บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ผลประกอบการปี 2567 สุดปัง! แม้เจอศึกหนักแข่งเดือดในตลาดถุงมือยาง

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรทะยานฟ้า ยอดขายทุบสถิติ

STGT โชว์ผลงานปี 2567 สุดอลังการ กำไรสุทธิพุ่งกระฉูด 551.9% แตะ 995.3 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 38,549 ล้านชิ้น แม้ต้องฟันฝ่าการแข่งขันดุเดือดในอุตสาหกรรมถุงมือยาง

รายได้รวมเติบโต: แรงหนุนจากปริมาณและราคาขาย

รายได้รวมปี 2567 ของ STGT เพิ่มขึ้น 27.1% แตะ 25,002.1 ล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักมาจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนไตรมาส 4/2567 โกยรายได้จากการขาย 6,773.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ปัจจัยบวก-ลบ: ภาษีนำเข้าหนุน ตลาด NBR สดใส

แม้ราคาน้ำยางที่เป็นวัตถุดิบหลักจะผันผวน แต่ STGT ได้อานิสงส์จากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าถุงมือยางของสหรัฐฯ สำหรับสินค้าจากจีน ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดบริโภคถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) ที่ใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) ของบราซิล ที่ STGT ได้รับอัตราภาษีต่ำสุด ยังส่งผลให้ยอดสั่งซื้อจากบราซิลเพิ่มขึ้น

วิเคราะห์เจาะลึก: อัตรากำไรขั้นต้นลดลง ต้นทุนพุ่งสูง

แม้รายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 27.1% ในปี 2567 แต่ต้นทุนขายก็เพิ่มขึ้นถึง 30.4% เนื่องจากราคาน้ำยางที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 10.9% เหลือ 8.7% อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 4.0% ในปี 2567 และ 8.2% ในไตรมาส 4/2567

สินทรัพย์-หนี้สิน: ลงทุนเพิ่ม กู้ยืมระยะสั้นสูงขึ้น

ณ สิ้นปี 2567 STGT มีสินทรัพย์รวม 48,918.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.0% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน หนี้สินรวมอยู่ที่ 10,397.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% สาเหตุหลักมาจากการกู้ยืมระยะสั้นที่สูงขึ้น

อนาคต STGT: ขยายตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ คว้าผู้นำ ESG

STGT วางกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินงาน ได้แก่ การเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Specially Gloves, การเพิ่มมูลค่าสินค้า, การขยายตลาดสู่ 190 ประเทศภายใน 2 ปี, การบริหารกำลังการผลิต, การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบ Automation และการรักษาความเป็นผู้นำด้าน ESG

สรุป: STGT แข็งแกร่ง แต่ต้องรับมือความท้าทาย

โดยรวมแล้ว STGT ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 2567 แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากภายนอก ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไร ได้แก่ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น การบริหารจัดการต้นทุน และอานิสงส์จากมาตรการทางภาษี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องรับมือกับความผันผวนของราคาน้ำยางและการแข่งขันที่รุนแรง การจัดการต้นทุน กลยุทธ์การตลาด และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดจึงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต