สรุปงบล่าสุด UPF
บริษัท ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท ยูเนียนไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน) (UPF)
บริษัท ยูเนียนไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UPF ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 2.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมในไตรมาส 2/2567 มีจำนวน 924.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 54 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรก มีจำนวน 5,741.63 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 54 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศมีการชะลอตัวลง เนื่องจากลูกค้ามีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่วนต้นทุนขายในไตรมาส 2/2567 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 43 ล้านบาท และ 15 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากราคายางสังเคราะห์ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตมีการปรับตัวลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 6 เดือน มีจำนวน 3,425.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 541 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการปรับลดจำนวนพนักงาน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานลดลง
ในส่วนแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ "Venus" ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2567 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนในระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัทฯ มี D/E อยู่ที่ 0.39 หมายถึง บริษัทมีหนี้สินน้อยกว่าทุน เป็นผลดีต่อความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ข้อมูล P/E ล่าสุด 17.22 บ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อกำไรในอนาคต ราคาเฉลี่ยหุ้นย้อนหลังแสดงให้เห็นถึงการผันผวนของราคาหุ้นอย่างมาก ข้อมูล YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 2.65% ถือว่าไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อรับเงินปันผล เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน “เป็นบวก” แสดงถึงความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน “ติดลบ” แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ นำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
**โอกาส**
* บริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ
* บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
* บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
* บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนในระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
**ความเสี่ยง**
* เศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศ
* ราคายางสังเคราะห์อาจปรับตัวสูงขึ้น
* การแข่งขันในตลาดอาจรุนแรงขึ้น
**สรุป**
บริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไร และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน แต่ราคาหุ้นในอดีตมีความผันผวนสูง และ YIELD ไม่น่าสนใจ ดังนั้น หากนักลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ และต้องการรับเงินปันผล อาจไม่เหมาะกับการลงทุนใน UPF แต่หากนักลงทุนมีความเสี่ยงสูง และมีความอดทนในระยะยาว การลงทุนใน UPF อาจเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของธุรกิจ และมีความอดทนต่อความผันผวนของราคาหุ้น
(11.37%)
(1.38%)
(17.16%)
(109.41%)
(6.54%)
(112.30%)
(3.22%)
(1.64%)
(65.86%)
(134.67%)
(149.45%)
(124.71%)