https://aio.panphol.com/assets/images/community/2277_29BCB7.png

BGRIM กำไร Q4 พุ่ง 69.2% แต่ภาพรวมปี 67 กำไรลดลง 17.6%

P/E 18.25 YIELD 3.94 ราคา 10.90 (0.93%)

ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q4/67 โตเด่น แต่รายได้รวมทั้งปีลดลงเล็กน้อย

BGRIM ประกาศผลประกอบการปี 2567: กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 1,557 ล้านบาท ลดลง 17.6% จากปีก่อนหน้า แต่ในไตรมาส 4 ปี 2567 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 787 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 69.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 ถึงแม้รายได้รวมทั้งปีจะลดลง 2.2% เหลือ 55,853 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 4 มีรายได้รวม 13,358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8%

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้รวม ได้แก่ ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยที่ลดลงให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ในประเทศไทย รวมถึงปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้ลูกค้า IU ในไทยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้ กฟผ. และลูกค้า IU ในเวียดนามที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปริมาณขายไอน้ำที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการให้บริการที่สูงขึ้น ช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว

ผลกระทบจากเศรษฐกิจ: ราคาก๊าซลด แต่ความต้องการไฟฟ้าในไทยแผ่ว

ราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยลดลง 14.2% ส่งผลให้ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ กฟผ. ลดลงตามไปด้วย ความต้องการไฟฟ้าจากลูกค้า IU ในประเทศไทยลดลงในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ในขณะที่ความต้องการจากลูกค้า IU ในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อกำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนหลักจากภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน

ต้นทุนและกำไร: คุมต้นทุนก๊าซอยู่ แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่ม

ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง 7.4% เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติที่ลดลง และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่ดีขึ้น แต่ต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น 18.0% เนื่องจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ และการรวมผลประกอบการของ Rajburi Energy หลังจากเข้าซื้อกิจการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 12.6% จากการขยายธุรกิจในหลากหลายประเทศ และรายการตัดจำหน่ายของบางโครงการ อัตรากำไรขั้นต้น (พิจารณาจาก EBITDA) ในปี 2567 อยู่ที่ 26.8% เพิ่มขึ้น จาก 25.1% ในปี 2566 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น กำไรสุทธิจากการดำเนินงานส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในปี 2567 เติบโต 5.8% เป็น 2,227 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สินทรัพย์และหนี้สิน: สินทรัพย์เพิ่ม แต่หนี้สินก็เพิ่มตาม

สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 2.2% เป็น 180,901 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลงทุนในบริษัทร่วม และเงินให้กู้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 5.1% เป็น 115,753 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการออกหุ้นกู้และการกู้ยืมระยะสั้น ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 2.0% เป็น 51,672 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดลงของกำไรสะสมและองค์ประกอบอื่นของส่วนของเจ้าของ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1.86 เท่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567

โครงการในอนาคต: เดินหน้าขยายโรงไฟฟ้า

BGRIM มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายโครงการ ได้แก่ U-Tapao (Hybrid Power Plant), KOPOS Onshore Wind Farm, NAKWOL1 Offshore Wind Farm และ ARECO Solar Power Plant

สรุป: BGRIM ยังคงเติบโต แม้เจอความท้าทาย

BGRIM มีผลการดำเนินงานที่ผสมผสานในปี 2567 แม้ว่ารายได้รวมและกำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานยังคงเติบโตได้ บริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

โพสต์ล่าสุด
บทความ
เมื่อวาน 13:30 น.
No Title Found