บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: BPP ขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2567

BPP ประสบภาวะขาดทุนสุทธิ 1.0 พันล้านบาทในไตรมาส 4/2567 จากที่เคยมีกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาทในไตรมาส 3/2567 สาเหตุหลักมาจากรายการพิเศษที่สุทธิแล้วเป็นผลขาดทุน 1.6 พันล้านบาทจากการด้อยค่าโรงไฟฟ้า Nakoso นอกจากนี้ กำไรปกติในไตรมาส 4/2567 ยังลดลง 53.3% QoQ มาอยู่ที่ 534.3 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

ผลกระทบและปัจจัยกดดัน: กำไรปกติลดลงและแนวโน้มที่ไม่สดใส

กำไรปกติทั้งปี 2567 ของ BPP ลดลง 31.3% YoY โดยมีสาเหตุหลักจากผลประกอบการในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงเนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่นที่ไม่เอื้อต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยรวม เอเซีย พลัสคาดการณ์ว่าทิศทางกำไรปี 2568 จะยังคงถูกกดดันจากโครงสร้างรายได้ของ BLCP และ HPC ที่ทยอยลดลงตามสัญญา PPA รวมถึงไม่มีการรับรู้ Nakoso หลังจากการขายโครงการในไตรมาส 4/2567

ข้อสังเกต: คาดการณ์กำไร Q1/2568 ฟื้นตัว แต่ยังคง Underperform

ถึงแม้ว่าเอเซีย พลัสคาดการณ์ว่ากำไรปกติในไตรมาส 1/2568 จะฟื้นตัว QoQ จากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลในประเทศไทยและสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้าในจีนที่ยังทรงตัวสูง แต่ยังคงคำแนะนำ Underperform เนื่องจากงบไตรมาส 4/2567 ที่อ่อนแอและแนวโน้มกำไรระยะยาวที่ลดลงตามโครงสร้างสัญญา IPP

สรุปและคำแนะนำ: จ่ายปันผล แต่แนะสับเปลี่ยนไปยังโรงไฟฟ้าอื่น

BPP ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2567 ที่ 0.3 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield ครึ่งปีหลังที่ 3.8% (ทั้งปี 2567 จ่าย 0.6 บาท คิดเป็น dividend yield ปี 2567 ที่ 7.6%) อย่างไรก็ตาม เอเซีย พลัสแนะนำให้สับเปลี่ยนไปยังโรงไฟฟ้าอื่นที่เห็นการเติบโตจะปลอดภัยกว่า โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.85 บาท

นักวิเคราะห์จากเอเซีย พลัส: นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ และ ธัญญา อุดม