สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทวิเคราะห์ผลประกอบการของ บริษัท ทีเอสทีอี จำกัด (มหาชน) (TSTE)

บริษัท ทีเอสทีอี จำกัด (มหาชน) (TSTE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 612.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้หลักจากการขายสาหร่ายของบริษัท เนเจอร์ เบสท์ฟุ๊ด เพิ่มขึ้น 24.11 ล้านบาท และรายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์ของ บริษัท ที เอส โปรแพค เพิ่มขึ้น 9.23 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายแป้งสาลีของ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ ลดลง 47.78 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการให้เช่าและบริการ เพิ่มขึ้น 17.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก บริษัท ที เอส จุตสาหกรรมน้ำมัน มีรายได้รับจ้างผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 21.79 ล้านบาท

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ TSTE มุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจอาหาร ถังเก็บสินค้า และพลังงานทดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2568 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการใหม่ ๆ นอกจากนี้ TSTE ยังมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกเพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

TSTE มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 26.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.62 ซึ่งถือว่าต่ำ และยังคงมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่เป็นบวก ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ TSTE มีความผันผวน และ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 62.24 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด P/BV อยู่ที่ 1.6 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเช่นกัน YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 0.83% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

โอกาสการลงทุนใน TSTE อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาว โดยมีโอกาสรับเงินปันผลที่ค่อนข้างต่ำ แต่มีโอกาสเติบโตในอนาคต เนื่องจาก TSTE มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีแผนขยายธุรกิจในอนาคต

## โอกาส

* บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E อยู่ที่ 0.62 ซึ่งต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี
* บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจอาหาร ถังเก็บสินค้า และพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
* บริษัทมีแผนการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

## ความเสี่ยง

* ราคาหุ้น TSTE มีความผันผวน และ P/E ที่สูง
* YIELD ต่ำ
* บริษัทอาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
* ธุรกิจอาหารมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค
* ธุรกิจขนถ่ายและคลังสินค้าอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย