะในส่วนของบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีลูกค้าอ่ะค่ะ 70% ของธุรกรรมการเบิกเงินน่ะค่ะ ก็ทำผ่านช่องทางนี้ค่ะ

นอกจากธุรกิจสินเชื่อแล้วอ่ะค่ะ อีกธุรกิจที่เรากล่าวเนี่ยว่ามี มีส่วนช่วยในการสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทอ่ะค่ะ ก็คือธุรกิจนายหน้าประกัน ธุรกิจนายหน้าประกันน่ะค่ะ ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แล้วก็แข็งแกร่งเช่นกันค่ะ โดยปีที่แล้วอ่ะค่ะ ก็เป็นปีแรกที่เบี้ยประกันวินาศภัยของเราอ่ะค่ะ แตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาทค่ะ แล้วก็ยังขยายตัวประมาณ 16% นะคะ ซึ่งการขยายตัวเนี้ยถือว่าเป็นการขยายตัวในระดับที่สูง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตลาดค่ะ ที่อาจจะเติบโตได้น้อยกว่า 1% น่ะค่ะ แล้วก็นอกจากนี้ค่ะเหมือนเช่นเดิมเลยว่าการขายกรมธรรม์ประกันวินาศภัยให้แก่ลูกค้าค่ะ 90% นะคะก็จะเป็นลูกค้าที่ไม่ใช่ลูกค้าสินเชื่อนะคะ ก็ถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มที่ตั้งใจเข้ามาติดต่อกับเราอ่ะค่ะ เพื่อทำการซื้อประกันภัย การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจประกันนะคะ ก็เป็นผลมาจากการที่เราอ่ะค่ะ มีความเข้าใจความต้องการของลูกค้า รวมถึงเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าด้วย เราก็เลยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เนี่ยแหละค่ะ เพื่อให้มันตอบสนองแล้วก็ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าให้มากที่สุดค่ะ โดยที่เรากล่าวไปค่ะว่าเราได้มีการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันน่ะค่ะ ผ่าน 3 แบรนด์หลัก แบรนด์แรกค่ะ ก็คือจะเป็นแบรนด์ประกันติดโล่ อันเนี้ยค่ะโดยหลักก็จะเป็นธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ Face to Face ค่ะ ผ่านพนักงานสาขาที่มีใบอนุญาตทุกคนนะคะกว่า 5,000 คนค่ะ แล้วก็พร้อมด้วยปีที่แล้วค่ะ เราก็มีการเปิดตัวบริการ Call Center เบอร์ 1501 นะคะ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รองรับความต้องการของลูกค้าประกันโดยเฉพาะค่ะ

จาก ช่องทางสาขาค่ะเราก็ได้มีการขยายช่องทางการให้บริการอ่ะค่ะไปในรูปแบบที่เราเรียกว่า intech แพลตฟอร์มนะคะโดยแบรนด์แรกค่ะก็จะเป็นแบรนด์ Arigator เป็นแบรนด์แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ค่ะผ่านสมาชิกตัวแทนนายหน้าประกันภัยค่ะ ตอนนี้ก็มีสมาชิกกว่า 10,000 รายแล้วนะคะก็ Arigator เนี่ยถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางค่ะที่มีการเติบโตค่ะ แข็งแกร่งแล้วก็รวมถึงมีการเติบโตที่เร็วกว่าช่องทางที่เป็นช่องทางสาขาของบริษัทนะคะ แล้วก็แบรนด์น้องใหม่ค่ะ ที่เพิ่งเปิดตัวครบ 1 ปีไปในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานะคะ ก็คือแบรนด์ Heygoody ค่ะ หรือว่า Heygoody.com นะคะ ก็เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลค่ะ ที่ลูกค้าน่ะสามารถเลือกซื้อประกันค่ะ ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ สำคัญคือไม่มีการโทรขายค่ะ นอก จากนี้ค่ะจริงๆ แบรนด์ Heygoody ตอนแรกที่เราเปิดเนี่ยก็จะมีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยอ่ะค่ะ ครบครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์แล้วก็ แต่ว่าที่เพิ่มเติมมาคือในช่วงสิ้นปีอ่ะค่ะ ของปี 2567 ตัว Heygoody เนี่ยเราได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตนะคะ โดยก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์ค่ะ แล้วก็ผลิตภัณฑ์ประกันบำนาญค่ะ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ท่านไหนสนใจเนี่ยก็สามารถเข้าไปชมที่เว็บไซต์ Heygoody.com หรือว่าสแกน QR Code ที่อยู่ด้านล่างได้ค่ะ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

ต่อไปจะเป็นในด้านของโครงสร้างเงินทุนนะคะ เดี๋ยวคุณวรุตม์จะมาให้ข้อมูลในส่วนนี้ต่อค่ะ ขอบคุณครับ ในส่วนของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและหุ้นกู้น่ะครับ เราก็พยายามคงสัดส่วนให้ใกล้เคียง 50:50 50:50 อยู่นะครับ สะท้อนถึงความสามารถในการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาเงินทุนนะครับ อีกทั้งยังคงระดับ debt to equity ratio เนี่ยในระดับที่ต่ำนะครับ ที่จุดระดับที่ 2.49 เท่า โดยเรายังคงมีการจัดทำนะครับ Duration Matching ระหว่างตัว asset และ liabilities นะครับ มีการจัดทำ interest rate swap และ cross currency swap นะครับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งเรื่อง interest rate risk และก็ Market risk ด้วย โดยในปี 2024 ที่ผ่านมาเนี่ยจะเห็นได้ว่ามีข่าวเชิงลบในตลาดทุนเนี่ยค่อนข้างเยอะนะครับ และมีความไม่แน่นอนเนี่ยจากปัจจัยภายนอกค่อนข้างสูง แต่ยังไงก็ตามนะครับบริษัท ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเป็นอย่างดีนะครับ โดยมีการ Oversubscription เนี่ยในหลายๆ ตัว issue ในทีเดียว อีกทั้งเนี่ยในวงเงินจากสถาบันการเงินเนี่ยเรายังมีมากกว่า 26,000 ล้านบาทนะครับ ณ สิ้นปี 2024 และก็ยังคง Credit Rating ที่ระดับ A นะครับ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมเดียวกัน ส่งผลให้บริษัทอยู่ในจุดที่ได้เปรียบคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งด้านเรื่องสภาพคล่องเอง และความยืดหยุ่นทางด้านการเงินด้วยนะครับ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ต่อมานะครับ ในด้านของคุณภาพหนี้ และต้นทุนทางด้านเครดิตนะครับ จะเห็นได้ว่านะครับ ตัว NPL เนี่ยก็มีการปรับตัวลดลงนะครับ อยู่ที่ 1.81% ด้วยกัน อีกทั้ง NPL Formation เนี่ยก็มีการปรับตัวลดลงนะครับ เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า แต่เราก็ยังมีการ บุ๊ค Reserve นะครับ จะส่งผลให้ LLR เนี่ย หรือ Loan Loss Reserve เนี่ยเราขึ้นมาอยู่ที่ 4.38% นะครับ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบให้ NPL Coverage Ratio เนี่ยเราอยู่ที่ระดับที่สูงนะครับ ประมาณ 243% ด้วยกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดนะครับ เมื่อเทียบกับผู้เล่นในตลาดเดียวกัน หรือผู้เล่นใกล้เคียงนะครับ ใน ท้ายสุดแล้วนะครับ ตัว Credit Cost ก็จะเห็นว่าอยู่ที่จุดระดับต่ำสุดใน Quarter ที่ 4 ด้วยกัน โดยทั้งปีเนี่ย Credit Cost เราจะปิดอยู่ที่ 3.40% นะครับ ทั้งนี้เนี่ยเป็นผลมาจากการ Titan Policy นะครับ และความสามารถในการติดตามทวงถามหนี้ และการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

ในส่วนต่อมานะครับ เป็นสรุปผลประกอบการนะครับ สำหรับปี 2024 โดยยอดสินเชื่อเนี่ยเติบโตที่ 7% Growth ด้วยกันนะครับ ก็อย่างเช่นสืบเนื่องจากการ Titan Policy ที่ได้แจ้งไปนะครับ แต่กลับไปดูอีกมุมมองนึงเนี่ยจำนวนลูกค้าเราเนี่ยเติบโตที่ 11% นะครับ ซึ่งจริงๆ ก็จะอยู่ในกรอบ Guidance ที่เราให้ไปสำหรับปี 2024 จะเห็นได้ว่าซึ่งมันสะท้อนภาพให้เห็นว่าดีมานด์ในตลาดเนี่ย ด้านหน้าบ้านเนี่ยมันยังมีอยู่นะครับแต่เราเลือกที่จะมีความระมัดระวังนะครับในการ Under Right ลูกค้าใหม่ นะครับ ต่อมานะครับในธุรกิจของประกันนะครับ พรีเมี่ยมของ Non-Life เนี่ยก็เติบโตที่ 16% นะครับ อยู่ในกรอบที่เราให้ไว้เช่นเดียวกัน แต่ก็จะเห็นได้ว่านะครับ การเติบโตเนี่ยอาจจะไม่ได้ไปอยู่ในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน 100% นะครับ ซึ่งก็เป็นข้อดีอันนึงที่สะท้อนให้เห็นได้ว่าความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราเนี่ย ของน้องๆ สาขาเนี่ย ในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน แล้วก็อยู่ในกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันด้วยนะครับ โดย NPL เรานะครับ ก็อยู่ต่ำกว่าเป้าที่เราตั้งไว้ต่ำกว่า 2% และก็ Credit Cost นะครับ อาจจะอยู่สูงกว่าในกรอบที่ 5 ไว้เพียงเล็กน้อยนะครับ อยู่ที่ 3.40% สำหรับ Full Year Credit Cost ด้วยกัน

ในส่วนถัดไปนะคะ จะเป็นการอัปเดตแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการจัดการค่ะ ปัจจุบันค่ะ เอ่อ แผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการจัดการนะคะ ก็อยู่ในช่วงของกระบวนการการแลกหุ้นนะคะ เป็นการแลกหุ้นจาก บมจ. เงินติดล้อค่ะ เป็น ติดล้อ Holding ซึ่งอันเนี้ยก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างนะคะ โดยกระบวนการแลกหุ้นนี้อ่ะค่ะ ก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง แล้วก็ยั่งยืนนะคะเนื่องจากว่าก็เป็นการช่วยเพิ่มความคล่องตัว แล้วก็ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยงนะคะ รวมถึงการจ่ายปันผลด้วยค่ะ แล้วก็ความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งการปรับโครงสร้างนี้ค่ะ เป็นการเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจ แล้วก็สร้างพันธมิตรค่ะ ในอนาคตด้วยเช่นกันค่ะ โดยเราได้มีการประกาศระยะเวลาการตอบรับคำเสนอซื้อนะคะ หรือว่าการแลกหุ้นเนี่ยในระหว่างวันที่ 10 มีนาคมนะคะ ก็คือวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ถือว่าเป็นวันแรกที่สามารถเริ่ม การตอบรับคำเสนอซื้อได้ค่ะ ถึงวันที่ 16 เมษายนค่ะ แล้วก็สามารถทำการตอบรับได้ในระหว่างเวลา 9:00 น. นะ 9:00 น. นะคะ ถึง 16:00 น. ของทุกวันทำการค่ะ อันเนี้ยก็อยากขอเชิญชวนนะคะผู้ถือหุ้นทุกท่านค่ะ มาทำการแลกหุ้น บมจ. เงินติดล้อนะคะ เป็นหุ้นของติดล้อ Holding ค่ะ แล้วก็การแลกหุ้นนี้ค่ะก็จะเป็นไปในอัตราส่วนนะคะ 1:1 ก็คือผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ 1 หุ้นนะคะ ก็จะสามารถแลกหุ้นของติดล้อ Holding ค่ะ ได้ 1 หุ้น แล้วก็ที่สำคัญนะคะ การแลกหุ้นค่ะ จะไม่เป็นไปอย่างอัตโนมัตินะคะ ก็คือผู้ถือหุ้นน่ะค่ะ จะต้องเข้ามาทำการตอบรับนะคะ ด้วยตนเองค่ะ โดยเมื่อ ถัดจากวันสุดท้ายของการแลกหุ้นไปนะคะ ตัวของชื่อย่อค่ะ หรือชื่อย่อหลัก ทรัพย์อ่ะค่ะ หรือว่า ทิกเกอร์อ่ะค่ะ ของ บมจ. เงินติดล้อค่ะ ก็จะเปลี่ยนเป็น TL แทนนะคะ จนกว่าตัวของติดล้อ Holding อ่ะค่ะ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นะคะ แล้วก็เมื่อติดล้อ Holding เข้าจดในทะเบียนตลาดในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้วอ่ะค่ะ ก็จะกลับไปใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์เดิมนะคะ ก็คือติดล้อค่ะ เหมือนเดิมค่ะ ซึ่งกระบวนการเนี้ย ในวันที่ติดล้อ Holding เข้าจดทะเบียนนะคะ ก็จะเป็นวันเดียวกับที่ บมจ. เงินติดล้อค่ะ ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์เหมือนกันค่ะ

สำหรับช่องทางการติดต่อนะคะ เรื่องการตอบรับคำเสนอซื้อ หรือว่าการตอบรับคำแลกหุ้นน่ะค่ะ อันเนี้ยจะมีความแตกต่างกันออกไปนะคะ ตามรูปแบบของการถือหุ้นค่ะ ดังนี้ค่ะ 1 ค่ะ ถ้าเป็นกรณีผู้ถือหุ้นที่ถือในรูปแบบแบบมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ Broker นะคะ ผู้ถือหุ้นสามารถติดต่อทางบริษัทหลักทรัพย์ที่ท่านมีบัญชีซื้อขายอยู่ค่ะ หรือว่าติดต่อ Tender Agent ค่ะ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการแลกหุ้นของ บมจ. เงินติดล้อได้เลยนะคะ แล้วก็สามารถทำตามขั้นตอนการตอบรับการแลกหุ้นต่อไปได้ค่ะ แต่ว่าถ้าหากผู้ถือหุ้นค่ะ เป็นกรณีถือใบหุ้น หรือกรณีฝากหุ้นไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์บัญชี 600 แล้วก็กรณี NVR ค่ะ ส่วนเนี้ยค่ะ ผู้ถือหุ้นสามารถติดต่อ Tender Agent นะคะ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการแลกหุ้น แล้วก็สามารถทำตามขั้นตอนการแลกหุ้นต่อไปได้ค่ะ แต่ว่าสำหรับผู้ถือหุ้นในกรณีถือใบหุ้น ฝากไว้ที่ศูนย์หลัก ทรัพย์บัญชี 600 แล้วก็ NVR ค่ะ ทางบริษัทอาจจะขอความร่วมมือค่ะ ยื่นแบบตอบรับภายในวันที่ 4 เมษายนนะคะ หรือว่า 5 วันทำการก่อนวันสุดท้ายของการแลกหุ้น ก็คือวันที่ 16 เมษายนนะคะ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการประสานงานในการโอนหลักทรัพย์ รวมถึงการนำใบหุ้นไปตรวจสอบกรณีที่ถือหุ้นเป็นใบหุ้นด้วยค่ะ โดย Tender Agent นะคะ หรือว่าตัวแทนในการรับซื้อหลัก ทรัพย์อ่ะค่ะ ในรอบนี้นะคะ ก็จะมี 2 บริษัทด้วยกันค่ะ โดยบริษัทแรก ก็คือบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) นะคะ แล้วก็บริษัทที่ 2 ค่ะ จะเป็นบริษัท Inves X จำกัด ค่ะ โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการรับซื้อหุ้นจาก บมจ. เงินติดล้อนะคะ แลกเป็น ติดล้อ Holding ทั้งนี้ค่ะ ภายหลังการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัทอ่ะค่ะ ก็ยังเป็นการประกอบธุรกิจเช่นเดิมนะคะ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ โดยเราก็ยังมุ่งเน้นในธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ ก็คือธุรกิจสินเชื่อ แล้วก็ธุรกิจนายหน้าประกันเป็นหลักค่ะ ท่านผู้ถือหุ้น แล้วก็นักลงทุนท่านใดนะคะ ที่สนใจ เอ่อ ที่ ที่สนใจ ที่จะแจ้งความประสงค์การแลกหุ้นนะคะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.tidlorinvestor.com นะคะ หรือว่าดูรายละเอียด แล้วก็วิธีการในการแลกหุ้นน่ะค่ะ ได้จากวิดีโอตาม QR Code ด้านล่างได้เลยค่ะ

ถัดไปนะคะ ก็จะเข้าสู่ช่วงตอบคำถามค่ะ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A Session ที่นาที 36.50]

การดำเนินธุรกิจหลัง Tender Offer

คำถาม: อยากให้ผู้บริหารอธิบายเรื่องว่าหลังจากการทำ Tender Offer แล้วอ่ะค่ะ การดำเนินธุรกิจของบริษัท จะมีผลดีอย่างไรค่ะ แล้วก็เมื่อเทียบกับปัจจุบันน่ะค่ะ มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ค่ะ

คำตอบ:

  • Tax Saving ไม่ต้องออกหุ้นปันผล
  • ESP Growth ดู Stable
  • แยกธุรกิจ InsureTech ชัดเจน, เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน (IPO)

เป้ารายได้และสัดส่วนหนี้เสียปี 2568

คำถาม: มีเป้าหมายตัวของรายได้ในปี 2568 แล้วก็เป็นสัดส่วนหนี้เสียค่ะไม่เกินเท่าไหร่หรือไม่คะ

คำตอบ: ไม่มีเป้ารายได้ แต่รายได้จะเติบโตขึ้นทุกปี ควบคุมระดับหนี้เสียให้ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

แผนการลงทุนปีนี้

คำถาม: วงเงินลงทุนปีนี้ค่ะจะใช้อะไรลงทุนในส่วนไหนเป็นหลักคะ

คำตอบ: ลงทุนด้าน IT และขยายสาขา (ไม่เกิน 100 สาขา)

สาเหตุการปรับโครงสร้างล่าช้า

คำถาม: การปรับโครงสร้างค่ะ อันเนี้ยมีการล่าช้าออกไปค่ะ มีสาเหตุใดค่ะ แล้วก็มั่นใจไหมคะว่าจะสามารถทำสำเร็จได้ค่ะ แล้วก็เพราะอะไรค่ะ

คำตอบ: มั่นใจว่า Share Swap Process สำเร็จ เพราะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน ลดความสับสน เพิ่ม Visibility คาดว่าจะสำเร็จได้ด้วยดี

Credit Cost สิ้นปี 2568

คำถาม: คาดว่า Credit Cost ค่ะ สิ้นปี 2568 ค่ะจะจบที่เท่าไหร่คะ

คำตอบ: ไม่เกินปีที่แล้ว แต่มีปัจจัย 2 เรื่อง (Reserve Change, Net Write-off) Book Reserve เพียงพอ เพื่อป้องกัน Equity ของนักลงทุน

สาเหตุการปรับโครงสร้างล่าช้า (ซ้ำ)

คำถาม: สำหรับสาเหตุที่การปรับโครงสร้างอ่ะค่ะ ล่าช้านะคะ อันนี้ก็เป็นไปตามการอนุมัติของ Regulator หรือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ่ะค่ะ อย่างไรก็ตามค่ะ ถ้าเห็นน่ะค่ะ คือปีที่แล้วนะคะเรา เรา เราประกาศแล้วว่าล่าช้า แต่ว่าอีกส่วนหนึ่งที่เราประกาศแจ้งตลาดด้วยอ่ะค่ะ ก็คือการจ่ายเงินปันผล โดยเราก็มีการจ่ายเงินปันผลน่ะค่ะ ตอนนั้นเป็นการจ่ายรอบ 9 เดือนนะคะ ก็เปอร์เซ็นต์การจ่ายค่ะ ก็คิดเป็นประมาณ 40% ของของกำไรใน 9 เดือนแรกนะคะ แต่ว่าถ้าดูเป็นกำไรทั้งปีอ่ะค่ะ ก็จะเป็นประมาณ 30% ค่ะ อันเนี้ยก็ทำการประกาศแล้วก็จ่ายไปเรียบร้อยในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาค่ะ

Cost to Income สูงขึ้น

คำถาม: เออ ตัวของ Cost to Income ค่ะสูงขึ้นจากปีที่แล้วค่ะ อันเนี้ยเป็นค่าใช้จ่ายอะไรเป็นหลักคะ

คำตอบ:

  • Loss on Sale
  • Cost of Fund (จาก Interest Rate ปรับตัวสูงขึ้น)

แผนขยาย Product ประกัน

คำถาม: จะเป็นบริษัทมีแผนขยาย Product ประกันค่ะ จะเป็นการขายประกันอื่นๆ หรือไม่เช่นประกันชีวิตค่ะ

คำตอบ: เริ่มขยายไปประกันชีวิตใน Heygoody (ประกันบำนาญ, สะสมทรัพย์) พัฒนา Product ประกันให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

เหตุผลที่ไม่เลือกทำแลกหุ้นอัตโนมัติ

คำถาม: ทำไมถึงไม่เลือกทำ การแลกหุ้นอัตโนมัติค่ะ

คำตอบ: เป็นไปตามกฎ ต้องให้ผู้ถือหุ้นตัดสินใจเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้บริษัทตัดสินใจแทนได้

สาเหตุการบุ๊ค LLR สูงขึ้น

คำถาม: พอร์ตในไตรมาส 4 ดูดีขึ้นค่ะ แต่ว่าหมายถึงว่าตัว NPL นะคะ น่าจะลดลง แต่ว่าเราอ่ะค่ะมีการบุ๊คค่ะ ตัว LLR ค่ะ สูงขึ้นค่ะ อันนี้เกิดจากสาเหตุใดค่ะ

คำตอบ: ตั้ง Reserve บน Component หลายอย่าง (Stage 1, 2, 3) Component นึง คือ Economic Variables เปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่เป็นไปตาม Model ที่ทำไว้และคิดว่าครบถ้วนแล้ว

เป้าหมาย NPL ปี 2568

คำถาม: เป้าหมาย NPL ค่ะ สำหรับปี 2568 ค่ะ

คำตอบ: NPL อยู่ในระดับที่พึงพอใจ แต่ NPL As Percentage ลดลงตามการเติบโตของ Portfolio ขึ้นอยู่กับทิศทางการเติบโตของธุรกิจ

กลุ่มลูกค้าประกันวินาศภัย

คำถาม: กลุ่มลูกค้าประกันวินาศภัยค่ะในตลาดอ่ะค่ะ มีกลุ่มประมาณไหนบ้าง แล้วก็กลุ่มลูกค้าของบริษัทอ่ะค่ะ เป็นกลุ่มไหนค่ะ

คำตอบ:

  • ประกันติดโล่: สาขากว่า 1,800 สาขา, ผ่อน 0% 6-10 เดือน ลูกค้าตามชุมชนใกล้สาขา
  • Arigator: Sub-Broker, มี Network ของตัวเอง, ไม่ต้องเพิ่มสาขา
  • Heygoody: Online 100%, เข้าใจ Product ดี, Option จ่ายหลากหลาย
มี Brand ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แทบทุกกลุ่ม

สถานการณ์รถบรรทุก

คำถาม: ไม่ทราบว่าสถานการณ์รถบรรทุกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

คำตอบ: ยังอยู่ในทิศทางที่โอเค อาจจะไม่ Recover ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน พอร์ตรถบรรทุกอาจมี NPL/Credit Cost สูงกว่า แต่ยังทำกำไรได้ ยังคงปล่อยได้ แต่ Conservative

NPL กับโอกาสทางธุรกิจ

คำถาม: ปัญหาหนี้คัวเรือนที่สูงค่ะ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจเราหรือไม่ค่ะ

คำตอบ: กลับกัน ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะ TIDLOR แตกต่างจากผู้เล่นอื่น เป็น Title Loan เจ้าเดียวที่เป็นลูกธนาคาร และมีวงเงินคงเหลือ กว่า 26,000 ล้านบาท สามารถ Mobilize Capital นี้ไป Capture กลุ่มลูกค้าต่างๆ มากขึ้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของทาง Regulator ติดตามอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการประชุมในวันนี้ บริษัท เงินติดล้อ (TIDLOR) ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นที่การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและนักลงทุนทุกท่าน

โพสต์ล่าสุด