บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มีความชัดเจนด้านการลงทุนมากขึ้น หลังผู้บริหารเชื่อว่าแผน PDP 2025 น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักใน 5 ปีข้างหน้า โครงการปากแบงและปากลายเดินหน้าตามแผน คาดปิดงบได้ปลายปี 2568-ต้นปี 2569 และโครงการ LNG ปี 2575-76 เพิ่มความชัดเจนต่อการเติบโตระยะยาว

KS มอง "เชิงบวกเล็กน้อย" ปรับเพิ่มประมาณการกำไร

KS (บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี) มีมุมมอง "เชิงบวกเล็กน้อย" ต่อ GULF โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น 5% เป็น 2.83 หมื่นล้านบาท และคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่ง 9%/14% ในปี 2569/70 เป็น 3.06 หมื่นล้านบาท และ 3.53 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของกำไรจากโครงการต่างๆ เช่น โซลาร์ฟาร์ม 7 แห่ง, ปริมาณนำเข้า LNG ที่เพิ่มขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้า GSRC ที่สูงขึ้น และกำไรจากโครงการ data center

ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องติดตาม

ผู้บริหาร GULF มองอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนผลตอบแทน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าหาดีล M&A และพันธมิตรใหม่ โดยเน้นโครงการพลังงานหมุนเวียนในไทยเป็นลำดับแรก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่ต้องติดตามคือ โรงไฟฟ้า GSRC อาจล่าช้าหลายปี เนื่องจากขาดแคลนกังหันก๊าซ

สรุปและคำแนะนำ

KS ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ GULF ที่ 61.00 บาท โดยวิธีรวมส่วนของกิจการ (SOTP) โดยมองว่า GULF มีความน่าสนใจจากการขยายกำลังการผลิตที่แข็งแกร่งในช่วง 5 ปีข้างหน้า พร้อมศักยภาพสำหรับการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ กำลังพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมที่จ่ายปีละครั้ง ถือเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ถือหุ้น