YUANTA วิเคราะห์ EGCO: คาดกำไรปกติ Q4/67 โต YoY แต่มีรายการด้อยค่ากดดัน

P/E 9.39 YIELD 6.74 ราคา 96.50 (0.00%)


ประเด็นสำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรปกติของ EGCO ในไตรมาส 4 ปี 2567 จะเติบโต YoY จากกำลังผลิตใหม่ แต่ถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาลและการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ คาดว่า EGCO จะบันทึกรายการด้อยค่าโรงไฟฟ้า QPL ในฟิลิปปินส์

รายละเอียดการวิเคราะห์

หยวนต้าคาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 4/2567 ของ EGCO ที่ 2,419 ล้านบาท ลดลง 33% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 100% YoY การลดลง QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ และเกาหลี รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า Linden ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การเติบโต YoY มาจากรายได้ของโรงไฟฟ้า KN4 ในไทย, ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า SBPL ในฟิลิปปินส์ที่ฟื้นตัว, และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์เอลนีโญคลี่คลาย

นอกจากนี้ หยวนต้าคาดว่า EGCO จะบันทึกรายการด้อยค่าโรงไฟฟ้า QPL ในฟิลิปปินส์จำนวน 3,500 ล้านบาท เพื่อเตรียมทำสัญญา PPA ฉบับใหม่ ทำให้คาดการณ์ผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2567 ที่ 1,331 ล้านบาท (พลิกเป็นขาดทุน QoQ, ขาดทุนลดลง YoY)

หยวนต้าได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-2569 ขึ้น 31-36% เพื่อสะท้อนส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่สูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติปี 2568 จะลดลง YoY แม้จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวันที่ COD ครบทั้งโครงการแล้ว เนื่องจากรายได้ของโครงการโรงไฟฟ้า QPL ในฟิลิปปินส์จะลดลงหลังหมดอายุสัญญา PPA ในเดือนพฤษภาคม 2568 (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อทำสัญญา PPA ฉบับใหม่)

ข้อสังเกต

หยวนต้าคาดการณ์ว่าแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/2568 จะยังคงเติบโต YoY ได้ต่อเนื่อง แม้จะลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า QPL และ BLCP อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้า QPL มีจำนวนวันปิดซ่อมบำรุงน้อยลง และโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้น

สรุปและคำแนะนำ

ถึงแม้จะมีการปรับประมาณการกำไรขึ้น แต่หยวนต้าได้ปรับ WACC ที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นผ่านวิธี DCF ขึ้นเป็น 9.4% และปรับ Implied Yield ขึ้นเป็น 6.4% เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ลดลงเป็น 130.00 บาท/หุ้น (เดิม 167.00 บาท/หุ้น)

อย่างไรก็ตาม หยวนต้ายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับการลงทุนระยะยาว แต่ในระยะสั้น การฟื้นตัวของราคาหุ้นจะยังคงถูกจำกัดจากผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2567 และ Bond Yield สหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือหลังเห็นสัญญาณการปรับตัวลงของ Bond Yield สหรัฐฯ

โพสต์ล่าสุด
บทความ
2 วันที่แล้ว 13:30 น.
No Title Found