บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

FTI โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่โตถึง 61.99% คิดเป็น 32.35 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย 3.94% เหลือ 588.23 ล้านบาท

รายได้ลด แต่กำไรเพิ่มได้อย่างไร:

รายได้จากการขายสินค้าและบริการลดลง 3.94% จากยอดขายที่ลดลงในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม, เชิงพาณิชย์ และครัวเรือน สาเหตุหลักมาจากการบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาและนักท่องเที่ยวที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายที่ลดลง 6.16% จากการลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวแทนจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง 7.28% จากการลดค่าเสื่อมราคาและการควบคุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินยังลดลงถึง 60.91% จากการบริหารภาระหนี้ค่าสินค้า

สินทรัพย์และหนี้สิน:

สินทรัพย์รวมของ FTI ลดลงจากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากสินค้าคงเหลือและเงินมัดจำค่าสินค้าต่างประเทศที่ลดลง ในขณะที่หนี้สินรวมก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากการลดลงของเงินกู้ยืมระยะสั้น ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงาน

สรุปและข้อสังเกต:

แม้ว่า FTI จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทก็สามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่น ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลในไตรมาสอื่นๆ และรอบปี รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน