สรุปงบล่าสุด TYCN
บริษัทไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัทไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TYCN ในไตรมาส 3/2567 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 189 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายลดลง 521 ล้านบาท หรือ 32.60% เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ซบเซาส่งผลให้ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์เหล็กลดลง ในขณะที่ต้นทุนขายลดลง 255 ล้านบาท หรือ 17.45% เนื่องจากปริมาณการขายที่ลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงอย่างมากเหลือเพียง -12.05% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่ 8.51%
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการจัดการต้นทุน เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาเหล็กและความต้องการของตลาด บริษัทฯ อาจพิจารณาการขยายตลาดไปยังภูมิภาคใหม่ๆ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดิม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะฟื้นฟูผลประกอบการและกลับมาทำกำไรในปี 2568 โดยหวังว่าความต้องการของตลาดจะดีขึ้นและราคาวัตถุดิบจะลดลง
โดยสรุปแล้ว บริษัท TYCN ในไตรมาส 3/2567 มีผลประกอบการที่แย่ลงอย่างมาก โดยรายได้ลดลงและต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับติดลบ แสดงถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจที่รุนแรง ราคาหุ้นเฉลี่ยในปี 2567 อยู่ที่ระดับ 2.50 บาท ลดลงจากปี 2566 ที่ 3.50 บาท P/E ปัจจุบันติดลบ แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ D/E อยู่ที่ 0.52 แสดงถึงภาระหนี้สินที่ไม่สูงนัก แต่การที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ 278.62 ล้านบาท ในปี 2567 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ยังคงลงทุนในสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัว วงจรเงินสดของบริษัทฯ อยู่ที่ 123.16 วัน แสดงถึงการหมุนเวียนเงินสดที่ค่อนข้างช้า
โอกาสในการลงทุนใน TYCN อาจมีอยู่ในระยะยาว หากบริษัทฯ สามารถปรับปรุงผลประกอบการและกลับมาทำกำไรได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม โอกาสในการลงทุนมีทั้งความเสี่ยงและความท้าทาย ดังนี้:
* **โอกาส:**
* บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยมี D/E ที่ไม่สูง
* บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเหล็กมานาน
* บริษัทฯ มีโอกาสในการปรับปรุงผลประกอบการและกลับมาทำกำไรได้
* **ความเสี่ยง:**
* ความต้องการของตลาดเหล็กลดลงอย่างต่อเนื่อง
* ราคาวัตถุดิบเหล็กผันผวนอย่างมาก
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมเหล็กสูงมาก
* บริษัทฯ มีหนี้สินจำนวนมากและอาจมีปัญหาในการชำระหนี้
* บริษัทฯ อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
โดยสรุปแล้ว TYCN อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและคาดหวังการเติบโตในระยะยาวเท่านั้น
(18.54%)
(31.87%)
(215.93%)
(135.89%)
(197.87%)
(152.75%)
(6.14%)
(10.40%)
(332.95%)
(1,020.14%)
(60.83%)
(195.98%)