สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีผลกำไรสุทธิ 71.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2566 ที่มีผลขาดทุน 60.29 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 218.69% รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 647.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 720.50% จากไตรมาส 3/2566 โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์มที่เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 1,446.26% และ 3,164.98% ตามลำดับ นอกจากนี้ราคาขายของน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์มเฉลี่ยต่อหน่วยยังเพิ่มขึ้นอีก 6.69% และ 18.01% ตามลำดับ ส่วนต้นทุนขายปรับเพิ่มขึ้น 372.00% ตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้น 105.58 ล้านบาท คิดเป็น 16.30% ของรายได้ เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนสินค้าคงเหลือต่ำกว่าที่ผ่านมาจากปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทมีการใช้ประโยชน์ในสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตและลดต้นทุนการสูญเสียจากการผลิต

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ VPO ในอนาคตเน้นการติดตามสถานการณ์ตลาดน้ำมันปาล์มทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยบริษัทคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูงในระยะสั้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันของอินโดนีเซียและมาเลเซียมีแนวโน้มลดลง รวมถึงผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ราคาอาจปรับตัวลงในระยะยาว เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองจำนวนมากส่งผลให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ อินเดียได้เพิ่มพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์ในการนำเข้าน้ำมันปาล์มน้อยลง ในส่วนของตลาดน้ำมันปาล์มในประเทศ ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ราคาผลปาล์มอาจสูงขึ้นจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น บริษัทยังคงต้องติดตามสภาพอากาศ ปรากฏการณ์ลานีญาที่อาจมีผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ หรือในช่วงปีถัดไป

VPO มี D/E 0.45 ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ VPO อยู่ที่ 1.14 บาท P/E เท่ากับ -100 และ P/BV เท่ากับ 1.5 บ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อ VPO ค่อนข้างต่ำ แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 ของ VPO จะดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ P/E ที่เป็นลบ และ P/BV ที่ต่ำกว่า 1 หมายถึงนักลงทุนมองว่า VPO มีความเสี่ยงสูง และราคาหุ้นไม่น่าจะเติบโตในอนาคต วงจรเงินสดของ VPO เท่ากับ 29.9 แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน เท่ากับ -43.297452 ล้านบาท แสดงถึงการที่บริษัทใช้เงินสดจากการดำเนินงานเพื่อชำระหนี้สินหรือลงทุนในโครงการใหม่ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน เท่ากับ -12.649583 ล้านบาท แสดงถึงการที่บริษัทนำเงินสดไปใช้เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ถาวร จากข้อมูลดังกล่าว VPO อาจไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อรับเงินปันผล เนื่องจาก YIELD อยู่ที่ 0% นอกจากนี้ P/E และ P/BV ที่ต่ำบ่งบอกถึงความเสี่ยงสูง ดังนั้น VPO อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น หรือลงทุนในลักษณะของ “Value Investing”

**โอกาส**

* ราคาขายของน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
* การใช้ประโยชน์ในสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตและลดต้นทุนการสูญเสียจากการผลิต
* การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
* เทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปน้ำมันปาล์มที่ทันสมัย

**ความเสี่ยง**

* ความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม
* ปัญหาเรื่องผลผลิตปาล์มน้ำมัน
* ผลกระทบจากสภาพอากาศ