บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

GPSC กลายเป็นหุ้นเด่นประจำไตรมาส 4/2568 ในกลุ่มพลังงาน จากการวิเคราะห์ของ KGI ที่มองเห็นปัจจัยหนุนการเติบโตที่แข็งแกร่ง พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 49 บาท จากเดิม 40 บาท

KGI คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-2570 จะเติบโต 21-28% โดยไตรมาส 3/2568 จะเป็นช่วงที่กำไรสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของ XPCL และมีกำไรจากการขายหุ้น Avaada แต่ไตรมาส 4/2568 อาจอ่อนตัวลงตามฤดูกาล

ปัจจัยที่ KGI มองข้ามช็อต

• ความคืบหน้าของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ของประเทศไทย
• การฟื้นตัวของส่วนต่างราคา SPP
• ปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีที่สูงเป็นประวัติการณ์
• โอกาสจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
• การเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่มีความเสี่ยงต่ำในกลุ่ม PTT

KGI ประเมินว่าทุกๆ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของ GPSC ได้ถึง 125 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากบริษัทมีหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูงถึง 43%

KGI ใช้วิธี DCF (Discounted Cash Flow) ในการประเมินมูลค่า GPSC โดยมี WACC (Weighted Average Cost of Capital) อยู่ที่ 6.1%

ความเสี่ยงที่ต้องจับตาคือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การหยุดซ่อมบำรุงนอกแผน ต้นทุนที่สูงเกินคาด และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย

KGI มองว่า GPSC มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจ SPP และโรงไฟฟ้าไซยะบุรี รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากการลงทุนเพิ่มเติม ทำให้ GPSC เป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว