https://aio.panphol.com/assets/images/community/12893_452514.png

SAWAD: เอเซีย พลัส มองกำไร Q3/68 โตเล็กน้อย แต่ NPL ยังน่ากังวล คงคำแนะนำ "Neutral"

P/E 8.70 YIELD 0.14 ราคา 25.75 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

บล.เอเซีย พลัส (ASPS) วิเคราะห์ผลประกอบการ SAWAD โดยคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q68 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่มีประเด็นเรื่อง NPL ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง

ผลประกอบการ 3Q68: กำไรโต แต่คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่นิ่ง

SAWAD รายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 1.32 พันล้านบาท โต 4% QoQ (+2% YoY) โดยมีปัจจัยหนุนจาก Non-NII ที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้กำไรจากการ Mark to market หุ้น THAI จำนวน 86 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษนี้ Core business ทรงตัว QoQ อย่างไรก็ตาม NII ทรงตัว QoQ (-7% YoY) แม้สินเชื่อจะเติบโต 1% QoQ แต่ Loan spread ลดลงมาอยู่ที่ 13.2% จาก 13.4% ในงวดก่อนหน้า

ด้านค่าใช้จ่าย Cost to income ratio ทรงตัว QoQ ที่ 46% และ Credit cost ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.0% แต่คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดย NPL ขยับขึ้น 2% QoQ ส่งผลให้ NPL ratio เพิ่มเป็น 3.9% จาก 3.8% ณ สิ้นงวดก่อนหน้า ขณะที่ Coverage ratio ลดลงมาที่ 53% จาก 55%

ข้อสังเกตและมุมมอง

กำไรสุทธิ 9M68 คิดเป็น 81% ของประมาณการกำไรทั้งปีของ ASPS ที่ 4.6 พันล้านบาท (-9% YoY) แม้ประมาณการของ ASPS อาจมี Upside แต่การถูกปรับเพิ่มกำไรจากตลาดไม่น่าจะสูงมากนัก แม้ว่า Cost of fund ในงวดหน้าจะลดลงตามการออกหุ้นกู้ที่มีดอกเบี้ยต่ำลง แต่คุณภาพสินทรัพย์ที่ยังไม่นิ่ง ทำให้การลด Credit cost อาจถูกจำกัด และส่งผลต่อการเติบโตของกำไรในระยะถัดไป

เมื่อเทียบกับกลุ่ม ASPS มองว่า TIDLOR สามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดีกว่า โดยมี NPL ลดลงและ Coverage ratio เพิ่มขึ้น ตามด้วย MTC (NPL ทรงตัว และ Coverage ratio เพิ่มขึ้น) ในขณะที่ SAWAD ยังมี NPL ที่สูงขึ้น

คำแนะนำการลงทุน

ASPS ประเมินมูลค่า SAWAD ด้วยวิธี GGM โดยอิง ROE ที่ 12.8% และ COE ที่ 12.4% ได้ PBV ที่ 1 เท่า และปรับไปใช้ FV ปี 2569 ที่ 26 บาท (เทียบเท่า PER ที่ 9 เท่า) แม้ว่าระยะสั้นราคาหุ้นอาจตอบสนองเชิงลบจาก NPL ที่สูงขึ้น แต่ด้วย PER ที่ต่ำกว่ากลุ่ม ASPS จึงคงคำแนะนำ "Neutral" โดยยังคงชอบ TIDLOR และ MTC มากกว่า

โพสต์ล่าสุด