บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

BGRIM มีประเด็นบวกหลายด้านรออยู่ ทั้งความต้องการไฟฟ้าจากลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนก๊าซที่ลดลง และความคืบหน้าของโครงการสำคัญต่างๆ เช่น Nakwol 1 รวมถึงธุรกิจใหม่อย่าง Data Center

ประเด็นสำคัญ

BGRIM คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบาย "Quick Big Win" ของภาครัฐ ซึ่งจะสร้างโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม 300-500 MW นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผน Asset Monetization ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ และจะดำเนินการต่อเนื่องทุกปีเพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับลงทุนในโครงการใหม่ๆ

รายละเอียดการวิเคราะห์

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" BGRIM โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16.40 บาท จากเดิม โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการรวมโครงการใหม่ๆ เข้ามาในประมาณการ และการปรับสมมติฐานอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ของธุรกิจ SPP ให้สูงขึ้นในระยะยาว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ต้นทุนก๊าซในไตรมาส 4/2568 จะอยู่ที่ 290 บาท/MMBTU ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และในปีหน้าจะอยู่ในช่วง 290-310 บาท/MMBTU ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ค่า Ft (ค่าไฟฟ้าผันแปร) คาดว่าจะคงที่ ซึ่งจะช่วยให้มาร์จิ้นของธุรกิจ SPP ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า

นอกจากนี้ BGRIM ยังได้อัปเดตความคืบหน้าของโครงการสำคัญต่างๆ ได้แก่ 1) Nakwol 1 (โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเกาหลีใต้) คืบหน้าไป 64% คาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาสนี้ 2) Huong Hoa 1 (โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม) คืบหน้าไป 57% คาดว่าจะ SCOD ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 และ 3) ARECO (โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในฟิลิปปินส์) คืบหน้าไป 99% คาดว่าจะ COD ในไตรมาสนี้

ข้อสังเกต

ธุรกิจใหม่อย่าง Data Center ได้เริ่มก่อสร้างเฟสแรกแล้ว 48 MW คาดว่าจะ SCOD ในช่วงปลายปีหน้า และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่ม Cloud และ AI ซึ่งจะทำสัญญาระยะยาว คาดว่าจะมีรายได้ 3-4 พันล้านบาทต่อปี และมีแผนพัฒนาเฟส 2 อีก 48 MW ต่อเนื่อง

BGRIM มองว่านโยบาย "Quick Big Win" ของกระทรวงพลังงานเป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า และคาดว่าจะสร้างโอกาสอย่างน้อย 300-500 MW ให้กับ BGRIM ผ่านโครงการต่างๆ เช่น Solar ชุมชน, Solar Floating ของ กฟผ., Direct PPA และ PDP ฉบับใหม่

สรุป

โดยรวมแล้ว แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่า BGRIM มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากหลายปัจจัยสนับสนุน และคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16.40 บาท