บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
STECH อัปเดตผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พร้อมเปิดแผนรุกตลาดเสาเข็มและงานสาธารณูปโภค
P/E 5.08 YIELD 3.51 ราคา 0.97 (0.00%)
STECH อัปเดตผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พร้อมเปิดแผนรุกตลาดเสาเข็มและงานสาธารณูปโภค
สวัสดีครับ ขอต้อนรับนักลงทุน นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชนทุกท่าน เข้าสู่งาน Oppday ของบริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 วันนี้เราจะมาอัปเดตสถานการณ์ ประเด็นสำคัญ และความก้าวหน้าของบริษัทให้ทุกท่านได้รับทราบ
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH ได้มีการนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ โดยมีประเด็นหลักที่น่าสนใจดังนี้:
การเติบโตของธุรกิจ: STECH มุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงที่ใช้ในโครงการสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงการลงทุนจากภาคเอกชน
ความต้องการของตลาด: ประเทศไทยมีชั้นดินที่อ่อนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การก่อสร้างทุกประเภทจำเป็นต้องใช้เสาเข็ม ซึ่ง STECH มีผลิตภัณฑ์เสาเข็มที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้
งานโครงสร้างพื้นฐาน: STECH มีส่วนร่วมในงานอินฟา งานทางด่วน ทางหลวง สะพาน และเขื่อน โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ เสาเข็มและคานสะพาน (Girders)
ผลิตภัณฑ์เฉพาะ: STECH มีเสาเข็มสปันที่ใช้ในงานเฉพาะ เช่น มอเตอร์เวย์บางปิน-โคราช และงานคอนโดในเมือง
งานสาธารณูปโภค: STECH มีส่วนร่วมในการติดตั้งเสาไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบเสาไฟฟ้า รวมถึงการเข้าร่วมประมูลโครงการติดตั้งเสาพาดสาย 115 KV ร่วมกับการไฟฟ้า
ผลิตภัณฑ์ต่อเติมบ้าน: STECH มีเสาเข็มไมโครไพล์ที่ใช้ Know-how เดียวกันกับเสาเข็มขนาดใหญ่ โดยใช้วัสดุและทีมงานเดียวกัน
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
STECH เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตจาก:
การขยายตลาดเสาเข็มไมโครไพล์: โดยเน้นคุณภาพเดียวกันกับเสาเข็มที่ใช้ในงานขนาดใหญ่ เพื่อรองรับงานอาคาร คอนโด และการต่อเติมบ้าน
โครงการก่อสร้างภาครัฐและเอกชน: ที่ยังคงมีความต้องการเสาเข็มและผลิตภัณฑ์คอนกรีตอย่างต่อเนื่อง
การบริการขนส่งและติดตั้ง: STECH มีเครื่องจักรและรถที่ครบครัน พร้อมให้บริการขนส่งและติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนด
งานรับเหมาก่อสร้าง 115 KV: STECH มีผลงานและเตรียมเข้าประมูลงานจากการไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงและปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญ
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
STECH มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบโดย:
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด: เช่น เสาเข็มไมโครไพล์ที่ใช้คุณภาพเดียวกับงานขนาดใหญ่
การให้บริการที่ครบวงจร: ทั้งการผลิต ขนส่ง และติดตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
การเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง: เพื่อสร้างรายได้และขยายฐานลูกค้า
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้มและอนาคตของ STECH มีดังนี้:
การเติบโตอย่างต่อเนื่อง: จากความต้องการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคของประเทศ
การขยายตลาดไปยังภาคใต้: โดยการลงทุนในโรงงานวังคอนกรีต
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ: เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม นาทีที่ 20.02 ]
-
การเติบโตของ STECH ในปี 2568
ผู้บริหารได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการเติบโตของ STECH ในปี 2568 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเอกชน รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่เพิ่มขึ้น
-
แผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
ผู้บริหารได้กล่าวถึงแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศในอนาคต โดยจะเน้นการศึกษาตลาดและหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม
-
ผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ผันผวน
ผู้บริหารได้ตอบคำถามเกี่ยวกับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ผันผวน โดย STECH มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยง
-
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
ผู้บริหารได้กล่าวถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ STECH โดยจะพิจารณาจากผลประกอบการและกระแสเงินสดของบริษัท
-
การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ
ผู้บริหารได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ โดย STECH มีการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน
โดยรวมแล้ว STECH มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีต โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การให้บริการที่ครบวงจร และการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง