https://aio.panphol.com/assets/images/community/14095_32CA63.png

TOA: FSSIA ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 15.50 บาท คาดกำไร Q4/25 เติบโตต่อเนื่อง

P/E 10.53 YIELD 4.49 ราคา 13.70 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

  • FSSIA คาดการณ์กำไรปกติของ TOA ใน Q4/25 จะอยู่ที่ 690 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 6% q-q แต่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 41% y-y
  • บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2026 เติบโต 3-4% โดยมีปัจจัยหนุนจากตลาดต่างประเทศและการเพิ่มสินค้าใหม่
  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2025-2027 ขึ้น 5%/14%/15% สะท้อนการปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น
  • ปรับราคาเหมาะสมใหม่เป็น 15.50 บาท และปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ"

วิเคราะห์ผลประกอบการ Q4/25

FSSIA คาดการณ์ว่ายอดขายในประเทศของ TOA ใน Q4/25 จะทรงตัว แม้ว่าปกติแล้วจะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แต่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้ในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ยอดขายต่างประเทศยังคงมีโมเมนตัมที่ดี โดยเฉพาะจากเวียดนามและเมียนมาร์ นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ TiO2 ที่ลดลงเล็กน้อยและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังเป็นปัจจัยบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น

FSSIA คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/25 จะอยู่ที่ 38% เพิ่มขึ้นจาก 37.9% ใน Q3/25 และ 34% ใน Q4/24 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นจากการโฆษณาและการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายประจำปี จะส่งผลให้กำไรปกติใน Q4/25 อยู่ที่ 690 ล้านบาท ลดลง 6% q-q แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 41% y-y

เป้าหมายการเติบโตปี 2026

ผู้บริหารของ TOA ตั้งเป้ายอดขายปี 2026 เติบโต 3-4% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของยอดขายในประเทศและการขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่ใช่สี เช่น ยิปซัม ปูนฉาบเรียบ แปรงทาสี และสุขภัณฑ์ นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 10% y-y จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ประมาณการและคำแนะนำ

FSSIA ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2025-2027 ขึ้น 5%/14%/15% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น สะท้อนราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง คาดการณ์กำไรปกติปี 2025 จะอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+29% y-y) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ ส่วนปี 2026 คาดว่าจะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท (+2% y-y)

FSSIA ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2026 ที่ 15.50 บาท อิง PER 10x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย Forward PE2026 ของกลุ่มวัสดุก่อสร้างในประเทศและบริษัทสีในต่างประเทศ แม้ว่าการเติบโตของกำไรปี 2026 จะชะลอตัวลง แต่ราคาปัจจุบันยังมี Upside มากกว่า 10% ประกอบกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ 6% ต่อปี จึงปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"

โพสต์ล่าสุด