บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GULF โชว์ผลงาน Q2/2568 สุดปัง! กำไรพุ่งกระฉูด พร้อมลุยพลังงานสะอาดเต็มสูบ
P/E 7.39 YIELD 0.00 ราคา 40.50 (0.00%)
GULF โชว์ผลงาน Q2/2568 สุดปัง! กำไรพุ่งกระฉูด พร้อมลุยพลังงานสะอาดเต็มสูบ
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เป็นไปตามคาดการณ์และดีกว่าที่คาดไว้
- Core Profit อยู่ที่ประมาณ 7,100 ล้านบาท โตขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year)
- Net Profit กำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณเกือบ 64,000 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการควบรวมประมาณ 56,000 ล้านบาท
- Core Profit ที่เติบโตขึ้นมาจากหลายปัจจัย:
- โครงการ GPD (Gulf PD) หรือ Gulf ปลวกแดง ซึ่งเป็น IPP 2,650 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน COD ครบไปแล้วทั้ง 4 ยูนิต
- โครงการหินกอง Power ซึ่งเป็น IPP 1,540 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการครบไปแล้วทั้ง 2 ยูนิต
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนในประเทศ มี Solar Farm, Solar Battery ทั้งหมด 5 โครงการ ที่เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ธันวาคมปีที่ผ่านมา ประมาณ 532 Install เมกะวัตต์ ทำให้รับรู้กำไรได้เต็มไตรมาส
- บริษัท AS ซึ่งปัจจุบัน GULF ถือหุ้นตรง 40% ผลประกอบการดีขึ้นค่อนข้างเยอะ จาก ARPU ที่เพิ่มมากขึ้น และต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดน้อยลง
- โครงการ Jackson เป็นโรงไฟฟ้า Merchant Plant ที่อเมริกา 1,200 เมกะวัตต์ มีกำไรที่เพิ่มขึ้น Turn เป็นบวกเยอะมาก จาก Capacity Price ที่สูงขึ้น เนื่องจาก Demand ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่อเมริกาเพิ่มมากขึ้นจาก Data Center
กำไรจะลดลงมาจากโครงการ SPP เนื่องมาจากการที่ ปตท. ได้มีการเรียกเก็บค่าส่วนต่างค่าแก๊สย้อนหลัง
เมื่อช่วงปลายปี 2566 รัฐบาลต้องการตรึงค่าไฟให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย เพื่อช่วยเหลือประชาชน ตอนนั้นค่าแก๊สได้สูงขึ้นถึงประมาณ 350 บาท แต่ ปตท. คิดค่าแก๊สเพียง 305 บาทต่อหน่วย
ปีนี้ กกพ. มีมติให้ ปตท. เก็บเรียกค่าส่วนต่างของค่าแก๊สย้อนหลัง ทำให้โครงการต้องมีการบุ๊กส่วนต่างของตรงนี้เข้าทั้งหมดในไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากในส่วนที่ขายไฟให้ EGAT จะไม่กระทบ เนื่องจากโครงสร้างเป็นลักษณะของ Pass-Through Model จะมีส่วนที่กระทบในส่วนที่เป็นลูกค้าอุตสาหกรรมเท่านั้น
GULF ขายไฟให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเพียงแค่ 6% จากการขายไฟทั้งหมด 94% ขายให้ EGAT เพราะฉะนั้นตรงนี้ถือว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อย
จะมีเรื่องของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อย่างเช่น โกคุ่ม ที่เป็นช่วงของ Low Season ในไตรมาสที่ 2 ที่จะมีผลกระทบต่อกำไร แต่โดยภาพรวมแล้ว ผลประกอบการก็ดีกว่าที่คาดไว้
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**GULF มี Activity เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เข้าไปมีการลงทุน เข้าร่วมทุนในลักษณะของ M&A มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
บริษัทได้เข้าไปซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดหลายโครงการ ทั้งนี้เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมายของการเข้าสู่ Net Zero Emission ภายในปี 2593 โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่า 40% ของพอร์ตทั้งหมดภายในปี 2578 ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว
- ได้เข้าไปซื้อหุ้น 50% ในโครงการ Solar Farm, Solar Battery ทั้งหมด 9 โครงการจากบริษัท กันกุล ทั้งหมดก็ 460 เมกะวัตต์ เป็น PPA เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2569 ถึงปี 2573 ตรงนี้ GULF สามารถที่จะรับรู้กำไรตามสัดส่วนที่ถือ 50% คาดว่าประมาณเกือบๆ 400 ล้านบาทต่อปี ภายหลังปี 2573
- ได้เข้าไปลงทุน 50% ในบริษัท Blue Sky Wind Power Holding ซึ่งถือหุ้น 100% ในโครงการพลังงานลม มีทั้ง 5 โครงการ รวมทั้งหมด 437 เมกะวัตต์ COD อันนี้จะเริ่มตั้งแต่ปี 2577 เรื่อยไปจนกระทั่งปี 2573 ซึ่งมองว่า GULF สามารถรับรู้กำไรตามสัดส่วนที่ถือหุ้น 50% คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 650 ล้านบาทต่อปี ภายหลังจากปี 2573
- เข้าไปซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 12 โรง และ SRF อีก 3 โรง จาก Partner ก็คือจาก BWG จาก ETC และจาก Westech ทำให้ปัจจุบัน GULF ถือหุ้น 100% ในโครงการดังกล่าวทั้งหมด โรงไฟฟ้าขยะ 12 โรง ก็คือประมาณ 96 เมกะวัตต์ PPA เมกะวัตต์ ตรงนี้จะทำให้ GULF คาดว่าจะรับรู้กำไรได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี หลัง COD ครบทุกโครงการ
- ได้เข้าซื้อหุ้นตัว AAB (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น GAAS แล้ว) เพิ่มอีก 10% จากเดิมที่ถือ 40% ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 50% ร่วมกับ AIS ในการทำธุรกิจ Cloud มีทั้ง Public Cloud และ Private Cloud ผ่านการร่วมมือกับทาง Google และทาง Oracle Aloy
- ลงทุนในโครงการ LNG Terminal Phase 3 คือ Gulf Map Ta Phut หรือ GMTP ได้มีการลงนาม PPP กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนานแล้ว 35 ปี ปัจจุบันก็ถมทะเลเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง LNG Terminal ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ Q1 ปี 2572 เป้าหมายลูกค้า หรือ Offtaker ก็คือ ผู้ที่ได้รับ Shipper License ของการนำเข้า LNG รวมถึงบริษัทในกลุ่มของ GULF ก็คือ Gulf LNG และก็ หินกอง Holding ที่มีแนวโน้มในการนำเข้า LNG อย่างต่อเนื่องเลย เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าในกลุ่ม ทั้ง IPP และ SPP
- โครงการ SPP มีความเสี่ยงจากการเรียกเก็บค่าแก๊สย้อนหลัง
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อย่างเช่น โกคุ่ม มีความเสี่ยงจากช่วง Low Season ในไตรมาสที่ 2
GULF พยายามที่จะลดผลกระทบจากความเสี่ยงต่างๆ โดย:
- ในส่วนของโครงการ SPP ผลกระทบจะจำกัดเฉพาะลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนน้อย
- ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง High Season ในไตรมาสที่ 4
GULF ยังคงประมาณรายได้ที่จะเติบโตขึ้นอยู่ที่ 25% จากปี 2567 และมองว่า EBITDA คาดว่าจะโตขึ้นอีก 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมี New Capacity ใหม่ๆ ที่จะเปิดดำเนินการอีกประมาณ 597 เมกะวัตต์ มีทั้ง Solar Farm 5 โครงการ และ Solar Battery อีก 2 โครงการ รวมทั้งสิ้นเป็น 7 โครงการ ที่จะเปิดดำเนินการในช่วงพฤศจิกายน และธันวาคมของปีนี้
- เรื่องของโรงไฟฟ้า Jackson ที่อเมริกา 1,200 เมกะวัตต์ จะมีรายได้จากตัว Capacity Price ที่เพิ่มขึ้น จากเดิม 29 ดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์เดย์ เพิ่มขึ้นมาเป็น 270 ดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์เดย์ ตั้งแต่มิถุนายนนี้เป็นต้นไป จนกระทั่งถึงพฤษภาคมปี 2569 ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะมีรายได้จากตัว CP เพิ่มขึ้นมาก
- ช่วงของกลางปี 2569 ถึงพฤษภาคมปี 2570 ตัว CP ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 329 เหรียญต่อเมกะวัตต์เดย์ ตรงนี้จะทำให้กำไรของ GULF เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ล้านบาทต่อปี
- ครึ่งปีหลัง โครงการพวกพลังงานลมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โกคุ่ม หรือ กราฟ กันกุล ก็คือ 3 โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ Partner กับ กันกุล ก็จะเป็นช่วง High Season ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะทำให้มี Wind Speed ที่ดีด้วย
- ธุรกิจนำเข้า LNG ตัวเลข LNG ของเรา 6 เดือนแรกของปีนี้ เราได้นำเข้า LNG มาแล้ว 32 ลำ ประมาณ 2.1 ล้านตัน เพื่อนำไปใช้ในโครงการ IPP 5,000 เมกะวัตต์ GSRC GPD และก็ โรงไฟฟ้าหินกอง ด้วย ครึ่งปีหลัง คาดว่าจะนำเข้า LNG มาอีกประมาณ 30 ลำ ก็อีกประมาณ 2 ล้านตัน ตรงนี้ก็สามารถที่จะรับรู้รายได้ Shipping Fee เพิ่มขึ้นไปอีก
- AS คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังก็จะโตขึ้นไปอีก จาก ARPU ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก AIS ก็มีการ Offer ตัว High Value Package ให้กับลูกค้า เช่น การเสนอเรื่อง Content ต่างๆ ด้านกีฬา เช่น พวก EPL English Premier League, NFL ก็ทำให้สามารถที่จะมี ARPU ที่เพิ่มขึ้น คาดว่าค่าใช้จ่ายของ AIS ก็จะลดลงมาอีก หลักๆ มาจากการ Saving เรื่องของ Spectrum Cost สำหรับคลื่น 2,100 MHz ที่เพิ่งบิดไป ซึ่งตรงนี้คาดว่า AIS สามารถที่จะ Save ตัวค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ประมาณเกือบๆ 3,000 ล้านบาทต่อปี
- ปัจจุบันต้นทุนดอกเบี้ยลดลง แนวโน้มดอกเบี้ยในตลาดก็ลดลง บริษัทก็มีแผนการที่จะออกหุ้นกู้ อีก 30,000 ล้านบาท ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุน ทั้งสถาบัน High Net Worth และก็ขายให้กับประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และก็ใช้ในการขยายธุรกิจต่อไป ซึ่งจะออกหุ้นกู้ ทั้ง 3 ปี 5 ปี 7 ปี แล้วก็ 10 ปี ซึ่งตรงนี้จะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทลดลงไปได้อีก
- เรื่องของ Data Center ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก็คือ GA 01 25 เมกะวัตต์
GULF ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานหมุนเวียนในประเทศ มีแผนการที่จะซื้อโรงไฟฟ้า Solar, โรงไฟฟ้า Solar Battery, โรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มเติมอีก และมีแผนการที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าเขื่อนอีกมากมาย สำหรับธุรกิจ Data Center ก็ยังมีแผนการที่จะขยายไปอีก Phase 2, Phase 3, Phase 4 ซึ่งมีตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะให้ได้ 200-300 เมกะวัตต์ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
ธุรกิจ Data Center หรือ ธุรกิจ Cloud ปัจจุบัน เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างมาก จากการใช้ Data ที่เพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เริ่มหันมาใช้ Social Media กันมากขึ้น เริ่มหันมาใช้ Online Platform กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Shopee, Lazada, Facebook, Google ต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูล และก็ต้องมี Data Center ในการเก็บข้อมูล องค์กรธุรกิจในปัจจุบัน กำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็น Public Sector หรือ Private Sector ทำให้ความต้องการใช้ Data เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะพวก Key Sector ต่างๆ อย่างพวก Financial Service, Healthcare, E-Commerce, พวก Utility ต่างๆ จำเป็นต้องใช้พวก Big Data พวก AI Machine Learning IoT ต่างๆ ซึ่งตรงนี้จำเป็นต้องใช้ Cloud ในการประมวลผล แล้วก็ต้องมาจัดเก็บที่ Data Center องค์กรต่างๆ ปัจจุบันเอา AI เข้ามา เพื่อมา Improve Productivity เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร AI จริงๆ ไม่ได้มี เพียงแค่ แชทบอท Application ไม่ได้มีแค่ แชท GPT Google Gemini หรือ อะไรต่างๆ จริงๆ แล้วยังหมายถึง เรื่อง Automation ต่างๆ หมายถึง ตัว Facial Recognition, Image Recognition พวก Biometric ต่างๆ ซึ่งตรงนี้ Workload ของ AI ก็จะใช้ GPU ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งต้องใช้พลังงานมหาศาล เป็น High Computing Power ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งก็ต้องใช้ Data Center ในการที่เก็บข้อมูล
นอกเหนือจาก Demand การใช้ Data ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายแล้ว มองว่าประเทศไทยเป็นจุดแข็งในการที่จะเป็น Hub ของ Data Center ซึ่งสามารถที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ด้วย เนื่องจากประเทศไทยเป็น Strategic Location คือ ประเทศไทยเราเป็น Gateway ของ CLMV เป็น Center ของ South East Asia มี Strategic Location ที่ดี มี Infrastructure ที่พร้อม มีที่ดิน มี Land Supply อยู่มากมาย ทั้งในนิคม และก็นอกนิคมอุตสาหกรรม มีน้ำ มีไฟ Infrastructure ต้องบอกว่าพร้อม Network Connectivity ประเทศไทยมี Network Connectivity ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น 5G WiFi หรือ Fiber Optic ซึ่งตรงนี้ทำให้การส่งผ่านข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็วไม่สะดุด มี Low Latency มี Submarine Cable Landing Station ซึ่งประเทศไทยปัจจุบันมีจุดเชื่อมอยู่ 4 จุด มีที่ภาคใต้ คือ สงขลา สตูล แล้วก็ ภาคตะวันออกก็จะอยู่ ที่ศรีราชา ระยอง มีระบบของ Submarine Cable System ที่เพียงพอ ซึ่งทำให้การส่งผ่านข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว เป็น High Speed Connection
คนที่จะเข้ามาลงทุน Data Center ต้องการไฟฟ้าที่เสถียร ต้องการไฟฟ้าที่ราคาถูก ราคาเสถียร แล้วก็อยากได้พลังงานสะอาดด้วย ซึ่งประเทศไทยมีพลังงานสะอาดมากมาย ซึ่งสามารถที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนด้วย นอกจากนี้การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของ Tax Incentive รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับผู้ประกอบการ Data Center โดย Data Center ในกลุ่มของเราก็ได้รับการยกเว้นภาษี Corporate Income Tax จาก BOI เป็นระยะเวลา 8 ปีแรก และก็ได้รับการยกเว้นภาษีอีกครึ่งหนึ่ง เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากที่หมด 8 ปีแรก ก็คือ 13 ปีเลย รวมทั้งหมด และก็ได้รับการยกเว้นเรื่องของ Import Duty ในการนำเข้าพวก Equipment Machinery ต่างๆ
ในอนาคต เรื่องของ Data Sovereignty เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามีการ impose Data Sovereignty Law เกิดขึ้น ซึ่งข้อมูล พวก Sensitive ข้อมูลต่างๆ พวก Confidential Data ต่างๆ จำเป็นต้องเก็บในประเทศ ต้อง Process ในประเทศ มันเป็นเรื่องของความมั่นคง ก็จะทำให้ Demand ของ Cloud Demand ของ Data Center เติบโต ขึ้นไปอีก ซึ่งตรงนี้มองว่าเป็นสิ่งผลักดันให้ประเทศไทยสามารถที่เป็น Destination ของ Data Center ในภูมิภาคนี้ด้วย ก็คือ มีที่ดิน มีพลังงานสะอาด มี Connectivity มีการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ Demand การใช้ Data ในประเทศที่เติบโตขึ้นมาก จากองค์กรธุรกิจ จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โดย โดยเฉพาะการใช้ AI ที่เข้ามา แล้วเนื่องจาก GULF อยู่ในธุรกิจพลังงาน ทำให้มี Synergy กับธุรกิจ Data Center เพื่อที่จะ เพราะว่า Data Center ต้องการใช้ไฟมหาศาล ซึ่งตรงนี้มองว่า อยากที่จะพัฒนา และก็เติบโตเรื่อง Data Center ต่อไปในอนาคตด้วย
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** **[เริ่ม Q&A ที่นาที 42:28]**- **ปันผลระหว่างกาล:**
- **คำถาม:** GULF จะมีการปันผลระหว่างกาลหรือไม่?
- **คำตอบ:** เรื่องเงินปันผล เราดูอยู่เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการของบริษัท
- **การนำเข้าแก๊สจากอเมริกา:**
- **คำถาม:** GULF มีแผนการนำเข้าแก๊สที่อเมริกาด้วยหรือไม่?
- **คำตอบ:** เรามีการนำเข้าแก๊สที่อเมริกาอยู่แล้ว เรามีหลายประเทศเลย ทั้งอเมริกา, แอฟริกา, ออสเตรเลีย, Middle East
- **การลงทุนเพิ่มเติมในอเมริกา:**
- **คำถาม:** มีการลงทุนเพิ่มเติมที่อเมริกาหรือไม่?
- **คำตอบ:** กำลังศึกษาโครงการหลายโครงการที่อเมริกา ทั้งพลังงานหมุนเวียน ทั้งโรงไฟฟ้าแก๊ส ซึ่งถ้าเราได้ข้อสรุป ก็คงจะแจ้งให้นักลงทุนทราบต่อไป
- **การเติบโตของรายได้ในอนาคต:**
- **คำถาม:** จากนี้ไปอีก 5 ปี GULF ยังคงรักษาการเติบโตของรายได้ที่ระดับ 15-20% หรือไม่?
- **คำตอบ:** เราพยายามจะสร้างการเติบโตอยู่แล้ว เพราะเรามีโครงการใหม่ๆ เปิดดำเนินการทุกๆ ปีเลย จากนี้ไปจนกระทั่งถึงปี 2576 GULF จะมีการเปิดดำเนินการโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศ พวก Solar, Solar Bat, Wind แล้วก็จะมีการเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าเขื่อนด้วย ตั้งแต่ปี 2573, 2575, 2576 ระหว่างนี้เราก็ยังมีโครงการโรงไฟฟ้ามาบตาพุด ที่จะเปิดดำเนินการ ในปี 2572 มี Container Port แหลมฉบังก็จะเปิดดำเนินการไป เพราะฉะนั้นเรามี Growth ตลอดเวลาจากวันนี้ไปถึงอีก 8 ปี 9 ปีข้างหน้าด้วยซ้ำ
- **ความคืบหน้าของ Binance:**
- **คำถาม:** Binance ไปได้ดีไหม?
- **คำตอบ:** Binance ก็ไปได้ดี ตอนนี้ Market Share อยู่ที่ 30% แล้ว และก็มีเหรียญเข้าไป List เหรียญ เข้าใจว่าประมาณ 370 เหรียญแล้วใน Platform ของเรา
โดยสรุป GULF ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต จากการลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการพลังงานสะอาด และธุรกิจ Data Center ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก