https://aio.panphol.com/assets/images/community/3399_cdba98.png

สรุป Oppday ITEL ไตรมาส 4/2567: เจาะลึกกลยุทธ์และทิศทางปี 2568

P/E 13.94 YIELD 0.00 ราคา 1.19 (0.00%)

สรุป Oppday Interlink Telecom ไตรมาส 4/2567: เจาะลึกกลยุทธ์และทิศทางปี 2568

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

Interlink Telecom เผชิญผลกระทบทั้งบวกและลบในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบดังนี้:

  1. **รายได้:** ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ลดลงเล็กน้อยประมาณ 48 ล้านบาท
  2. **การเติบโตของ Data Service:** มีวงจรใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 วงจร และลูกค้าเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ราย
  3. **Data Center:** ยังคงให้บริการเต็มที่
  4. **งานติดตั้ง:** ยังคงมีกลุ่มลูกค้าเดิม เช่น AWS และงานต่อเนื่อง เช่น e-budgeting และการติดตั้ง Solar Cell
  5. **กำไร:** เติบโตกว่าปีที่แล้วในภาพรวม โดยมีกำไรพิเศษ 177 ล้านบาท จากการซื้อกิจการ GLS (IHT), การขายหุ้น Ethics ITEL และการ Reverse ส่วนแบ่งขาดทุน
  6. **Recurring Business:** ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากงานคอร์สออนไลน์และ USO 1 ที่หมดอายุ
  7. **Non-Recurring Business:** งานโครงการภาครัฐออกมาค่อนข้างน้อย ทำให้รายได้ส่วนนี้ลดลง

โดยรวมแล้ว ธุรกิจยังคงเติบโตได้ดี แต่มีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงและแก้ไข

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน และมีกลยุทธ์ในการคว้าโอกาสเหล่านั้นดังนี้:

  1. **โครงการภาครัฐ:** มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับสำนักงบประมาณในเรื่องระบบงบประมาณ และเตรียมตัวในเรื่อง Cloud Infrastructure
  2. **Augmented Reality (AR):** ร่วมมือกับกระทรวง อว. ในการปรับปรุงและเสริมสร้างวิธีการเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ให้กับประชาชนและนักเรียนนักศึกษา
  3. **Data Center:** ดูแลและปรับปรุง Data Center ภายใต้สำนักนายกฯ (สนร.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมและแลกเปลี่ยนข้อมูล
  4. **กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.):** มีความตั้งใจที่จะเป็นรายแรกที่ใช้ Serverless อย่างแท้จริง โดยบริษัทจะเข้าไปช่วยในเรื่องระบบ Security และ Knox Lock

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และพัฒนาบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

บริษัทเผชิญความเสี่ยงและความท้าทายหลายด้าน:

  1. **การแข่งขัน:** การแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมที่สูงขึ้น
  2. **ความไม่แน่นอนทางการเมือง:** ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่องานโครงการภาครัฐ
  3. **การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี:** การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็วอาจทำให้ต้องปรับตัวอยู่เสมอ
  4. **หนี้สงสัยจะสูญ:** ความเสี่ยงในการเก็บเงินจากลูกค้าที่ล่าช้า

บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ และมีแผนการรับมือที่เหมาะสม

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

บริษัทมีวิธีการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:

  1. **การปรับปรุงประสิทธิภาพ:** ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดต้นทุน
  2. **การบริหารความเสี่ยง:** บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และมีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉิน
  3. **การพัฒนาบุคลากร:** พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัย
  4. **การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ:** ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบจากการเก็บเงินที่ล่าช้า

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

บริษัทมองเห็นแนวโน้มของธุรกิจในอนาคตดังนี้:

  1. **การเติบโตของ Data Center:** ความต้องการ Data Center ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. **การขยายตัวของ 5G:** การขยายตัวของ 5G จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการให้บริการ
  3. **การเติบโตของ Cloud Computing:** การเติบโตของ Cloud Computing จะทำให้บริษัทต้องปรับตัวและพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
  4. **การมาของ Hyper Scaler:** บริษัทคาดว่าการมาของ Hyper Scaler จะสร้างโอกาสให้บริษัทในการให้บริการเชื่อมต่อและ Cloud Implementation

บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจนในระยะยาว

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:18:38]** - **GLS ขาดทุนที่ Gross Level ในไตรมาส 4 เพราะอะไร:** มีการกลับรายการบางอย่าง การขายให้ตัวแทนที่ไปขายต่อให้หลวง การเก็บเงินล่าช้า ออดิเตอร์ให้ตั้งสำรอง - **กำไรขาย Data Center หลังเสียภาษีแล้วคือเท่าไหร่:** 123 ล้านบาท - **Data Service ทั้งๆ ที่เป็น Recurring แต่ GP ลดลง:** การหมดสัญญาของ USO ทำให้รายได้ส่วนนั้นหายไป - **จะดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนต่อไหม อย่างไร:** ดำเนินการตามมติ แต่จังหวะและปริมาณขึ้นกับสภาวะตลาด ไม่ได้ทำราคา แต่ซื้อเมื่ออยู่ในจุดที่เหมาะสม - **ดอกเบี้ยระยะสั้น จ่ายที่เรทเท่าไร ทำไมต้องมีดอกเบี้ยระยะสั้น:** เรท 4-5% เหตุผลที่ต้องมีดอกเบี้ยระยะสั้นเพราะเราคิดว่าการดำเนินงานหรือว่าการไฟแนนซ์ของโปรเจคเนี่ยเราควรจะต้องใช้โปรเจคไฟแนนซิ่งเรามีการหารือกับแบงค์ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรของเราเกือบทุกแบงค์เนี่ยว่าทุกๆ โครงการที่ได้เข้ามาเนี่ยแบงค์ไหนที่เป็นผู้ชนะก็จะดำเนินการในในการออกโปรเจคไฟแนนซิ่งให้ในโปรเจคนั้นๆ - **TikTok ประกาศลงทุนในไทย กระทบ Interlink อย่างไร:** จำนวนลิงก์หรือจำนวนการเชื่อมต่อจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ใช่ 1 ต่อ 1 - **ผลประกอบการไตรมาส 1 มีอะไรเป็นปัจจัยตัวหนุน:** สัญญาล่วงหน้าที่มีกับลูกค้ามาโดยตลอด งานที่เซ็นสัญญาช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน - **ปี 2024 รายได้พลาดเป้าจากโครงการอะไร:** USO หมดสัญญา แต่คาดว่าจะกลับมารับรู้รายได้ในไตรมาส 2 - **ปี 2024 บริษัทมีกำไร 303 ล้านบาท ปีนี้จะรักษาได้ไหม:** ตั้งใจจะเห็นบริษัทเติบโตต่อเนื่อง และพยายามทำให้รายได้กับกำไรสอดคล้องกัน - **ปัจจุบันมี Backlog เท่าไหร่ จะรับรู้เท่าไหร่:** 1,921 ล้านบาท ณ สิ้นปี รับรู้รายได้ 1,479 ล้านบาท - **บริษัทวางงบลงทุนเท่าไหร่ ใช้ลงทุนอะไรบ้าง:** 2-300 ล้านบาทต่อปี ลงทุนในส่วนของ Last Mile Data Center และปรับปรุงระบบ - **สัดส่วนรายได้ Recurring เทียบกับ Non-Recurring ปัจจุบันมีเท่าไหร่ ปีนี้ตั้งเป้าเป็นอย่างไร:** ปัจจุบัน 46/55 ตั้งเป้าปี 2025 เป็น 60/40 - **USO 3 จะเริ่มรับรู้รายได้เมื่อไหร่ มี Impact ต่อ Data Service อย่างไร:** คาดว่าจะผูกพันในสัญญาได้ในไตรมาส 2-3 รับรู้รายได้ในส่วนหลังจากนั้น - **I-Tel หากหักกำไร One-Time ออก กำไรลดลงมาก จะทำอย่างไร:** มุ่งเน้นรับงานโครงการช่วยเพิ่มกำไร โดยสรุป Interlink Telecom ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการคว้าโอกาสและรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องการประมูลงานภาครัฐ การขยายตลาด Data Center และการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

โพสต์ล่าสุด