บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยโบรกเกอร์ PI คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ที่ราว 1.70-1.75 พันล้านบาท ขณะที่ NPL ratio ยังคงควบคุมได้ดีกว่าเป้าหมายที่ราว 2.5-2.6% ณ สิ้นปี 2568 ส่งผลให้ PI ยังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 48.00 บาท

ผลการวิเคราะห์

PI คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 จะอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+14% YoY, +3% QoQ) โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัวตามการขยายสินเชื่อ (+10% YoY, +4% QoQ) และการปรับลดลงของสำรองหนี้เสีย YoY จากความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) คาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง โดยคาดว่า NIM จะเพิ่มขึ้น 5 bps QoQ อยู่ที่ 14.1% (-51 bps YoY)

สำหรับแนวโน้มในอนาคต PI คาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตต่อเนื่อง 13% YoY โดยมีแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะที่ Credit cost มีแนวโน้มผ่อนคลายลงจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่า Credit cost จะลดลงอยู่ที่ 245/241 bps ในปี 2568-26 นอกจากนี้ ผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และชัดเจนมากขึ้นในปี 2569 ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้กำไรขยายตัว 2 หลักได้อย่างต่อเนื่องในปี 2569-27 ทำให้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง 13.5% CAGR (2568-27)

ข้อสังเกต

PI ประเมินมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 48.00 บาท (เดิม 45 บาท) โดยอิงจากการปรับปีฐานเป็นปี 2569 และคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 16%, Terminal growth 5%) อิงจาก 2.0x PBV’26E และ 13.5x PE’26E ทั้งนี้ แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่การควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ทำให้สามารถผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ลงได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยลดลงที่เริ่มเห็นต้นทุนทางการเงินลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ในไตรมาส 2/2568 และลดลงชัดเจนมากขึ้นในปี 2569

สรุป

MTC ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุน โดยมีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มกำไรที่เติบโตแข็งแกร่ง การควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี และอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน