บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TAKUNI พลิกขาดทุน! ปี 67 รายได้โต แต่เจอพิษด้อยค่า ฉุดกำไรวูบ
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.37 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: รายได้รวมโต 7.20% แต่ขาดทุนสุทธิ 369.35 ล้านบาท เหตุด้อยค่า
บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เผยผลประกอบการปี 2567 รายได้รวมจากการขาย ก่อสร้าง และบริการอยู่ที่ 4,203.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.20% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทประสบภาวะขาดทุนสุทธิ 369.35 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 ในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับ หากไม่รวมรายการพิเศษเหล่านี้ บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 175.50 ล้านบาท
รายได้และกำไร: รายได้หลักโต แต่ค่าใช้จ่ายพุ่ง ฉุดกำไร
รายได้รวมของ TAKUNI ในปี 2567 มาจากธุรกิจก่อสร้างและการให้บริการเป็นหลัก คิดเป็น 91.99% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากการขาย (ธุรกิจขายแก๊ส) คิดเป็น 8.01% แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทกลับประสบภาวะขาดทุนสุทธิ เนื่องจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 จำนวน 548.72 ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 86.34 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 471.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.76% แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 250.56%
สินทรัพย์และหนี้สิน: สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินพุ่ง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูง
ณ สิ้นปี 2567 สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 3,568.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.05% จากปีก่อนหน้า โดยสินทรัพย์หมุนเวียนส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น ในขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 2,321.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 60.56% โดยหนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้าและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) สูงถึง 1.86 เท่า
สรุปและข้อสังเกต: บริหารจัดการหนี้สิน-ควบคุมค่าใช้จ่าย กุญแจสำคัญสู่การเติบโต
TAKUNI มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นในปี 2567 แต่ประสบภาวะขาดทุนสุทธิเนื่องจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่า หนี้สินของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.86 เท่า การจัดการความเสี่ยงและโอกาสในอนาคต รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตของบริษัท ข้อสังเกต: บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนที่สูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง การบริหารจัดการกระแสเงินสดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง