บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
POLY โชว์ผลงานปี 67 สุดปัง! พร้อมลุยตลาดเครื่องมือแพทย์และยานยนต์ปี 68
P/E 11.87 YIELD 6.43 ราคา 0.00 (0.00%)OK ครับ เริ่มเลย!
POLY โชว์ผลงานปี 67 สุดปัง! พร้อมลุยตลาดเครื่องมือแพทย์และยานยนต์ปี 68
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงตึงตัว มีปัญหาสงครามการค้า แต่อัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง รัฐบาลหลายประเทศอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัญหา Overcapacity ของจีนยังคงมีผลกระทบในวงกว้าง ราคาน้ำมันในครึ่งปีแรกสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ครึ่งปีหลังต่ำกว่า
ภาพรวมเศรษฐกิจไทย: ภาคการส่งออกฟื้นตัวชัดเจน แต่ดัชนีภาคการผลิตยังหดตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวรุนแรง ราคาค่าไฟฟ้าปี 2567 ถูกกว่าปี 2566
ผลการดำเนินงานปี 2567:
- รายได้: 1,023.9 ล้านบาท เติบโต 6.5%
- อัตรากำไรขั้นต้น: สูงขึ้นเป็น 30% อยู่ที่ 305.9 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ: 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
- อัตรากำไรสุทธิ: เพิ่มขึ้นเป็น 21% จาก 18% ในปีที่แล้ว
- กำไรต่อหุ้น: 48 สตางค์ต่อหุ้น
ปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบ: ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกอาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ภาพรวมประชากรสูงวัยในหลายประเทศ: โซนยุโรป, อเมริกา, ญี่ปุ่น, และเกาหลีใต้มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลต่อ POLY ในแง่อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
กลุ่มยานยนต์: การเติบโตสวนทางตลาดที่หดตัว โดยเฉพาะการสั่งซื้อจากต่างประเทศ (อเมริกา) เน้นสินค้าที่มีความซับซ้อนสูง
กลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์: รายได้เติบโตชัดเจน ตอบโจทย์ Aging Society โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป
ขยายฐานสินค้าอุปโภคบริโภค: ขยายฐานสินค้าให้หลากหลายขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็น Global Brand โดยมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
Trade War ระหว่างอเมริกาและจีน: ยังต้องติดตามต่อในอนาคต เพราะนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกาอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
การหดตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ: แม้ POLY จะเติบโตสวนทาง แต่การหดตัวของตลาดยังคงเป็นความเสี่ยง
การแข่งขันจากค่ายรถยนต์จีน: อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในประเทศ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
กลุ่มยานยนต์: มุ่งเน้นสินค้าที่มีความซับซ้อนเพื่อลดการแข่งขัน
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค: ขยายฐานสินค้าให้หลากหลายขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็น Global Brand
การบริหารจัดการต้นทุน: การจัดหาวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Sourcing), การพัฒนาสูตรการผลิต, และการใช้พลังงานทดแทน (Solar Cell)
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
กลุ่มยานยนต์: คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการรับช่วงงานจากปีที่แล้ว
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค: ตั้งเป้าขยายฐานสินค้าให้หลากหลายมากขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็น Global Brand
กลุ่มเครื่องมือแพทย์: ตลาดมีการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 5-7% ทุกปี และตลาดยังมี Space อีกค่อนข้างมาก
การใช้พลังงานทดแทน: การใช้ Solar Cell อย่างเต็มที่จะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน
การใช้ Data ในการผลิต: ช่วยให้การวางแผนและการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดของเสีย
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [นาทีที่ 40:56]
Capacity การรับงาน:
Capacity ที่ใช้: 60-70% แล้วแต่เครื่องจักรและสายการผลิต
- แบ่งเป็น พลาสติก, ซิลิโคน, ยาง
- Capacity นี้สามารถจัดการได้โดยที่ต้นทุนไม่สูงเกินไป
- Infrastucture ของบริษัทพร้อม การติดตั้ง/สั่งซื้อเครื่องจักรใช้เวลา 2-3 เดือน
เป้ารายได้ปีนี้:
- ตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อย 20% (ปีที่แล้วตั้งเป้า 10% ทำได้ 6%)
- กลุ่มยานยนต์มีการเติบโตชัดเจน
- Consumer น่าจะเริ่มกลับมาขยายตัว
- Medical มีหลาย Product ที่กำลัง Mass Production ในปีนี้
ลูกค้าจีน:
- รายได้กลุ่มยานยนต์: ส่วนใหญ่เป็นค่ายรถญี่ปุ่น, รองลงมาคือฝั่งยุโรป
- ปัจจุบันยังไม่มีลูกค้าจากรถจีน เพราะราคาแข่งขันค่อนข้างยาก
- เน้นสินค้าที่อัตรากำไรขั้นต้นสูง และคุ้มค่ากับความเสี่ยง
GPM ของการทางแพทย์สูงผิดปกติ?
- สินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่แล้ว
- เป็นสินค้าค่อนข้างเป็นนวัตกรรม
- ต้นทุนหลักๆ ส่วนใหญ่อยู่ในเรื่องของ Process มากกว่า Material
- Process มาจากการ Control ที่เข้มงวด, สิ่งแวดล้อมที่อยู่ในควบคุมที่แม่นยำ
- สินค้าต้องผลิตใน Clean Room, วัตถุดิบต้องเป็น Medical Grade
- เหมือนค่า Loyalty ที่ต้องมีความเชื่อใจ และความน่าเชื่อถือ
- ตัวนี้จะใช้เงินลงทุนค่อนข้างเยอะ แต่ในระยะยาวจะได้อัตรากำไรที่สูงเป็นผลตอบแทน
ลูกค้าทางแพทย์ OEM?
- ใช่ครับ ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเอง เพราะทาง POLY ถนัดเป็นผู้ผลิตมากกว่า
- ไม่ได้ทำแบรนด์ตัวเอง เพราะการตลาดอาจจะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
- มี Function การผลิตที่ค่อนข้างครบวงจร
- ภายในฝ่ายผลิตมีการ Improvement และเครื่องไม้เครื่องมือที่ Support
- ต้นทุนที่ทำได้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
- ด้วยความที่มันค่อนข้างครบวงจร ลูกค้าจะมาที่เดียวแล้วก็จบ
สินค้าทางแพทย์จะทดแทนเครื่องใช้ไฟฟ้า?
- อาจจะไม่ได้แทนกัน แต่อาจจะเติบโตคู่กันไป
- 2 สินค้า 2 กลุ่มนี้ มีตลาดค่อนข้างแยกกันค่อนข้างชัดเจน
- จะไม่ตัวไหนมาแทนตัวไหน
- สินค้าทางการแพทย์ ก็ยังสามารถเติบโตได้ ในขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันก็ยังมีการเติบโตอยู่
- ตัวที่หายออกไปเป็นกลุ่มบรรจุภัณฑ์จากซิลิโคน
ตัวลูกถ้วยไฟฟ้าจะสร้างรายได้เท่าไหร่?
- ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาล หรือว่าทางการไฟฟ้า ว่าจะเปิดบิดเท่าไหร่
- ปีที่แล้วช่วงไตรมาส 4 มี 10,000 ตัว ประมาณ 30 ล้านบาท
- คิดว่าต่อไตรมาส ถ้าแบบภาพตลาดโดยรวม ประมาณ 120 ล้านบาท ปีละ
ปีที่แล้วตั้งโต 20% แต่ทำไม่ได้ ปีนี้สร้างความเชื่อมั่นอย่างไร?
- ปีที่แล้วตั้งไว้ประมาณ 10% แต่ก็ปัจจุบันทำได้ประมาณ 6%
- พยายามถึงที่สุด เพราะตลาดรถยนต์หดตัวค่อนข้างรุนแรง
- ยังดีที่กลับมาได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4
- ในขณะที่กลุ่มทางการแพทย์ก็มีการเติบโตค่อนข้างชัดเจน
- ปีนี้จะเห็นค่อนข้างชัดเจนเลย อาจจะรอดูไตรมาส 1 ก่อนก็ได้
- สิ่งที่ตั้งเป้ากัน ค่อนข้าง Realistic เป็นไปได้ ด้วยปัจจัยจากสภาพแวดล้อมโดยรวม หรือว่ารายได้จากปัจจุบัน สภาพสถานการณ์ปัจจุบัน
เงินสดบริษัทเยอะจะมี Deal M&A?
- ถ้ามีโอกาสก็อาจจะลอง ก็คือไม่ปิดโอกาส อาจจะมี
สรุป: POLY ตั้งเป้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 โดยมีกลุ่มเครื่องมือแพทย์และยานยนต์เป็นหัวหอกสำคัญ แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่บริษัทก็มีแผนรับมือและปรับกลยุทธ์อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน